ตัวแทนสภาระดับสูงของสหรัฐเยือนยูเครน

เคียฟ 24 ก.ค.- คณะผู้แทนสมาชิกรัฐสภาระดับสูงของสหรัฐเข้าพบประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนที่กรุงเคียฟเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น และรับปากจะหาทางสร้างความมั่นใจว่าสหรัฐจะให้การสนับสนุนยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซียต่อไป คณะผู้แทนชุดนี้ซึ่งเป็นคณะผู้แทนระดับสูงล่าสุดของสหรัฐที่ไปเยือนยูเครนออกแถลงการณ์ว่า สหรัฐพร้อมด้วยพันธมิตรและหุ้นส่วนทั่วโลกยืนเคียงข้างยูเครนด้วยการจัดสรรความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ การทหาร และมนุษยธรรม ทางคณะผู้แทนจะหาทางสนับสนุนประธานาธิบดีเซเลนสกีและประชาชนชาวยูเครนอย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่สามารถทำได้ เพื่อให้พวกเขาได้ต่อสู้อย่างกล้าหาญต่อไป แถลงการณ์ไม่ได้ระบุเรื่องการจัดส่งอาวุธให้แก่ยูเครน หลังจาก พล.อ.ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐกล่าวเมื่อวันพุธว่า สหรัฐจะจัดส่งเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง (MLRS) ให้แก่ยูเครนอีก 4 เครื่อง และจะทำให้จัดสรรรวมเป็น 16 เครื่องแล้วจนถึงขณะนี้ อย่างไรก็ดี สถานีวิทยุเรดิโอฟรียุโรป/เรดิโอลิเบอร์ตีรายงานอ้าง สส.อดัม สมิธ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการทหารที่รวมอยู่ในคณะผู้แทนที่ไปเยือนยูเครนล่าสุดว่า สหรัฐและพันธมิตรพร้อมจัดส่งเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องให้แก่ยูเครนเพิ่มเติมอีก.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐจะให้ความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมแก่ยูเครน

สหรัฐสัญญาว่าจะให้การสนับสนุนดด้านการทหารเพิ่มเติมแก่ยูเครน ซึ่งรวมถึงการจัดหาโดรนให้ด้วย และกำลังดำเนินการในเบื้องต้นในการตัดสินใจว่าจะส่งเครื่องบินขับไล่ไปให้ยูเครนด้วยหรือไม่

ตุรกีเผยรัสเซียกับยูเครนจ่อทำข้อตกลงเปิดท่าเรือในทะเลดำ

เคียฟ 22 ก.ค. – ตุรกีเผยว่า รัสเซียกับยูเครนจะลงนามข้อตกลงร่วมกันในวันนี้เพื่อกลับไปเปิดท่าเรือของยูเครนในทะเลดำที่ยูเครนใช้ส่งออกธัญพืชอีกครั้ง ซึ่งทำให้เกิดความหวังครั้งใหม่ในการบรรเทาภาวะวิกฤตอาหารทั่วโลกที่เป็นผลมาจากการเปิดฉากบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย ทำเนียบประธานาธิบดีตุรกีประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่า รัสเซียกับยูเครนจะลงนามข้อตกลงในวันนี้เพื่อกลับไปเปิดท่าเรือของยูเครนในทะเลดำที่ใช้ส่งออกธัญพืชอีกครั้ง ขณะที่โฆษกขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดของข้อตกลงดังกล่าว แต่นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการของยูเอ็น จะเดินทางเยือนตุรกีในวันนี้ และคาดว่าจะมีการลงนามในข้อตกลงในเวลา 13.30 น. ของวันนี้ตามเวลามาตรฐานกรีนิช หรือตรงกับเวลา 20.30 น. ของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย อย่างไรก็ดี รัสเซียกับยูเครน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่ของโลก ยังไม่ได้ออกมายืนยันประกาศของทำเนียบประธานาธิบดีตุรกี แต่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวเป็นนัยผ่านคลิปวิดีโอเมื่อคืนวันพฤหัสบดีว่า รัสเซียอาจเลิกปิดกั้นท่าเรือของยูเครนในทะเลดำเร็ว ๆ นี้ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รัสเซียได้ใช้กองเรือปิดกั้นท่าเรือของยูเครนในทะเลดำจนทำให้ปริมาณอาหารในตลาดทั่วโลกลดลงอย่างมากและทำให้ราคาธัญพืชพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน สั่งเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียเผยขยายเป้าหมายมากกว่าภูมิภาคดอนบาส

มอสโก 21 ก.ค. – นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ระบุว่า กองทัพรัสเซียได้ขยายเป้าหมายของปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนออกไปมากกว่าภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน นายลาฟรอฟเผยกับสำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซียเมื่อวันพุธว่า กองทัพรัสเซียได้ขยายเป้าหมายของปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนออกไปมากกว่าภูมิภาคดอนบาส รัฐบาลรัสเซียจะขยายเป้าหมายในปฏิบัติการนี้เช่นกัน หากชาติตะวันตกยังคงส่งอาวุธโจมตีระยะไกล เช่น ระบบเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรสูง (HIMARS) ของสหรัฐ ให้แก่ยูเครน ขณะที่สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นหลายครั้งในแคว้นเคอร์ซัน ทางตอนใต้ของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครอง และมีผู้ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี สำนักข่าวรอยเตอร์สยังไม่สามารถตรวจสอบรายงานดังกล่าวได้อย่างอิสระ และเจ้าหน้าที่ของทางการยูเครนยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในขณะเดียวกัน กองทัพยูเครนอ้างว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ได้ทำลายยานยนต์ของกองทัพรัสเซีย 17 คัน ซึ่งรวมถึงรถหุ้มเกราะ และได้สังหารทหารรัสเซียกว่า 111 นายในพื้นที่ตอนใต้และตะวันออกของยูเครน ทั้งยังระบุว่า ยังไม่มีสัญญาณว่ากองทัพรัสเซียกำลังวางแผนปฏิบัติการพิเศษเพื่อเดินหน้าบุกโจมตียูเครนครั้งใหม่.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐทหารรัสเซียเสียชีวิต 15,000 รายในสงครามในยูเครน

นายวิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาง หรือ ซีไอเอ ของสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐประมาณการว่า จนถึงขณะนี้ มีทหารรัสเซียเสียชีวิตจากสงครามในยูเครนประมาณ 15,000 คน และบาดเจ็บอีกประมาณ 45,000 คน ในขณะที่ยูเครนเองก็มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

เผยยูเครนยิงถล่มสะพานสำคัญในแคว้นเคอร์ซันที่รัสเซียยึด

มอสโก 20 ก.ค. – รัสเซียเผยวันนี้ว่า ยูเครนได้ยิงจรวดหลายลูกถล่มสะพานอันโตเนียฟสกี ซึ่งเป็นสะพานสำคัญในแคว้นเคอร์ซันที่ถูกรัสเซียยึดครองและตั้งอยู่ทางตอนใต้ของยูเครน นายโวโลดีมีร์ ซัลโด หัวหน้าแคว้นเคอร์ซันที่มีรัสเเซียหนุนหลัง เผยผ่านสื่อโซเชียลมีเดียว่า สะพานอันโตเนียฟสกี ซึ่งเป็นหนึ่งในสองสะพานที่กองทัพรัสเซียใช้ข้ามไปยังดินแดนที่ถูกยึดครองบนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำดนิโปรที่ไหลผ่านตอนใต้ของยูเครน กำลังตกเป็นเป้าโจมตีอย่างหนักจากกองทัพยูเครนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาได้สั่งไม่ให้รถบรรทุกสินค้าวิ่งข้ามสะพานดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ โดยระบุว่าเป็นคำสั่งชั่วคราวเพื่อซ่อมแซมสะพาน แต่ยังคงอนุญาตให้รถยนต์โดยสารวิ่งผ่านสะพานดังกล่าว ซึ่งมีความยาวกว่า 1 กิโลเมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่ของแคว้นเคอร์ซันเผยกับสำนักข่าวอาร์ไอเอของรัสเซียว่า กองทัพยูเครนได้ยิงจรวด 12 ลูกจากเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรสูง (HMARS) โจมตีสะพานแห่งนี้เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นเครื่องยิงจรวดที่ยูเครนได้รับจากสหรัฐ ทั้งยังระบุว่า หากยูเครนยังคงไม่หยุดโจมตี สะพานแห่งนี้อาจถล่มได้ในที่สุด ในขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมของอังกฤษระบุว่า สะพานอันโตเนียฟสกีมีความสำคัญต่อกองทัพรัสเซียอย่างมาก เนื่องจากสะพานแห่งนี้เป็นหนึ่งในสองเส้นทางที่รัสเซียใช้เดินทางข้ามแม่น้ำดนิโปรเพื่อเพิ่มหรือถอนกำลังในดินแดนที่รัสเซียยึดครองบนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า กองทัพรัสเซียได้ยึดครองพื้นที่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำดนิโปร ซึ่งรวมถึงเมืองเคอร์ซันที่เป็นเมืองสำคัญของแคว้นเคอร์ซันด้วย. -สำนักข่าวไทย

รัสเซียครองแชมป์ส่งออกน้ำมันให้จีนเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน

ปักกิ่ง 20 ก.ค.- รัสเซียครองตำแหน่งประเทศที่ส่งออกน้ำมันให้จีนมากที่สุดเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนมิถุนายน หลังจากจีนหันไปนำเข้าน้ำมันราคาถูกจากรัสเซียเพิ่มขึ้น และลดการนำเข้าจากซาอุดีอาระเบียที่เคยเป็นแหล่งนำเข้าหลัก ข้อมูลของสำนักงานศุลกากรจีนระบุว่า เดือนมิถุนายนปีนี้จีนนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียทั้งหมด 7 ล้าน 2 แสน 9 หมื่นตัน ครอบคลุมทั้งการส่งผ่านท่อไซบีเรียตะวันออก-มหาสมุทรแปซิฟิก (ESPO) การส่งจากท่าเรือของรัสเซียที่มีทั้งท่าเรือยุโรปและท่าเรือตะวันออกไกล เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 10 จากเดือนมิถุนายนปีก่อน โดยคิดเป็นวันละ 1 ล้าน 7 แสน 7 หมื่นบาร์เรล แต่ยังคงน้อยกว่าเดือนพฤษภาคมที่จีนนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียมากเป็นประวัติการณ์เกือบวันละ 2 ล้านบาร์เรล ส่วนซาอุดีอาระเบียจีนนำเข้าน้ำมัน 5 ล้าน 6 หมื่นตันในเดือนมิถุนายนปีนี้ ลดลงร้อยละ 30 จากเดือนมิถุนายนปีก่อน โดยคิดเป็นวันละ 1 ล้าน 2 แสน 3 หมื่นบาร์เรล ลดลงจากวันละ 1 ล้าน 8 แสน 4 หมื่นบาร์เรลในเดือนพฤษภาคม ขณะเดียวกันจีนนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวหรือแอลเอ็นจี […]

สหรัฐอ้างรัสเซียเตรียมผนวกดินแดนยูเครนเหมือนไครเมีย

วอชิงตัน 20 ก.ค.- ทำเนียบขาวสหรัฐเผยว่า รัสเซียกำลังวางแผนผนวกดินแดนของยูเครนที่รัสเซียยึดครองอยู่ และแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตัวแทนผิดกฎหมาย โดยทำในลักษณะเดียวกับที่เคยใช้ยึดคาบสมุทรไครเมียของยูเครนมาแล้ว นายจอห์น เคอร์บี ผู้ประสานงานเพื่อการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ สภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวเผยว่า หน่วยข่าวกรองสรุปให้ทำเนียบขาวทราบว่า รัสเซียเตรียมผนวกดินแดนทางตะวันออกของยูเครนที่รัสเซียยึดครองอยู่ ซึ่งเป็นการละเมิดอธิปไตยของยูเครนโดยตรงด้วยการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตัวแทน กำหนดให้สกุลเงินรูเบิลเป็นสกุลเงินทางเลือก และบังคับผู้อาศัยให้ยื่นขอเป็นพลเมืองรัสเซีย รัสเซียเคยใช้วิธีนี้มาแล้วในการผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนในปี 2557 หลังจากเข้าไปยึดครอง และขณะนี้กำลังหาทางยึดครองหอกระจายเสียงในยูเครนด้วย นายเคอร์บีเผยด้วยว่า สหรัฐจะประกาศในอีกไม่กี่วันเรื่องจัดสรรอาวุธชุดใหม่ให้แก่ยูเครนที่กำลังสู้รบกับรัสเซียอย่างหนักหน่วงทางภาคตะวันออก เป็นการเบิกถอนเงินครั้งที่ 16 จากงบประมาณที่รัฐสภาอนุมัติและจัดสรรโดยใช้อำนาจของประธานาธิบดี รอยเตอร์ระบุว่า สหรัฐจัดสรรความช่วยเหลือด้านความมั่นคงให้แก่ยูเครนแล้ว 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 293,580 ล้านบาท) นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ด้านสถานทูตรัสเซียประจำสหรัฐ โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้การกล่าวอ้างของสหรัฐว่า เป็นเรื่องเท็จอย่างแท้จริง เพราะจนถึงขณะนี้รัสเซียได้จัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ยูเครน สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์แล้วมากกว่า 45,000 ตัน.-สำนักข่าวไทย

“ปูติน” อ้างยูเครนไม่ยอมทำตามเงื่อนไขข้อตกลงสันติภาพ

เตหะราน 20 ก.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เผยวันนี้ว่า รัฐบาลรัสเซียยังไม่เห็นว่ายูเครนต้องการที่จะทำตามเงื่อนไขในข้อตกลงสันติภาพเบื้องต้นตามที่ได้ตกลงกันไว้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีปูตินให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์หลังเสร็จสิ้นภารกิจเยือนอิหร่านในช่วงเช้ามืดวันนี้ว่า รัฐบาลรัสเซียยังไม่เห็นว่ายูเครนต้องการที่จะทำตามเงื่อนไขในข้อตกลงสันติภาพเบื้องต้นตามที่ได้ตกลงกันไว้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งยังระบุว่า ซาอุดีอาระเบียกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เสนอตัวเป็นคนกลางเพื่อช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขณะที่รัฐบาลยูเครนยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับคำพูดดังกล่าวของประธานาธิบดีปูติน ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีปูตินได้เดินทางเยือนอิหร่านเมื่อวันอังคาร และได้พบกับ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่ถูกชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีปูตินยังได้พบกับประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน ของตุรกี ในระหว่างเดินทางเยือนอิหร่าน เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงกลับมาเปิดการส่งออกธัญพืชของยูเครนจากท่าเรือในทะเลดำ ซึ่งถูกรัสเซียปิดล้อม ผู้นำรัสเซียระบุว่า รัสเซียพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกในการส่งออกธัญพืชของยูเครนจากท่าเรือในทะเลดำ แต่ก็ต้องการให้นานาชาติยกเลิกการใช้มาตรการจำกัดการส่งออกธัญพืชจากรัสเซียเช่นกัน. -สำนักข่าวไทย

“ปูติน” เดินทางเยือนอิหร่านในวันนี้

เตหะราน 19 ก.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะเดินทางเยือนอิหร่านในวันนี้ ซึ่งนับเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งที่สองของผู้นำรัสเซีย นับตั้งแต่รัสเซียสั่งเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีปูตินจะเดินทางเยือนรัสเซียเพื่อพบกับอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน และประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน ของตุรกี ขณะที่เจ้าหน้าที่ของทางการตุรกีระบุว่า ผู้นำทั้งสามจะหารือร่วมกันในประเด็นเกี่ยวกับการส่งออกธัญพืช สงครามซีเรีย และสงครามยูเครน บีบีซีมองว่า การเดินทางเยือนอิหร่านจะเปิดโอกาสให้ประธานาธิบดีปูตินเดินหน้าสานสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับอิหร่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในชาติพันธมิตรที่เหลืออยู่ไม่มากของรัสเซียและถูกชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกับรัสเซีย ทั้งนี้ การเดินทางเยือนอิหร่านของผู้นำรัสเซียมีขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่สหรัฐได้กล่าวหารัฐบาลอิหร่านเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า อิหร่านกำลังวางแผนส่งโดรนหลายร้อยลำให้แก่รัสเซียเพื่อนำไปใช้ในสงครามยูเครน ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีปูตินได้เดินทางเยือนทาจิกิสถานและเติร์กเมนิสถานในเดือนมิถุนายน ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดฉากบุกโจมตียูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ โดยที่ทั้งสองประเทศเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต. -สำนักข่าวไทย

ฟิลิปปินส์เล็งทำข้อตกลงนำเข้าปุ๋ยจากจีน-รัสเซีย

มะนิลา 19 ก.ค. – ฟิลิปปินส์กำลังพิจารณาทำข้อตกลงนำเข้าปุ๋ยจากผู้ผลิตปุ๋ยรายใหญ่ของโลก เช่น จีนกับรัสเซีย เพื่อลดต้นทุนด้านการเกษตรและเพิ่มผลผลิตอาหารท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อสูง ทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า ประธานาธิบดีมาร์กอส เฟอร์ดินานด์ จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ ได้วางแผนทำข้อตกลงนำเข้าปุ๋ยในราคาที่เหมาะสมจากจีน รัสเซีย อินโดนีเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมาเลเซีย ประธานาธิบดีมาร์กอสได้ให้คำมั่นว่าจะเดินหน้านโยบายกระตุ้นผลผลิตทางการเกษตรภายใน 6 เดือนข้างหน้า และต้องการให้ฟิลิปปินส์ลดพึ่งพาการนำเข้าอาหาร รวมถึงหลีกเลี่ยงผลกระทบรุนแรงจากปัญหาวิกฤตอาหารที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งนี้ ผู้นำฟิลิปปินส์เตรียมแจ้งให้ประเทศผู้ผลิตปุ๋ยทั้งห้ารายทราบถึงปริมาณปุ๋ยที่ฟิลิปปินส์ต้องการนำเข้าในเร็ว ๆ นี้ ปัจจุบันฟิลิปปินส์ใช้ปุ๋ยราวปีละ 2.5 ล้านตัน ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์เตือนว่า ราคาข้าวในประเทศที่พุ่งสูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเป็นผลมาจากราคาปุ๋ยที่แพงขึ้นจากปัญหาสงครามยูเครนที่ทำให้ปริมาณปุ๋ยในตลาดทั่วโลกลดลง ขณะนี้ ฟิลิปปินส์มีอัตราเงินเฟ้อโดยเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 4.4 ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ สูงกว่าที่ทางการคาดไว้ที่ร้อยละ 2-4 และมีอัตราเงินเฟ้อสูงถึงร้อยละ 6.1 ในเดือนมิถุนายน ซึ่งทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี. -สำนักข่าวไทย

เผยประธานสภาสหรัฐจะเยือนไต้หวัน

วอชิงตัน 19 ก.ค.- หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ของสหรัฐรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีกำหนดการเยือนไต้หวันในเดือนสิงหาคม เป็นหนึ่งในการตระเวนเยือนเอเชีย รายงานอ้างแหล่งข่าว 6 รายว่า นางเปโลซีและคณะจะเยือนไต้หวัน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย และสิงคโปร์ และแวะเยี่ยมศูนย์บัญชาการในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐบนเกาะฮาวาย เธอเลื่อนการเยือนไต้หวันมาจากเดือนเมษายนเนื่องจากตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขณะที่จีนประกาศในเวลานั้นว่า การเยือนของนางเปโลซีจะกระทบความสัมพันธ์จีน-สหรัฐอย่างร้ายแรง ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐวัย 82 ปี วิพากษ์วิจารณ์จีนมาโดยตลอด และเคยประชุมออนไลน์กับรองประธานาธิบดีวิลเลียม ไล่ของไต้หวันเมื่อเดือนมกราคมในช่วงที่เขาแวะสหรัฐระหว่างไปเยือนฮอนดูรัส รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า คนในรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนมีความเห็นแตกต่างกันว่า นางเปโลซีควรไปเยือนไต้หวันหรือไม่ เจ้าหน้าที่บางคนคิดว่า การไปเยือนในเดือนเมษายนจะมีความชอบธรรมมากกว่า เพราะเป็นช่วงที่รัสเซียเพิ่งรุกรานยูเครนได้ไม่นาน ด้านจีนเรียกร้องเมื่อวันจันทร์ให้สหรัฐยกเลิกการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ไต้หวันมูลค่า 108 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,956 ล้านบาท) โดยทันที.-สำนักข่าวไทย

1 107 108 109 110 111 288
...