ยูเครน

มินสก์ 14 มิ.ย.- ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ของเบลารุสเผยว่า เบลารุสเริ่มได้รับอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีจากรัสเซีย พร้อมกับระบุว่า บางชิ้นมีอานุภาพร้ายแรงกว่าระเบิดนิวเคลียร์ที่สหรัฐทิ้งในญี่ปุ่นถึง 3 เท่า ประธานาธิบดีลูกาเชนโกได้ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์รอสสิยา-วัน (Rossiya-1) ของทางการรัสเซีย ซึ่งออกอากาศเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น และเว็บไซต์เบลตาของทางการเบลารุสได้นำไปเผยแพร่ทางบัญชีเทเลแกรม เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า เบลารุสมีขีปนาวุธและระเบิดที่ได้รับมาจากรัสเซีย ระเบิดเหล่านี้มีอานุภาพร้ายแรงมากกว่าระเบิดที่สหรัฐทิ้งใส่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิในปี 2488 ถึง 3 เท่า เบลารุสมีโรงเก็บนิวเคลียร์จำนวนมากที่หลงเหลือมาจากช่วงสหภาพโซเวียต และได้ซ่อมแซมไปแล้ว 5-6 แห่ง ส่วนเรื่องที่รัสเซียเป็นฝ่ายควบคุมอาวุธแล้วจะทำให้เบลารุสไม่สามารถใช้ได้ตามที่ต้องการนั้น ผู้นำเบลารุสกล่าวว่า เขาและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียคุยโทรศัพท์ติดต่อกันได้ทุกเวลา ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันเขาเผยว่า จะนำอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีของรัสเซียไปประจำการตามพรมแดนเบลารุสในอีกไม่กี่วัน และจะให้ติดตั้งขีปนาวุธพิสัยไกลด้วยหากเห็นว่าจำเป็น ผู้นำเบลารุส วัย 68 ปี ผูกขาดปกครองประเทศมาตั้งแต่ปี 2537 จนกลายเป็นผู้นำที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดในยุโรป เขาเผยว่า ไม่ได้ขออาวุธนิวเคลียร์จากรัสเซีย แต่ต้องการมีอาวุธนิวเคลียร์ เพราะเบลารุสตกเป็นเป้าหมายมาตลอด ชาติตะวันตกต้องการฉีกเบลารุสเป็นชิ้น ๆ มาตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งหมายถึงปีที่เขาถูกประท้วงใหญ่ว่าโกงเลือกตั้งทำให้ได้ดำรงตำแหน่งต่ออีกสมัย และเขาได้ใช้กำลังกวาดล้างฝ่ายค้านครั้งใหญ่ ประธานาธิบดีปูตินเผยเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่า รัสเซียจะเริ่มประจำการอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีในเบลารุส โดยที่รัสเซียเป็นฝ่ายควบคุม เนื่องจากโรงเก็บพิเศษสร้างเสร็จเรียบร้อย […]

นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ให้การต้อนรับนายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต ส่งสัญญาณร่วมกันว่าจะรักษาคำมั่นที่จะช่วยเหลือเพื่อรักษาความเป็นเอกราชของยูเครน ความช่วยเหลือที่ชาติสมาชิกมอบให้ยูเครนกำลังเห็นผล 

รัสเซียโจมตีเมืองบ้านเกิดของนายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย ขณะที่ปฏิบัติการรุกกลับของยูเครน ผ่านมา 3 วัน ยึดคืนมาได้ 7 หมู่บ้าน

เคียฟ 8 มิ.ย.- ผู้ว่าการแคว้นเคอร์ซอน ทางตอนใต้ของยูเครน แจ้งว่า น้ำท่วมจากเขื่อนใหญ่เสียหายได้ท่วมกินพื้นที่ทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำดนีโปร เป็นวงกว้างกว่า 600 ตารางกิโลเมตร นายโอเล็กซานเดอร์ โปรกูดิน ผู้ว่าการแคว้นเคอร์ซอนที่อยู่ภายใต้การปกครองของยูเครนเผยว่า พื้นที่น้ำท่วมร้อยละ 32 อยู่ในความยึดครองของยูเครนที่อยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำดนีโปร และร้อยละ 68 อยู่ในความยึดครองของรัสเซียที่อยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำ ระดับน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 5.61 เมตร ประชาชนยังคงเดินหน้าอพยพออกจากพื้นที่น้ำท่วม แม้มีอันตรายจากการถูกรัสเซียระดมยิงอย่างหนักหน่วง สถานการณ์ในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซียมีความยากลำบากอย่างยิ่ง สำนักงานบริการเหตุฉุกเฉินของยูเครนแจ้งว่า พื้นที่ฝั่งยูเครนมีชุมชนทั้งหมด 20 แห่ง และมีครัวเรือน 2,629 หลัง ทางการได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่น้ำท่วมแล้ว 1,995 คน เป็นเด็ก 103 คน และมีประชาชนจำนวนมากอพยพด้วยตัวเอง เขื่อนโนวา คาคอฟกาในเมืองโนวา คาคอฟกา แคว้นเคอร์ซอน ตั้งอยู่ใกล้แนวหน้าการสู้รบ ยูเครนและรัสเซียต่างกล่าวโทษอีกฝ่ายว่าทำให้เขื่อนเกิดความเสียหายเมื่อคืนวันที่ 5 มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่น กระแสน้ำปริมาณมากไหลท่วมหมู่บ้านหลายแห่งและเมืองที่อยู่ใกล้เคียง.-สำนักข่าวไทย

เบอร์ลิน 8 มิ.ย.- ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนแสดงความตกใจที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสหประชาชาติและสภากาชาด หลังจากเขื่อนใหญ่ในยูเครนที่อยู่ในความยึดครองของรัสเซียได้รับความเสียหาย ประธานาธิบดีเซเลนสกีให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์บิลด์ของเยอรมนีโดยพูดเป็นภาษาอังกฤษกับว่า สหประชาชาติและสภากาชาดไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือ ทำให้เขารู้สึกตกใจ เพราะคิดว่าทั้ง 2 องค์กรนี้ควรต้องเข้าไปช่วยชีวิตผู้คน ล่ามชาวเยอรมันเผยว่า จากนั้นประธานาธิบดีเซเลนสกีได้พูดเป็นภาษายูเครนว่า ประชาชนและสัตว์ล้มตายในภัยพิบัติครั้งนี้ ผู้ที่หนีน้ำท่วมขึ้นไปบนหลังคาบ้านต้องเห็นศพคนอื่นลอยน้ำผ่านหน้าไป กองกำลังยูเครนพยายามเข้าไปอพยพคนออกจากแคว้นเคอร์ซอนที่ถูกรัสเซียยึดครอง แต่ถูกผู้ยึดครองยิงจากระยะไกล ผู้นำยูเครนกล่าวด้วยว่า ได้แบ่งปันข้อมูลข่าวกรองกับหุ้นส่วนนานาชาติของยูเครนเมื่อ 1 ปีก่อน ว่ามีความเสี่ยงที่เขื่อนโนวา คาคอฟกาในเมืองโนวา คาคอฟกา แคว้นเคอร์ซอนจะตกเป็นเป้าโจมตี และทุกฝ่ายก็เห็นด้วยว่ามีความเสี่ยงสูงมากที่เขื่อนจะถูกระเบิดเสียหาย เขื่อนดังกล่าวตั้งอยู่ใกล้แนวหน้าการสู้รบ เกิดความเสียหายทำให้กระแสน้ำไหลท่วมหมู่บ้านหลายแห่งและเมืองที่อยู่ใกล้เคียง จุดกระสวิตกว่าจะเกิดภัยพิบัติด้านมนุษยธรรม นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต จะเป็นประธานการประชุมคณะความร่วมมือฉุกเฉินกับยูเครนในวันนี้เรื่องความเสียหายใหญ่ที่เกิดขึ้นกับเขื่อนในยูเครน ขณะที่ฝรั่งเศสแจ้งว่า จะส่งความช่วยเหลือให้ยูเครน.-สำนักข่าวไทย

เคียฟ 7 มิ.ย.- ยูเครนอพยพประชาชน 17,000 คน หลังจากเขื่อนใหญ่ทางตอนใต้ของประเทศเสียหาย แตกเป็นช่อง ทำให้มวลน้ำปริมาณมากไหลท่วมหมู่บ้าน 24 แห่ง อัยการสูงสุดของยูเครนเผยว่า ประชาชนมากกว่า 40,000 คนตกอยู่ในอันตรายจากการถูกน้ำท่วม และควรมีการอพยพประชาชนอีก 25,000 คนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดนีโปรในส่วนที่รัสเซียยึดครอง ด้านนายกเทศมนตรีเมืองโนวา คาคอฟกาที่ได้รับแต่งตั้งจากรัสเซียและเป็นสถานที่ตั้งเขื่อนเผยว่า น้ำท่วมเมืองแล้วและมีการอพยพประชาชนจำนวนมาก ขณะเดียวกันชาวเมืองเคอร์ซอนที่อยู่ใกล้กันกำลังอพยพขึ้นสู่ที่สูง เนื่องจากน้ำจากเขื่อนกำลังไหลลงสู่แม่น้ำดนีโปร ส่วนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียที่อยู่ห่างจากเขื่อนไป 150 กิโลเมตร และได้รับน้ำหล่อเย็นจากเขื่อนแห่งนี้ที่สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1950 สมัยสหภาพโซเวียต ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าที่ได้รับแต่งตั้งจากรัสเซียยืนยันว่า ยังไม่มีอันตรายใด ๆ เพราะระดับน้ำหล่อเย็นยังคงเดิม แต่เอเนอร์ฮัวตอม บริษัทผลิตไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ของยูเครนชี้ว่า กำลังมีความเสี่ยงสูงขึ้น เพราะระดับน้ำในเขื่อนที่เป็นแหล่งน้ำหล่อเย็นของโรงไฟฟ้ากำลังลดลงอย่างรวดเร็ว ยูเครนและรัสเซียต่างกล่าวโทษกันว่า เป็นฝ่ายที่ทำให้เขื่อนโนวา คาคอฟกาในเมืองโนวา คาคอฟกา แคว้นเคอร์ซอน เสียหาย ยูเครนอ้างว่า รัสเซียต้องการขัดขวางปฏิบัติการรุกกลับของยูเครน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนกล่าวหารัสเซียว่า จุดชนวนระเบิดด้านสิ่งแวดล้อมที่สร้างความเสียหายแบบทำลายล้าง ทางการคาดว่าจะมีหมู่บ้านถูกน้ำท่วมมากถึง 80 แห่ง และขอให้ประชาคมโลกตอบโต้รัสเซีย แต่โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียแย้งว่า กองกำลังยูเครนเป็นฝ่ายยิงถล่มเขื่อนหลายครั้งจนเสียหาย เพื่อจงใจก่อวินาศกรรม […]

เคียฟ 6 มิ.ย.- ยูเครนและรัสเซียต่างกล่าวหากันว่า ทำให้เขื่อนใหญ่ทางตอนใต้ของยูเครนเสียหายบางส่วน ด้านยูเครนเตือนประชาชนท้ายเขื่อนให้อพยพเพราะเสี่ยงถูกน้ำท่วม กองบัญชาการภาคใต้ของกองทัพยูเครนแถลงวันนี้ว่า เขื่อนโนวา คาคอฟวา ที่เป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำในแคว้นเคอร์ซอนส่วนที่อยู่ในความยึดครองของรัสเซีย ถูกกองกำลังรัสเซียระเบิดเสียหาย ด้านนายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนทวีตผ่านทวิตเตอร์ประณามว่า รัสเซียทำลายเขื่อนนี้ เสี่ยงทำให้เกิดภัยพิบัติทางเทคนิคครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรป และทำให้ชีวิตพลเรือนจำนวนมากตกอยู่ในอันตราย ถือเป็นการก่ออาชญากรรมสงครามชั่วร้าย หนทางเดียวที่จะหยุดยั้งรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ก่อการร้ายรายใหญ่ที่สุดของคริสต์ศตวรรษที่ 21 คือ ขับไล่รัสเซียออกไปจากยูเครน ผู้ว่าการแคว้นเคอร์ซอนในส่วนที่ยังอยู่ภายใต้การปกครองของยูเครนประกาศผ่านเทเลแกรมเมื่อเวลา 06:45 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 10:45 น.วันนี้ตามเวลาไทยว่า ระดับน้ำในแม่น้ำจะสูงถึงระดับวิกฤตภายใน 5 ชั่วโมง และได้เริ่มอพยพคนที่อยู่ใกล้แคว้นคาคอฟวาแล้ว ขณะที่สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียอ้างสำนักงานเหตุฉุกเฉินว่า ชุมชนในพื้นที่ประมาณ 80 แห่งน่าจะได้รับผลกระทบจากการที่เขื่อนเสียหาย ส่วนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียที่อยู่ใกล้เคียงยังไม่มีความเสี่ยงแต่อย่างใด ด้านนายกเทศมนตรีเมืองโนวา คาคอฟวาที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียเผยว่า เขื่อนตกเป็นเป้าโจมตีหลายครั้งตลอดคืนที่ผ่านมา ทำให้วาล์วประตูเขื่อนเสียหาย จนน้ำทะลักออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เขื่อนโนวา คาคอฟวา สร้างขึ้นกั้นแม่น้ำดนิโปรตั้งแต่ปี 2499 ในสมัยสหภาพโซเวียต โครงสร้างบางส่วนเป็นดิน บางส่วนเป็นคอนกรีต ถูกรัสเซียยึดตั้งแต่ช่วงต้นสงครามที่เริ่มเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ผันน้ำส่วนใหญ่ให้แก่คาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียผนวกเป็นส่วนหนึ่งในปี 2557.-สำนักข่าวไทย

มอสโก 6 มิ.ย.- หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างชาวรัสเซียไม่เชื่อข้ออ้างของรัสเซียเรื่องสามารถสกัดและสร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่กองกำลังยูเครนที่ปฏิบัติการรุกครั้งใหญ่ โดยมองว่าเป็นเพียงการฝันเฟื่อง กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า สังหารทหารยูเครนทั้งหมด 1,500 นาย และทำลายยานเกราะยูเครนมากกว่า 100 คัน ที่ปฏิบัติการรุกครั้งใหญ่ในแคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของยูเครน ที่ถูกรัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งตั้งแต่ปี 2565 ทำให้นายเยเกนี ปริโกชิน หัวหน้ากลุ่มแวกเนอร์ (Wagner) โพสต์ในเทเลแกรมในวันเดียวกันว่า การสังหารและทำลายมากมายภายในวันเดียวขนาดนั้นต้องเป็นการสังหารหมู่ เขาจึงคิดว่าข้ออ้างดังกล่าวเป็นเพียงการฝันเฟื่องเท่านั้น และว่ากองกำลังยูเครนสามารถรุกคืบเข้าใกล้เมืองบักห์มุต ในแคว้นโดเนตสก์ ที่รัสเซียอ้างเมื่อเดือนพฤษภาคมว่ายึดได้อย่างเบ็ดเสร็จแล้ว ขณะที่รัสเซียถอนกำลังออกจากหมู่บ้านเบิร์กคิฟกา ห่างจากเมืองบักห์มุตไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 3 กิโลเมตร อย่างเชื่องช้า ถือเป็นเรื่องอัปยศ ที่ผ่านมาหัวหน้ากลุ่มแวกเนอร์มักวิพากษ์วิจารณ์กองทัพรัสเซีย และกล่าวหาผู้นำกองทัพว่าไม่จัดสรรเครื่องกระสุนให้ทางกลุ่มอย่างเพียงพอ ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนยกย่องทหารยูเครนที่สามารถรุกคืบเข้าใกล้เมืองบักห์มุต สมรภูมิที่มีการสู้รบยาวนานที่สุดและนองเลือดที่สุด นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ยูเครนเผยมาระยะหนึ่งแล้วว่า กำลังเตรียมปฏิบัติการรุกกลับครั้งใหญ่ เพื่อยึดคืนดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดไป แต่ยังไม่ประกาศว่าจะเริ่มต้นเมื่อใด.-สำนักข่าวไทย

กองทัพรัสเซียแจ้งว่า สามารถสกัดกองกำลังยูเครนที่ปฏิบัติการรุกครั้งใหญ่ในแคว้นโดเนตสก์ที่ถูกรัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งตั้งแต่ปีก่อน

รัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซียเสนอแผนเพื่อยุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนในระหว่างการประชุมสุดยอดด้านกลาโหมในวันนี้ที่สิงคโปร์

สหประชาชาติกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าตามข้อตกลงการส่งออกธัญพืชจากยูเครนโดยผ่านช่องทางทะเลดำ