“ปูติน” กล่าวหาตะวันตกต้องการให้คนรัสเซียฆ่ากันเอง

มอสโก 27 มิ.ย.- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียกล่าวหายูเครนและพันธมิตรชาติตะวันตกว่า ต้องการให้ชาวรัสเซียฆ่ากันเองในช่วงที่กลุ่มนักรบรับจ้างก่อกบฏในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีปูตินกล่าวทางโทรทัศน์ต่อคนทั้งประเทศเป็นครั้งแรกนับจากกลุ่มนักรบรับจ้างแวกเนอร์ (Wagner) ถอนกำลังกลับไปเมื่อกลางดึกวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เขาได้มีคำสั่งให้หลีกเลี่ยงการนองเลือด และได้นิรโทษกรรมนักรบแวกเนอร์ที่เข้าร่วมการก่อกบฏ เขาระบุด้วยว่า เป็นที่ชัดเจนว่าศัตรูของรัสเซียทั้งกลุ่มนาซีใหม่ในยูเครนและผู้อุปถัมป์ตะวันตก รวมถึงผู้ทรยศชาติทั้งหลาย ต้องการให้เกิดการฆ่าพี่น้อง ต้องการให้ชาวรัสเซียฆ่ากันเอง ประธานาธิบดีปูตินกล่าวว่า ความเป็นปึกแผ่นของพลเมืองได้แสดงให้เห็นว่า การขู่กรรโชกและความพยายามใด ๆ ที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายภายในจะต้องล้มเหลวในที่สุด ส่วนนักรบแวกเนอร์ยังมีโอกาสที่จะรับใช้รัสเซียต่อไปด้วยการทำสัญญากับกระทรวงกลาโหมหรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หรือเลือกกลับไปอยู่กับครอบครัว หรือย้ายไปอยู่ที่เบลารุส ด้านโฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐเผยว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐกำลังติดตามสถานการณ์ในรัสเซียอย่างใกล้ชิด และได้มีโอกาสพูดคุยผ่านช่องทางทางการทูตกับเจ้าหน้าที่รัสเซียในช่วงที่เกิดเหตุเพื่อแสดงความกังวล ขณะที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐในกรุงมอสโกได้ติดต่อเจ้าหน้าที่รัสเซียเพื่อย้ำในสิ่งที่สหรัฐประกาศอย่างชัดเจนว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องภายในของรัสเซียที่สหรัฐไม่ได้เกี่ยวข้องและจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง.-สำนักข่าวไทย

สงครามยูเครนจะทำให้เด็ก 1 ใน 4 อยู่อย่างลำบากในปีนี้

กรุงเฮก 26 มิ.ย.- กลุ่มสิทธิเตือนในวันนี้ว่า สงครามยูเครนที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 ปีจะทำให้เด็กทั่วโลกราว 1 ใน 4 ต้องมีชีวิตต่ำกว่าเส้นความยากจนภายในปีนี้ อันเป็นผลจากราคาอาหารและพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นเพราะสงคราม คิดส์ไรทส์ (KidsRights) ที่ตั้งอยู่ในเนเธอร์แลนด์ออกรายงานว่า สงครามยูเครนได้ซ้ำเติมเด็กทั่วโลกที่ตกอยู่ในความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบจากโรคโควิด-19 ระบาดอยู่แล้ว ปัจจัยทั้งหมดนี้ทำให้เกิดภาวะหลายวิกฤตที่มีความร้ายแรงสุดขีด เพราะทำให้เด็กยังคงถูกพรากสิทธิและความเป็นอยู่ที่ดี คาดกันว่า 1 ใน 4 ของเด็กทั่วโลกจะมีชีวิตความเป็นอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจนในปีนี้ เพราะราคาอาหารและพลังงานปรับตัวสูงขึ้นจากผลพวงของสงคราม เด็กชาวยูเครน 7 ล้าน 5 แสนคนเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสงครามมากที่สุด นอกจากนี้ภาวะเงินเฟ้อและความตึงตัวด้านสาธารณสุขหลังผ่านพ้นโควิดระบาดก็ส่งผลทางลบเช่นเดียวกัน เด็ก 67 ล้านคนทั่วโลกไมได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคตามปกติในปี 2562-2564 เพราะโควิดระบาด คิดส์ไรทส์ยังได้เปิดเผยดัชนีคิดส์ไรทส์ที่จัดอันดับการเคารพสิทธิเด็กทั่วโลกประจำปี โดยอ้างอิงจากตัวเลขของหน่วยงานในสหประชาชาติว่า สวีเดน ฟินแลนด์ และไอซ์แลนด์ เป็น 3 ประเทศที่เคารพสิทธิเด็กมากที่สุดจากการจัดอันดับทั้งหมด 193 ประเทศ ขณะที่ชาด เซาท์ซูดาน และอัฟกานิสถานเป็น 3 ประเทศที่เคารพสิทธิเด็กน้อยที่สุด.-สำนักข่าวไทย

จีน-เกาหลีเหนือสนับสนุนรัสเซียหลังเหตุก่อกบฏยุติ

จีนและเกาหลีเหนือแสดงความสนับสนุนรัสเซียที่พยายามสร้างเสถียรภาพให้ประเทศ หลังจากเหตุก่อกบฏในรัสเซียยุติลงเมื่อวันเสาร์

ผู้นำยูเครนโทรคุยกับหลายประเทศเรื่องสถานการณ์รัสเซีย

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเผยว่า ได้โทรศัพท์หารือกับผู้นำหลายประเทศเรื่องการก่อกบฏที่เกิดขึ้นเป็นเวลาสั้น ๆ ในรัสเซีย

โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ยันแวกเนอร์ไม่กระทบสงครามยูเครน

โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ยันความพยายามก่อกบฏของทหารรับจ้างแวกเนอร์ ไม่กระทบต่อปฏิบัติการทางทหารในยูเครน พร้อมขอบคุณประธานาธิบดีเบลารุสช่วยคลี่คลายสถานการณ์

เผยข่าวกรองสหรัฐพบสัญญาณล่วงหน้าเรื่องกบฏในรัสเซีย

วอชิงตัน 25 มิ.ย.- สื่อสหรัฐรายงานเมื่อวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐว่า หน่วยข่าวกรองสหรัฐตรวจพบสัญญาณล่วงหน้ามาหลายวันแล้วว่า หัวหน้ากลุ่มนักรบรับจ้างรัสเซียเตรียมต่อต้านกระทรวงกลาโหมรัสเซีย หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์และหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ข่าวกรองได้รายงานสรุปต่อทำเนียบขาว กระทรวงกลาโหม และรัฐสภาเรื่องอาจเกิดเหตุไม่สงบในรัสเซียหนึ่งวันเต็มก่อนเกิดเหตุขึ้นจริง วอชิงตันโพสต์ระบุว่า หน่วยข่าวกรองเริ่มติดตามสัญญาณที่บ่งชี้ว่านายเยฟเกนี ปริโกชินและกลุ่มนักรบรับจ้างแวกเนอร์ (Wagner) มีเจตนาจะเคลื่อนไหวต่อต้านผู้นำในกองทัพรัสเซียตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน ขณะที่นิวยอร์กไทมส์ระบุว่า หน่วยข่าวกรองได้รายงานสรุปต่อทำเนียบขาว กระทรวงกลาโหมและรัฐสภาเมื่อข้อมูลเริ่มมีน้ำหนักและน่าตกใจในช่วงกลางสัปดาห์ และเมื่อแน่ชัดว่านายปริโกชินเตรียมใช้กำลัง หน่วยข่าวกรองก็เริ่มกังวลเรื่องความวุ่นวายในประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์อย่างรัสเซีย วอชิงตันโพสต์รายงานว่า หน่วยข่าวกรองเชื่อว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียที่เคยสนิทกับนายปริโกชินได้รับรายงานเรื่องแผนก่อกบฏหนึ่งวันก่อนเกิดขึ้นจริง เอเอฟพีระบุว่า เป็นการก่อความไม่สงบที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่น่าเชื่อ กำลังคนของนายปริโกชินเคลื่อนจากที่ตั้งในยูเครนเข้ามาในดินแดนรัสเซียเมื่อวันศุกร์ จากนั้นยึดกองบัญชาการทหารในเมืองรอสตอฟ-นา-โดนู ทางตอนใต้ของรัสเซียในวันรุ่งขึ้น และเคลื่อนกำลังมุ่งหน้าขึ้นไปยังกรุงมอสโก แต่กลับประกาศยุติในวันเดียวกันอย่างกะทันหัน รัฐบาลรัสเซียประกาศจะไม่ดำเนินคดีกับนายปริโกชินและสมาชิกกลุ่มแวกเนอร์ ส่วนสื่อทางการรัสเซียรายงานว่า นายปริโกชินจะเดินทางไปเบลารุส ขณะที่กำลังคนของเขาจะกลับไปสู้รบที่ยูเครน.-สำนักข่าวไทย

หัวหน้านักรบรับจ้างรัสเซียจะไปเบลารุสโดยไม่ถูกตั้งข้อหา

มอสโก 25 มิ.ย.- รัฐบาลรัสเซียแถลงว่า หัวหน้ากลุ่มนักรบรับจ้างจะเดินทางออกจากรัสเซียไปเบลารุส และจะไม่ถูกตั้งข้อหา หลังจากสั่งให้กำลังคนของเขายุติการมุ่งหน้าไปยังกรุงมอสโกเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียแถลงว่า ทางการจะยกเลิกการดำเนินคดีอาญากับนายเยฟเกนี ปริโกชิน หัวหน้ากลุ่มนักรบรับจ้างแวกเนอร์ (Wagner) และสมาชิกกลุ่มที่เข้าร่วมในการกระทำที่ทางการระบุว่า เป็นการใช้อาวุธก่อกบฏ นายปริโกชินจะเดินทางออกจากรัสเซียไปยังเบลารุส โฆษกระบุว่า การหลีกเลี่ยงเหตุนองเลือด การเผชิญหน้าภายใน และการปะทะที่ไม่สามารถคาดการณ์ผลคือเป้าหมายสูงสุดของรัสเซีย ด้านประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ของเบลารุสเผยว่า เขาเป็นคนกลางเจรจาสงบศึกกับนายปริโกชิน กลุ่มแวกเนอร์เข้ายึดที่ทำการทางทหารทางใต้ของรัสเซียได้เมื่อวันเสาร์และเตรียมมุ่งหน้าขึ้นเหนือไปยังกรุงมอสโก ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียแถลงทางโทรทัศน์ในวันเดียวกัน ประณามกลุ่มแวกเนอร์ว่าทรยศ ทางการได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในหลายแคว้น และใช้มาตรการต่อต้านการก่อการร้ายในกรุงมอสโก สถานการณ์ที่ตึงเครียดแปรเปลี่ยนกะทันกันเมื่อนายปริโกชินประกาศว่า คนของเขากำลังถอนตัวกลับไปยังที่ตั้งภาคสนาม เพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือดในเมืองหลวง ล่าสุดผู้ว่าการแคว้นรอฟตอฟ ทางใต้ของรัสเซียเผยว่า ช่วงเช้าวันนี้นายปริโกชินได้ถอนกำลังคนและยุทโธปกรณ์ออกจากเมืองรอฟตอฟ-นา-โดนู ซึ่งเป็นเมืองแรกที่กลุ่มแวกเนอร์เข้ายึดกองบัญชาการทหาร ขณะที่ชาวเมืองพากันส่งเสียงตะโกนเชียร์กลุ่มแวกเนอร์ที่หน้ากองบัญชาการดังกล่าว ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครนทวีตว่า นายปริโกชินได้ทำให้ปูตินและรัสเซียต้องอับอาย และได้แสดงให้เห็นว่าไม่มีฝ่ายใดสามารถผูกขาดการใช้ความรุนแรงได้อีกต่อไป เหตุไม่สงบในรัสเซียเปิดโอกาสให้ยูเครนที่กำลังเดินหน้าปฏิบัติการรุกโต้กลับ ด้านสหรัฐและพันธมิตรตะวันตกต่างแสดงท่าทีอย่างเปิดเผยในช่วงที่สถานการณ์ในรัสเซียยังไม่คลี่คลายว่า จะขอติดตามอย่างใกล้ชิดไปก่อน และกังวลเรื่องความปลอดภัยของอาวุธนิวเคลียร์ที่รัสเซียครอบครองอยู่ .-สำนักข่าวไทย

นานาชาติติดตามสถานการณ์ในรัสเซียอย่างใกล้ชิด

มอสโก 24 มิ.ย.- หลายประเทศกำลังติดตามสถานการณ์ในรัสเซียอย่างใกล้ชิด หลังจากกลุ่มนักรบรับจ้างรัสเซียก่อกบฏ ขณะที่ผู้ที่รัสเซียแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารยูเครนในส่วนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซียพากันประกาศตัวสนับสนุนประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน สื่อหลายแห่งในสหรัฐรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐกำลังรับฟังรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ในรัสเซีย ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสแถลงว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงกำลังติดตามสถานการณ์ในรัสเซียอย่างใกล้ชิด และยังคงให้การสนับสนุนยูเครน ด้านประธานาธิบดีอันด์เช ดูดา ของโปแลนด์ ทวีตว่า ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีและกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติในเช้าวันนี้ รวมถึงพันธมิตรของโปแลนด์ และกำลังติดตามสถานการณ์ที่อยู่ถัดจากพรมแดนฝั่งตะวันออกของประเทศอย่างสม่ำเสมอ ส่วนทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิตาลีแถลงว่า นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนี กำลังติดตามสถานการณ์ในรัสเซียอย่างใกล้ชิด และรัฐมนตรีต่างประเทศขอให้ชาวอิตาลีที่อาศัยอยู่ในรัสเซียระมัดระวังตัว เช่นเดียวกับโฆษกรัฐบาลเยอรมนีที่แถลงว่า เยอรมนีกำลังติดตามสิ่งที่เกิดขึ้นในรัสเซียอย่างใกล้ชิด ส่วนที่แคว้นเคอร์ซอนและแคว้นซาปอริชเชีย ซึ่งเป็น 2 ใน 4 แคว้นของยูเครนที่ถูกรัสเซียผนวกเมื่อเดือนกันยายน 2565 ผู้บริหารที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียประกาศว่า แคว้นและคนในแคว้นให้การสนับสนุนประธานาธิบดีปูตินอย่างเต็มที่ ขณะที่นายรามซาน คาดีรอฟ ผู้บริหารสาธารณรัฐเชเชนประกาศสนับสนุนปูติน และบอกกับนักรบรับจ้างแวกเนอร์ว่า ความมั่นคงและความเป็นปึกแผ่นของรัสเซียในเวลานี้คือสิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ศัตรูในโลกตะวันตกกำลังฉวยประโยชน์จากสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในรัสเซียในขณะนี้.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียระดมยิงขีปนาวุธถล่มกรุงเคียฟอย่างหนัก

รัสเซียระดมยิงขีปนาวุธถล่มกรุงเคียฟของยูเครนอย่างหนัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตและอาคารบ้านเรือนเสียหายเป็นจำนวนมาก

หัวหน้านักรบรับจ้าง อ้างยึดที่ตั้งทางทหารในเมืองทางใต้ของรัสเซีย

มอสโก 24 มิ.ย.- หัวหน้ากลุ่มนักรบรับจ้างแวกเนอร์ (Wagner) ประกาศว่า ได้เข้ามาอยู่ในกองบัญชาการทหารในเมืองทางตอนใต้ของรัสเซียแล้ว และอ้างว่ากำลังคนของเขาสามารถยึดที่ตั้งทางทหารในเมืองนี้ได้แล้ว นายเยฟเกนี ปริโกชิน กล่าวในคลิปที่เผยแพร่ทางเทเลแกรมวันนี้ว่า ขณะนี้เป็นเวลา 07:30 น.(วันนี้ตามเวลารัสเซีย ตรงกับเวลา 11:30 น.วันนี้ตามเวลาไทย) เขากำลังอยู่ในกองบัญชาการทหารในเมืองรอสตอฟ-นา-โดนู (Rostov-on-Don) ขณะนี้ที่ตั้งทางทหารและสนามบินในเมืองนี้ล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา ฝูงบินที่ร่วมในปฏิบัติบุกโจมตียูเครนยังคงบินออกจากสนามบินตามปกติ นายปริโกชินขอให้ชาวรัสเซียอย่าเชื่อรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ของทางการ ขณะนี้รัสเซียสูญเสียดินแดนที่ยึดครองได้ในยูเครนไปเป็นจำนวนมาก มีทหารถูกสังหารมากกว่ารายงานที่นายทหารได้รับ 3-4 เท่า ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันนายปริโกชินเพิ่งอ้างว่า กองกำลังของเขาได้ข้ามพรมแดนจากยูเครนเข้ามาในแคว้นรอสตอฟ เขาประกาศโค่นนายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียและนายพลวาเลรี เกราซิมอฟ เสนาธิการทหารรัสเซียโดยประกาศว่าคนของเขา 25,000 คนพร้อมสู้ตาย เขาอ้างในคลิปล่าสุดด้วยว่า นายพลเกราซิมอฟวิ่งหนีออกจากเมืองนี้เมื่อเห็นว่ากองกำลังของเขาเคลื่อนเข้ามา กองบัญชาการทหารในเมืองรอฟตอฟ-นา-โดนูเป็นที่มั่นทางยุทธศาสตร์สำคัญของรัสเซียในปฏิบัติการโจมตียูเครน คลิปที่เผยแพร่ในเทเลแกรมอีกคลิปหนึ่งในวันนี้เห็นนายปริโกชินคุยกับนายทหาร 2 คนที่กองบัญชาการทางทหารแห่งนี้ว่า เขามาเพื่อโค่นเสนาธิการทหารและรัฐมนตรีกลาโหม ดังนั้นในช่วงที่ยังไม่บรรลุเป้าหมายกองกำลังของเขาจะอยู่ในเมืองนี้และปิดล้อมเมืองเพื่อมุ่งหน้าต่อไปยังกรุงมอสโก โดยจะไม่แทรกแซงการปฏิบัติภารกิจของกำลังทหาร เพราะมาเพื่อปกป้องรัสเซีย.-สำนักข่าวไทย

เปิดประวัติหัวหน้ากลุ่มนักรบรับจ้างรัสเซีย

มอสโก 24 มิ.ย.- นายเยฟเกนี ปริโกชิน หัวหน้ากลุ่มนักรบรับจ้างรัสเซียที่เคยเป็นแนวหน้าในสมรภูมิยูเครนให้แก่รัสเซีย และขณะนี้หันมาเรียกร้องให้ปลดผู้นำในกองทัพรัสเซีย เป็นพันธมิตรที่มีประวัติโชกโชนของผู้นำรัสเซีย นายปริโกชิน วัย 62 ปี เป็นหัวหน้ากลุ่มแวกเนอร์ (Wagner) ที่ส่งทหารรับจ้างไปรบในตะวันออกกลางและแอฟริกา ตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ยังไม่สั่งบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เขาปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่เกี่ยวข้อง จนกระทั่งยอมรับเมื่อเดือนกันยายน 2565 ว่าได้ตั้งกลุ่มนักรบรับจ้าง โดยเปิดสำนักงานใหญ่ที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และเริ่มชักชวนผู้ต้องขังจำนวนมากให้มาเป็นนักรบเดินเท้าไปสู้รบในยูเครนแลกกับการนิรโทษกรรม กองกำลังของเขาสามารถยึดเมืองสำคัญในยูเครนได้หลายเมือง รวมถึงเมืองบักห์มุตที่มีการสู้รบนองเลือดที่สุดและยาวนานที่สุดได้เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ขณะเดียวกัน เขาได้วิจารณ์กระทรวงกลาโหมรัสเซียว่าบริหารจัดการผิดพลาดและโกหก ล่าสุดอ้างเมื่อวันศุกร์ว่า กระทรวงกลาโหมยิงขีปนาวุธถล่มฐานของเขา และประกาศในวันนี้ว่า กองกำลังของเขาได้ข้ามพรมแดนจากยูเครนเข้ารัสเซียแล้ว พร้อมทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า โดยยืนยันว่าไม่ใช่การรัฐประหาร แต่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม นายปริโกชิน เป็นชาวเลนินกราด หรือนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในปัจจุบัน บ้านเกิดเดียวกับประธานาธิบดีปูติน อดีตพ่อค้าฮอตดอกรายนี้ใช้ชีวิตในเรือนจำนาน 9 ปี ในสมัยอดีตสหภาพโซเวียต เพราะต้องคดีขโมย ยักยอก และร่วมในเหตุจลาจล ต่อมาได้หันมาจับธุรกิจร้านอาหารและเปิดร้านอาหารหรูในนครเซนต์ปีเตอร์ โดยมีปูตินเป็นหนึ่งในลูกค้าคนสำคัญ จากนั้นได้เข้าสู่การเมืองท้องถิ่น มีคนอ้างว่าเขามีฐานะระดับมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยจากสัมปทานภาครัฐ เขาถูกรัฐบาลสหรัฐใช้มาตรการลงโทษ โดยกล่าวหาว่าตั้งกลุ่มเกรียนคีย์บอร์ดแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ปี 2559 […]

ออสเตรเลียลงโทษชาวรัสเซียและยูเครนเกี่ยวข้อง MH 17 ถูกยิงตก

ซิดนีย์ 23 มิ.ย.- ออสเตรเลียประกาศใช้มาตรการลงโทษทางการเงินและห้ามเดินทางเข้าประเทศกับชาวรัสเซีย 2 คน และชาวยูเครน 1 คน เนื่องจากพัวพันกับเหตุการณ์ที่เครื่องบินสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์เที่ยวบินเอ็มเอช 17 (MH17) ถูกยิงตกในยูเครน เมื่อปี 2557 ทางการออสเตรเลียเผยว่า ได้ใช้มาตรการลงโทษกับนายเซอร์เก ดูบินสกี ชาวรัสเซีย และนายเลียวนิด คาร์เชนโก ชาวยูเครน 2 ผู้ต้องหาที่ถูกศาลเนเธอร์แลนด์ตัดสินลับหลังจำเลยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ว่ามีความผิดในข้อหาฆาตกรรมและอีกหลายข้อหาจากเหตุผู้โดยสารและลูกเรือ 298 คนเสียชีวิตหมดทั้งลำ เมื่อเครื่องบินโบอิง 777 เที่ยวบินเอ็มเอช 17 เดินทางจากกรุงอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์มุ่งหน้าไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียถูกยิงตกเหนือน่านฟ้าทางตะวันออกของยูเครนเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2557 ในจำนวนนี้มีชาวออสเตรเลียรวมอยู่ด้วย 38 คน นอกจากนี้ออสเตรเลียยังได้ใช้มาตรการลงโทษกับนายเซอร์เก มุชเคฟ ผู้บัญชาการกองกำลังต่อต้านอากาศยานของรัสเซีย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ใช้อาวุธประเภทเดียวกับอาวุธที่ยิงเครื่องบินลำนี้ตก นางเพนนี หว่อง รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียกล่าวว่า บุคคลทั้ง 3 ที่ถูกลงโทษในวันนี้ให้การสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อการกระทำและนโยบายที่เป็นอันตรายต่ออธิปไตยและบูรณาภาพทางดินแดนของยูเครน ในฐานะที่เป็นแกนนำกลุ่มแยกดินแดนหรือเป็นทหารรัสเซียในช่วงที่เครื่องบินถูกยิงตก นอกจากนี้การโทษของออสเตรเลียยังเป็นการแสดงให้เห็นว่า ออสเตรเลียยังคงมุ่งมั่นที่จะเอาผิดกับผู้ที่ทำให้เครื่องบินเที่ยวบินเอ็มเอช 17 ถูกยิงตก.-สำนักข่าวไทย

1 28 29 30 31 32 157
...