ภาษี

ปักกิ่ง 11 เม.ย.- รัฐบาลจีนประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐเป็นร้อยละ 125 ตอบโต้ที่สหรัฐประกาศขึ้นภาษีจีนรวมเป็นร้อยละ 145 และเตรียมช่วยเหลือผู้ส่งออกของจีนที่ได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐ กระทรวงการคลังจีนออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า จีนจะขึ้นภาษีศุลกากรกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐเป็นร้อยละ 125 และว่าการที่สหรัฐประกาศอัตราภาษีสูงผิดปกติกับจีนได้ละเมิดระเบียบการค้าทางเศรษฐกิจและสากล กฎหมายเศรษฐกิจพื้นฐาน และสามัญสำนึก และเป็นการข่มเหงและข่มขู่แต่ฝ่ายเดียวอย่างสิ้นเชิง  จีนแถลงเรื่องนี้หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศชะลอการเก็บภาษีรายประเทศในอัตราตั้งแต่ร้อยละ 11 ไปจนถึงร้อยละ 50 ออกไปอีก 90 วัน ยกเว้นจีนที่ถูกเก็บในอัตราร้อยละ 125 ก่อนที่ทำเนียบขาวจะชี้แจงในภายหลังว่า จีนถูกสหรัฐเก็บภาษีในอัตรารวมทั้งหมดร้อยละ 145 ขณะเดียวกันโฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จีนจะให้ความช่วยเหลือบริษัทการค้าระหว่างประเทศของจีนที่กำลังเผชิญความท้าทายด้านการส่งออก ให้หันมาสำรวจตลาดภายในประเทศแทน โฆษกกล่าวว่า สหรัฐใช้มาตรการภาษีกับจีนอย่างเกินขอบเขต ซึ่งละเมิดสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของจีนอย่างรุนแรง ขัดขวางการค้าทวิภาคี และส่งผลกระทบต่อบริษัทการค้าระหว่างประเทศของจีน ดังนั้นจีนจะมุ่งจัดการกิจการภายในของตนให้ดี และใช้ความแน่นอน ภายในประเทศปกป้องความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของสภาพแวดล้อมภายนอก ด้านสำนักบริหารภาพยนตร์แห่งประเทศจีนประกาศแผนการปรับลดจำนวนการนำเข้าภาพยนตร์ของสหรัฐตามหลักการตลาดและความนิยมของผู้ชม เนื่องจากการที่สหรัฐขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนมีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อความสนใจที่ผู้ชมชาวจีนมีต่อภาพยนตร์ของสหรัฐ จีนในฐานะตลาดภาพยนตร์ขนาดใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลกจะนำเสนอภาพยนตร์ที่ดีเยี่ยมจากประเทศอื่นๆ เพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองอุปสงค์ความต้องการของตลาดต่อไป.-814.-สำนักข่าวไทย

ไทเป 11 เม.ย.- ประธานาธิบดีไล่ ชิง เต๋อของไต้หวันเปิดเผยในวันนี้ว่า ไต้หวันอยู่ในคู่ค้ากลุ่มแรกที่จะได้พูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเรื่องภาษี ประธานาธิบดีไล่กล่าวกับผู้นำภาคธุรกิจที่เมืองไถจง ทางตอนกลางของไต้หวันในวันนี้ ซึ่งมีการถ่ายทอดสดโดยสื่อท้องถิ่นว่า ไต้หวันอยู่ในกลุ่มเจรจากลุ่มแรก และรัฐบาลจะเตรียมตัวเป็นอย่างดี แต่ไม่ได้เปิดเผยกรอบเวลาการเจรจา ผู้นำไต้หวันกล่าวว่า ความปรารถนาของไต้หวันที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้ากับสหรัฐในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจะสามารถเติมเต็มได้ด้วยโอกาสนี้ ซึ่งหมายถึงเรื่องที่ไต้หวันต้องการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับสหรัฐ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 เมษายน ประธานาธิบดีไล่เสนอใช้ภาษีอัตราร้อยละ 0 เป็นฐานในการเจรจากับสหรัฐ พร้อมรับปากว่าไต้หวันจะซื้อสินค้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้น และไปลงทุนในสหรัฐมากขึ้น หลังจากไต้หวันถูกประธานาธิบดีทรัมป์ขึ้นภาษีเป็นรายประเทศในอัตราร้อยละ 32 มีผลตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน ก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะประกาศชะลอออกไป 90 วันในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ด้านนายกัว จื้อ ฮุย รัฐมนตรีเศรษฐกิจของไต้หวันกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่อาคารรัฐสภาว่า ไต้หวันอาจซื้อสินค้าจากสหรัฐมากกว่าที่เขาเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า สามารถซื้อเพิ่มอีก 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.7 ล้านล้านบาท) ในช่วง 10 ปี และเพิ่มการนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจี (LNG) จากสหรัฐ ไต้หวันเป็นที่ตั้งของทีเอสเอ็มซี (TSMC) บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดในโลก […]

วอชิงตัน 11 เม.ย.- สงครามการค้าระหว่าง 2 ประเทศเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลก คือ สหรัฐและจีน ดำดิ่งมากยิ่งขึ้น เมื่อทำเนียบขาวยืนยันล่าสุดว่า อัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนแท้จริงอยู่ที่ร้อย 145% ไม่ใช่ร้อยละ 125 ที่ประกาศไปเมื่อวานนี้ ทำเนียบขาวยืนยันว่า อัตราภาษีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศไว้ที่ร้อยละ 125 ไม่รวมภาษีนำเข้าร้อยละ 20 ในช่วงต้นปีที่สหรัฐเรียกเก็บจากจีนเพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่เฟนทานิล ซึ่งเป็นยาแก้ปวดที่มีเป็นสารเสพติด ทะลักเข้าสหรัฐ อย่างไรก็ดี ทำเนียบขาวยืนยันว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ชะลอการเก็บภาษีอัตราใหม่กับประเทศส่วนใหญ่ออกไป 90 วันแล้ว ผู้นำสหรัฐยอมรับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ว่า อาจมีปัญหาและข้อติดขัดในการเปลี่ยนผ่านภาษี กับนโยบายการค้าของเขาบางประการ แต่ทีมงานของเขากำลังเจรจากับหลายประเทศ พร้อมกับแสดงความหวังว่า สหรัฐและจีนจะบรรลุข้อตกลงได้ ตัวเลขอัตราภาษีล่าสุดร้อยละ 125% กับสินค้าจีน ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การแก้ไขปัญหาที่สหรัฐ มองว่าไม่ยุติธรรมนั้น มีข้อยกเว้นที่สำคัญอยู่หลายประการ โดยไม่รวมสินค้านำเข้า เช่น เหล็ก อลูมิเนียม และยานยนต์ ซึ่งนายทรัมป์ได้กำหนดภาษีนำเข้าไว้ก่อนหน้านี้แล้วที่ร้อยละ 25 และยังไม่รวมถึงสินค้าประเภททองแดง ยาและเวชภัณฑ์ สารกึ่งตัวนำ หรือเซมิคอนดักเตอร์ ไม้แปรรูป และผลิตภัณฑ์ด้านพลังงาน ที่นายทรัมป์ได้ส่งสัญญาณว่าจะกำหนดเป้าหมายแยกไว้ด้วย […]

เตกูซิกัลปา 10 เม.ย.- ผู้นำกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาและแคริบเบียนเรียกร้องให้เพิ่มความร่วมมือทางการค้าและประณามการขึ้นภาษีศุลกากรของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ  ผู้นำหลายประเทศ เช่น บราซิล เม็กซิโก คิวบา เข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งที่ 9 ของประชาคมลาตินอเมริกาและแคริบเบียน (CELAC) ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 33 ประเทศ ที่กรุงเตกูซิกัลปาของฮอนดูรัสเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น มีการแบ่งปันข้อเสนอลและความกังวลเรื่องความสัมพันธ์ของสมาชิกกับประเทศในภูมิภาคและประชาคมโลก นางเซียวมารา คาสโตร ประธานาธิบดีฮอนดูรัส ซึ่งเป็นเจ้าภาพ กล่าวเปิดการประชุมว่า สหรัฐกำลังร่างแผนที่เศรษฐกิจใหม่โดยไม่สอบถามผู้ที่ถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง ขณะที่นายลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดาซิลวา ประธานาธิบดีบราซิลเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกกำหนดสถานะของประเทศใหม่ เพื่อรับมือกับระเบียบโลกใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น และเตือนด้วยว่าจะไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้า.-816(814).-สำนักข่าวไทย  

กัวลาลัมเปอร์ 10 เม.ย.- สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนแสดงท่าทีร่วมกันว่า ต้องการเจรจากับสหรัฐเรื่องภาษีและจะไม่ประกาศใช้ภาษีตอบโต้สหรัฐ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนออกแถลงการณ์หลังเสร็จสิ้นการประชุมผ่านวิดีโอทางไกลที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียในวันนี้ว่า อาเซียนขอแสดงเจตนาร่วมกันเรื่องต้องการมีการเจรจาอย่างจริงใจและได้ผลกับสหรัฐ เพื่อแก้ไขความกังวลที่เกี่ยวข้องกับการค้า การสื่อสารและความร่วมมืออย่างเปิดเผยจะมีความสำคัญต่อการสร้างหลักประกันให้แก่ความสัมพันธ์ที่สมดุลและยั่งยืน ดังนั้นอาเซียนขอให้คำมั่นว่า จะไม่ใช้ภาษีตอบโต้ต่อการที่สหรัฐประกาศใช้ภาษีกับอาเซียน รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนยังได้แสดงความสนับสนุนองค์การการค้าโลก (WTO) ให้เป็นเวทีหลักในการเจรจา เนื่องจากมีบทบาทในการป้องกันไม่ให้ความตึงเครียดทางการค้าทวีความรุนแรง และส่งเสริมทางออกที่ร่วมมือและตั้งอยู่บนกฎเกณฑ์ สมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ มีขนาดเศรษฐกิจรวมกันใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก และมีประชากรรวมกันมากกว่า 600 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 9 ของประชากรโลก สมาชิก 6 ประเทศรวมทั้งไทย ถูกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเรียกเก็บภาษีรายประเทศอีกร้อยละ 32-49 มีผลตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน ก่อนที่ผู้นำสหรัฐจะประกาศพักใช้เป็นเวลา 90 วันในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง.-814.-สำนักข่าวไทย

กระทรวงต่างประเทศจีนกล่าววันนี้ เรียกร้องให้สหรัฐหยุดพฤติกรรมที่หยิ่งยโสและข่มเหงรังแก หลังจากที่มาตรการรีดภาษีจีน 104 เปอร์เซ็นต์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว

คนงานโรงงานในเวียดนามต่างรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการจ้างงานที่อาจจะได้รับผลกระทบจากนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

มาตรการของสหรัฐในการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 104 เปอร์เซ็นต์ มีผลแล้วในวันนี้ และคาดว่าจีนจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐตามมาอย่างแน่นอน ขณะที่ตลาดหุ้นยังคงผันผวนต่อเนื่อง

รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศมาตรการช่วยเหลือฉุกเฉินสำหรับภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ในวันนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์