รัฐบาล ย้ำวอร์รูม ศบ.ทก. ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง

ทำเนียบ 29 ก.ค.-รัฐบาล ย้ำวอร์รูม ศบ.ทก. ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ยืนยันช่วงบ่ายถึงค่ำวันนี้ เสียงปืนเบาลง หลังจากกองทัพภาคที่ 1-2 รวมทัพเรือไทย ตั้งโต๊ะพูดคุยกับผู้บัญชาการภูมิภาค 4-5 ของกัมพูชา พร้อมสั่งการ ศบ.ทก. ประชุมประเมินสถานการณ์พรุ่งนี้อีกครั้ง ก่อนแจ้งส่งประชาชนคืนพื้นที่เมื่อสถานการณ์ปลอดภัย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลสั่งการให้วอร์รูมที่จัดตั้งขึ้นในนามของ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) โดยมีพลเอกณัฐพล นาคพานิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นหัวหน้าศูนย์เฉพาะกิจฯ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาและให้เป็น “วอร์รูม” ศูนย์รวมในการสั่งการและรับข้อมูลจากทุกภาคส่วนเพื่อประเมินสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะหลังจากการเจรจาหยุดยิงที่เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซียวานนี้ ศูนย์เฉพาะกิจฯ ได้ประชุมและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงโดยจะรับฟังข้อมูลจากพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 และกองทัพเรือที่ดูแลจังหวัดจันทบุรีและตราด ศบ.ทก. จะมอนิเตอร์ข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งสถานการณ์ชายแดน 7 จังหวัดอย่างต่อเนื่อง และหากมีเหตุการณ์สำคัญหรือภารกิจเร่งด่วน ก็ให้ดำเนินการประสานงานสั่งการกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง […]

รัฐบาลไทยย้ำ ไม่มีทางที่จะใช้อาวุธชีวภาพในกัมพูชา

ทำเนียบ 29 ก.ค.-รัฐบาลไทยย้ำ ไม่มีทางที่จะใช้อาวุธชีวภาพในกัมพูชา เพราะเป็นการปะทะชายแดนเท่านั้น ชี้ข่าวจากเฟซบุ๊กปลอมเป็นความพยายามบิดเบือน สร้างความแตกแยกในภูมิภาค นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า จากกรณีสื่อมวลชนกัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลโดยอ้างอิงจาก “เฟซบุ๊กแฟนเพจ” ซึ่งระบุว่าเป็นของกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และมีการกล่าวหาอย่างร้ายแรง ว่าไทยใช้อาวุธชีวภาพในการโจมตีในพื้นที่ชายแดนนั้น รัฐบาลขอปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวโดยสิ้นเชิง และคาดว่า เฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นบัญชีปลอม และเป็นความพยายามอย่างชัดแจ้งในการบิดเบือนข้อเท็จจริง รัฐบาลยืนยันว่า การปฏิบัติการของกองทัพไทยอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention: CWC) และองค์การห้ามอาวุธเคมี (Organisation for the Prohibition of Chemical Weapons: OPCW) ประเทศไทยไม่มีนโยบายหรือแนวปฏิบัติในการใช้หรือพัฒนาอาวุธชีวภาพหรืออาวุธต้องห้ามใดๆ ทั้งสิ้น การปะทะที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการป้องกันอธิปไตยตามแนวชายแดน มิใช่สงครามเต็มรูปแบบ และกองทัพไทยยังคงดำรงจริยธรรมทางการทหารอย่างสุภาพบุรุษเสมอมา ทั้งนี้ ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีสามารถตรวจจับสารพิษตกค้างหรือการใช้อาวุธต้องห้ามได้อย่างแม่นยำ ไม่สามารถปกปิดได้ในเวทีระหว่างประเทศ หากไทยใช้อาวุธชีวภาพจริง ย่อมมีการตรวจพบโดยองค์การสหประชาชาติและหน่วยงานด้านความมั่นคงทั่วโลกแล้ว รัฐบาลไทยขอเตือนประชาชนและสื่อมวลชนให้ใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบในการรับข้อมูลจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจที่ไม่มีการยืนยันตัวตนอย่างเป็นทางการ และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือบิดเบือนที่อาจบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมเน้นย้ำจุดยืนของไทยในการลดความตึงเครียดและผลักดันการเจรจาสันติภาพอย่างยั่งยืนในภูมิภาค.-314.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลแถลงยันกัมพูชาละเมิดข้อตกลง ยื่นประท้วง ปธ.อาเซียน-สหรัฐ-จีน

ทำเนียบ 29 ก.ค.-รัฐบาลแถลงยืนยันไทยมีความจริงใจ-หยุดยิงตามข้อตกลง แต่กัมพูชากลับยิงใส่ทหารไทยหลายพื้นที่ จึงได้ประท้วงไปที่ ปธ.อาเซียน-สหรัฐ-จีน ขอประชาชนอย่าเพิ่งกลับบ้าน ให้รอผลยืนยันจากรัฐ พร้อมสดุดีวีรกรรมทหารกล้า ปกป้องอธิปไตยประเทศ-คุ้มครองประชาชน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี อ่านแถลงการณ์ความคืบหน้าการดำเนินการของรัฐบาลต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รัฐบาลไทยมีความจริงใจ และใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะยุติสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาโดยเร็วที่สุด การเจรจาจนมีข้อตกลงหยุดยิงของทั้ง 2 ฝ่าย โดยยึดถือผลประโยชน์ของประชาชน และยึดถืออำนาจอธิปไตยของประเทศเป็นสำคัญ รวมทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และทหารของชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความหวังร่วมกันของประชาคมโลกที่จะคืนสันติภาพแก่ประชาชาชนทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งรัฐบาลไทยเคารพต่อผลการหารือที่เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย และปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อหยุดยิงตามที่ได้แถลงร่วมกัน แต่ปรากฎข้อเท็จจริงว่า กองกำลังกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยมีการใช้อาวุธยิงต่อกำลังฝ่ายไทยในหลายพื้นที่ ทำให้ทหารฝ่ายไทยต้องตอบโต้อย่างเด็ดขาด และเหมาะสม เพื่อปกป้องอธิปไตยและชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้ประท้วงไปยังประธานอาเซียน สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นสักขีพยานในการเจรจา เพื่อให้ได้รับทราบว่า การละเมิดข้อตกลงนี้เป็นเหตุจากการไม่ซื่อตรง และไม่จริงใจของกัมพูชาอย่างชัดเจน สถานการณ์ในขณะนี้ รัฐบาลมอบหมายให้ทุกเหล่าทัพตรึงกำลัง เพื่อรักษาอธิปไตย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่ยินยอมให้อธิปไตยไทยถูกล่วงล้ำไม่ว่ากรณีใดๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงสายวันนี้ ได้มีการพูดคุยกันระหว่างแม่ทัพภาคของทั้ง 2 ประเทศ […]

แนะช่องทางปลอดภัยโอนช่วยผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา

27 ก.ค. – รัฐบาลอำนวยความสะดวก แนะนำช่องทางปลอดภัยไม่โดนมิจฉาชีพหลอก ให้โอนช่วยเหลือผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา ผ่านกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี วันนี้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่ารัฐบาล ประสานเปิดช่องทางในการรับบริจาคทางการ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ผ่าน “กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี” เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ประสงค์ร่วมช่วยเหลือ   •   ชื่อบัญชี: กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี   •   ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาทำเนียบรัฐบาล   •   เลขที่บัญชี: 067-0-06895-0(ยอดเงินบริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้) ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-283-4319, 0-283-4324, 06-3081-4921 หรือเว็บไซต์ www.opm.go.th อนึ่ง กรุงเทพมหานคร ยังได้จัดตั้ง “ศูนย์ส่งต่อกำลังใจจาก กทม. สู่ผู้ประสบภัยชายแดน” เปิดรับบริจาคสิ่งของจำเป็นตลอด 24 ชั่วโมง ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ห้องรัตนโกสินทร์ และที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต (เวลา 08.30 – […]

รัฐบาลย้ำพร้อมสนับสนุนกองทัพ ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่

ทำเนียบ 27 ก.ค.-ขอบคุณ..น้ำใจคนไทย ร่วมบริจาคเลือด-สนับสนุนสิ่งของให้ผู้ประสบภัย ให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดน รัฐบาลย้ำพร้อมสนับสนุนกองทัพ ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข้อมูลข่าวสารในสื่อสาธารณะ ระบุว่าหน่วยทหารกองทัพบก มีการขอเรี่ยไรหรือรับการบริจาคเงิน หรือสิ่งของจากภาคประชาชนหรือองค์กรต่าง ๆ เพื่อนำไปมอบให้ทหารที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดนนั้น กองทัพบกได้ออกมาชี้แจ้งแล้วว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยยืนยันว่า หน่วยทหารในกองทัพบกไม่มีนโยบายและการดำเนินการขอรับการบริจาคตามที่ปรากฏข่าวสารแต่อย่างใด เนื่องจากหน่วยทหารของกองทัพบกได้รับการเบิกจ่ายสิ่งอุปกรณ์ตามระบบราชการ และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเพียงพอต่อการปฏิบัติภารกิจ ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม โดยเฉพาะข่าวที่เกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงของประเทศ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งจากการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม พบว่า มีข่าวปลอมจำนวนมากถูกเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ และอย่าหลงเชื่ออินฟลูเอนเซอร์ปลุกปั่น-เพจรับบริจาคลวง ปั่นป่วนชายแดนกระทบความมั่นคง ทั้งนี้ หากประชาชนหรือหน่วยงานต่าง ๆ มีความประสงค์จะร่วมส่งกำลังใจ หรือแสดงน้ำใจด้วยการสนับสนุนสิ่งของจำเป็นให้แก่หน่วยทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดน ซึ่งขณะนี้มีผู้แสดงความตั้งใจเข้ามาเป็นจำนวนมาก ให้สามารถติดต่อประสานงานตามเบอร์โทรศัพท์ ดังนี้ พื้นที่กองทัพภาคที่ 1-กองบัญชาการกองกำลังบูรพา อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว โทร.037-261-218-หน่วยเฉพาะกิจ อรัญประเทศ ต.เมืองไผ่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โทร. 098-263-1618-หน่วยเฉพาะกิจ คลองหาด ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว โทร. […]

“วันนอร์” นำข้อเสนอแนะ สส. แก้ชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งรัฐบาล

รัฐสภา 25 ก.ค.-“วันนอร์” นำข้อเสนอแนะแก้ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ของ สส. ส่งรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องแล้ว พร้อมตรียมนำทีม สส.ลงพื้นที่ เยี่ยมให้กำลังใจประชาชน-ทหาร กองทัพภาค 2 วันที่ 1 ส.ค.นี้ ขณะที่สภาเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจาเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาจากสถานการณ์การปะทะกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าที่ประชุมส่วนใหญ่ได้อภิปรายถึงสาเหตุปัญหาที่เกิดขึ้นและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและทางสภามีความห่วงใยทหารของชาติ ที่ต้องไปอยู่อย่างยากลำบาก และเสียชีวิต ซึ่งเป็นความห่วงใยของสภาผู้แทนราษฎรจึงได้เอาข้ออภิปรายความห่วงใย ข้อเสนอแนะทั้งหมดเสนอต่อรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงกลาโหม กองทัพภาคที่ 2 เพื่อให้ดำเนินการตามนั้น ขณะเดียวกันทางประธานสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะเดินทางไปเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและทหารที่อยู่ในพื้นที่ในวันที่ 1 ส.ค. ที่ไม่ได้ไปทันทีในช่วงนี้เนื่องจากมีภารกิจและมีพระราชพิธีที่สำคัญ ทั้งนี้ในวันดังกล่าวจะรวบรวมของบริจาคเพื่อไปดูแลประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ รวมถึงผู้ที่บาดเจ็บ ในนามของรัฐสภาและผู้แทนประชาชน และในช่วงเย็นวันที่ 1 ส.ค.จะเดินทางไปที่กองทัพภาคที่ 2 ด้วย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทางสำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎรได้เปิดบัญชีขอรับบริจาค เพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกรัฐสภา รวมถึงประชาชนทั่วไปสามารถบริจาคได้ที่บัญชีสภาผู้แทนราษฎรเพื่อช่วยเหลือทหารกล้า ธนาคารกรุงไทย สาขารัฐสภา เลขที่ 0890898898 .-312.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลห่วงใยคนไทยทำงานในพื้นที่ชายแดน ย้ำเลี่ยงอยู่พื้นที่เสี่ยง

ทำเนียบ 25 ก.ค.-รัฐบาลห่วงใยคนไทยทำงานในพื้นที่ชายแดน ย้ำหลีกเลี่ยงการเดินทางหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่อาจเกิดเหตุความรุนแรง นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รัฐบาลมีความห่วงใยต่อพี่น้องชาวไทยที่ทำงานชายแดนและแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย ขอให้ทุกคนเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ชีวิต หลีกเลี่ยงการเดินทางหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่อาจเกิดเหตุความรุนแรง ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ แนะนำให้คนไทยที่พำนักหรือพำนักชั่วคราวในประเทศกัมพูชาและไม่มีความจำเป็นเดินทางออกจากประเทศโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถดำเนินการได้อย่างปลอดภัย และขอความร่วมมือให้คนไทยที่ไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดงดการเดินทางมายังกัมพูชาในช่วงนี้ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ในกรณีฉุกเฉินหรือความต้องการความช่วยเหลือ โดยสามารถติดต่อหน่วยงานของไทยได้ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ โทรศัพท์ฉุกเฉิน: (+855) 975 749 682 สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ โทรศัพท์: (+855) 86 608 999 Call Center กรมการกงสุล โทรศัพท์: (+66) 2 572 8442 (ตลอด 24 ชั่วโมง) “รัฐบาลสั่งการหน่วยงานติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชาอย่างใกล้ชิด พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนในทุกด้าน ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากส่วนราชการอย่างต่อเนื่อง” นางสาวศศิกานต์ ย้ำ.-316.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลพร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 25 ก.ค.-รัฐบาลสั่งการด่วนให้ผู้ว่าฯ ชายแดน รวบรวมรายชื่อผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ เพื่อใช้งบประมาณเยียวยาจากกองทุนสำนักนายกฯ เบื้องต้น พร้อมให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังให้การช่วยเหลือชายแดน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สรุปตัวเลขของประชาชนและเจ้าหน้าที่ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ประทะกันตามแนวชายแดน ทั้งในส่วนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และทรัพย์สิน โดยให้ส่งรายละเอียดให้กับแต่ละจังหวัดเพื่อดำเนินการสรุปจำนวน มอบเงินช่วยเหลือชดเชยเยียวยา ทั้งในส่วนข้าราชการทหารและประชาชน โดยเบื้องต้น จะใช้เงินของกองทุนสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น ส่วนการเยียวยาด้านอื่นๆ ให้เร่งรัดสรุปกลับไปยังกระทรวงมหาดไทย และสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชายแดน เช่น กระทรวงศึกษาธิการ ได้สั่งปิดโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงชั่วคราว กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการเปลี่ยนโรงพยาบาลในพื้นที่เป็นโรงพยาบาลสนามชั่วคราว รวมถึงอพยพคนป่วย ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดไปสู่โรงพยาบาลอื่นๆ ที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ดูแลเรื่องการเยียวยาและบรรเทาทุกข์เบื้องต้น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ตรวจสอบและแก้ไขประชาสัมพันธ์ข่าวเท็จในสถานการณ์กระทรวงมหาดไทย ให้ดำเนินการตามแผนการ ร่วมกับกองทัพในพื้นที่ในการดูแลประชาชนในทุกมิติ ส่วนมาตรการด้านการต่างประเทศ รัฐบาลยืนยันได้ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาลง โดยได้แจ้ง กระทรวงการต่างประเทศให้เรียกเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศไทยแล้ว และส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยกลับสู่ประเทศ ซึ่งถือเป็นมาตรการที่มีความรุนแรงที่สุดในทางการทูต.-314.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งทุกส่วนราชการเร่งช่วยประชาชนชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 25 ก.ค.-รัฐบาลสั่งทุกส่วนราชการเร่งให้ความช่วยประชาชนชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน ก.เกษตรฯ ตั้ง War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตรอย่างใกล้ชิด ส่วน ศธ.สั่งปิดโรงเรียน เร่งให้ความช่วยเหลือครอบครัวนักเรียนที่ได้รับผลกระทบ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบจากเหตุปะทะกันระหว่างกำลังความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลได้บูรณาความร่วมมือ สั่งการให้ทุกภาคส่วนราชการเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยยึดหลักความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก พร้อมเตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์ นายอนุกูล กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดตั้ง “War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา” เพื่อเฝ้าระวัง ติดตาม และวิเคราะห์ผลกระทบด้านการเกษตรในพื้นที่จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างใกล้ชิด ทั้งติดตามสถานการณ์พื้นที่เกษตรในแนวชายแดนแบบเรียลไทม์ และประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการผลิตพืช สินค้าเกษตร และปศุสัตว์ รวมถึง วางแผนเผชิญเหตุและเสนอแนวทาง ช่วยเหลือเกษตรกรอย่างทันท่วงที พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานในพื้นที่ และสื่อสารสถานการณ์แก่เกษตรกรและประชาชนให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง รวดเร็ว โดยจะใช้ระบบ ข้อมูลเชิงพื้นที่ (GIS-Based Dashboard) เพื่อเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะในจังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรหลักที่อยู่ในรัศมีความเสี่ยงจากสถานการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีการตั้ง “ศูนย์ย่อยประสานงานจังหวัด” ในระดับสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด […]

“แพทองธาร” ส่งกำลังใจถึงกองทัพ เชื่อทั่วโลกประณามกัมพูชา

ฉะเชิงเทรา 24 ก.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ ส่งกำลังใจถึงกองทัพ เชื่อทั่วโลกประณามกัมพูชา เป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน ทำประชาชนบาดเจ็บ พร้อมส่งกำลังใจให้ประชาชนในพื้นที่ รัฐบาลเตรียมมาตรการไว้แล้ว ที่อดทนอดกลั้นเพราะไม่อยากให้เสียเลือดเสียเนื้อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางลงพื้นที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อประชุมติดตามผลการดำเนินงาน รายการค่าใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ที่ศาลาว่าการจังหวัดฉะเชิงเทรา ถึงกรณี รัฐบาลและกองทัพร่วมกันทำกรอบการดูแลพี่น้องประชาชนเป็นจุดยืนที่เน้นย้ำมาโดยตลอด แต่ในที่สุดฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน ซึ่งฝ่ายกัมพูชาก็อ้างว่า ฝ่ายไทยยิงก่อนเช่นเดิม แต่ในสายตาของชาวโลกนั้น เรามีเครื่องไม้เครื่องมือที่เยอะกว่า ชาวโลดจะเชื่อถือกัมพูชาคงลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ซึ่งทางนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ได้เตรียมความพร้อมอย่างดีในการดูแลพี่น้องประชาชน จากการโทรพูดคุยกันทางโทรศัพท์ เป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและมีการประชุมกันการรับมือกับอาวุธที่มีตรงชายแดนพร้อมนานแล้ว หากเทียบกับสถานการณ์ปี 54 พร้อมมากกว่า 2-3 เท่า ในส่วนของกองทัพ แน่นอนว่า ไม่อยากให้เกิดความรุนแรงตั้งแต่แรกแต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วทางกองทัพเตรียมความพร้อมไว้อย่างดี สิ่งสำคัญที่จะผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ ความสามัคคีของคนในชาติ สิ่งที่กองทัพและรัฐบาลพยายามมาโดยตลอดคือ ไม่อยากให้พี่น้องประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บ คือสิ่งที่ทำมาเสมอ “เรารักคนของเราประเทศชาติของเราเรา ไม่อยากให้ใครก็ตามได้รับผลกระทบหรือความเจ็บปวดในครั้งนี้” แม้เราจะไม่ทราบว่าฝ่ายนั้นเขาคิดอย่างไรกับประชาชนของเขา แต่เราคิดกับประชาชนเราแบบนี้ เป็นสิ่งที่เน้นย้ำว่ารัฐบาลและกองทัพทำมาโดยตลอด ทั้งนี้รักษาการนายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการให้ดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่ […]

รัฐบาลเตือน ระวัง 14 เพจอันตราย หลอกประชาชน

ทำเนียบ 24 ก.ค.-รัฐบาลเตือน ระวัง 14 เพจอันตราย หลอกประชาชน ย้ำระดมกวาดล้างจับกุม แนะใช้แพลตฟอร์มตัวกลางช่วยตรวจสอบได้ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าปัจจุบันในยุคที่เทคโนโลยีและดิจิทัลมีความก้าวหน้าและพัฒนาอย่างรวดเร็ว สร้างความท้าทายใหม่ๆ ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่งผลให้เกิดปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งปัจจุบันยังพบการหลอกลวงเหยื่อ โดยมักจะใช้วิธีการที่มาในรูปแบบของการสร้างแรงจูงใจผ่านรูปแบบต่าง ๆ เช่น หลอกให้ลงทุน หลอกหารายได้พิเศษ หรือหลอกให้หลงเชื่อใส่ข้อมูลส่วนตัว ด้วยวิธีการหลอกลวงดังกล่าว กลุ่มมิจฉาชีพมักจะใช้วิธีการแอบแฝงในโลกออนไลน์โดยมาในรูปแบบของการสร้างเว็บไซต์ หรือเพจปลอม โดยล่าสุด สภาองค์กรของผู้บริโภค เผยตัวเลขช่วงระยะเวลาดำเนินงานเฝ้าระวังและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปิดกั้นเพจปลอมที่หลอกลวงผู้บริโภคตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 – พฤษภาคม 2568 จำนวนกว่า 325 เพจ นอกจากนี้ จากการตรวจสอบยังคงพบ 14 เพจ ที่ถูกรายงานแล้ว แต่ยังคงพบการเปิดดำเนินการซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่อผู้บริโภค นายอนุกูล กล่าวว่า เพื่อสร้างความตระหนักรู้เท่าทันต่อกลโกงของมิจฉาชีพ ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงในรูปแบบของการโฆษณาชวนเชื่อ ผ่านการหลอกลวงด้วยข้อเสนอที่ดึงดูด หรือขายสินค้าราคาถูกเกินจริง ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังต่อเว็บไซต์หรือเพจ จำนวน 14 เพจ ดังต่อไปนี้ 1. เพจ […]

รัฐบาลชวนสวมเสื้อสีเหลืองในเดือนมหามงคล

ทำเนียบ 22 ก.ค.-รัฐบาลเชิญชวนส่วนราชการและประชาชน สวมเสื้อสีเหลืองในเดือนมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะที่ “ภูมิธรรม” รักษาราชการแทนนายกฯ สั่งปรับปรุงการสื่อสารภาครัฐผ่านโซเชียลมีเดียให้ทันเหตุการณ์ กำชับทุกหน่วยงานที่มีหน้าที่แก้ไขสถานการณ์ภัยพิบัติต่างๆ ต้องพร้อมทุกมิติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการในที่ประชุม ดังนี้ ในเดือนมหามงคลนี้ ขอให้ส่วนราชการร่วมแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2568 นี้ รัฐบาลจึงขอความร่วมมือให้ทุกหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานความมั่นคง ภาคเอกชนและประชาชน พร้อมใจกันแต่งกายด้วยเสื้อสีเหลืองเพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันตั้งแต่วันจันทร์ที่ 28กรกฎาคม 2568 ถึงวันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2568 นอกจากนี้นายภูมิธรรม ยังได้สั่งการเรื่องการสื่อสารของหน่วยงานภาครัฐ เนื่องจากการสื่อสารของประชาชนในยุคดิจิทัล ปัจจุบันสื่อ social media มีอิทธิพลต่อการรับรู้ของประชาชนอย่างมาก ทำให้การรับทราบปัญหา เหตุด่วนเหตุร้ายดำเนินด้วยความรวดเร็วทันการณ์ แต่ในอีกด้านหนึ่งข่าวสารที่เผยแพร่อย่างรวดเร็วอาจขาดการตรวจสอบกลั่นกรอง ดังนั้น ในฐานะที่หน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นผู้ตอบสนองแก้ไขปัญหา จึงขอให้ปรับปรุงให้ทันต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน รับการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายต่าง ๆ เพื่อให้แก้ไขเหตุการณ์ต่าง […]

1 2 3 4 129
...