ภาษี

จาการ์ตา 3 ก.ค.- อินโดนีเซียจะลงนามข้อตกลงมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.1 ล้านล้านบาท) กับหุ้นส่วนในสหรัฐในสัปดาห์หน้า โดยหวังว่าจะทำให้ได้ข้อตกลงการค้ากับสหรัฐที่ดีกว่าข้อตกลงการค้าสหรัฐกับเวียดนาม นายไอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต รัฐมนตรีประสานงานด้านกิจการเศรษฐกิจของอินโดนีเซียเปิดเผยกับสื่อในวันนี้ว่า อินโดนีเซียจะลงนามบันทึกความเข้าใจกับหุ้นส่วนทางธุรกิจในสหรัฐในวันที่ 7 กรกฎาคม เรื่องการลงทุนและซื้อสินค้าในสหรัฐมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยหวังว่าการแก้ไขดุลการค้ากับสหรัฐจะช่วยให้อินโดนีเซียได้ข้อตกลงการค้ากับสหรัฐที่ดีกว่าเวียดนาม ก่อนที่การพักการใช้ภาษีศุลกากรรายประเทศอัตราใหม่เป็นเวลา 90 วันจะสิ้นสุดลงในเวลา 00.00 น.วันที่ 9 กรกฎาคมตามเขตเวลาตะวันออกฤดูร้อนของสหรัฐ ซึ่งช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมง ก่อนหน้านี้อินโดนีเซียได้เสนอเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การเจรจาการค้าระหว่าง 2 ประเทศ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายนว่าจะเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากอินโดนีเซียในอัตราใหม่ร้อยละ 32 ข้อมูลของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐระบุว่า อินโดนีเซียได้ดุลการค้าสหรัฐ 17,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 578,620 ล้านบาท) ในปี 2567.-814.-สำนักข่าวไทย

โตเกียว 2 ก.ค. –นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น เปิดเผยวันนี้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนจะนำเงินส่วนเกินจากรายได้ภาษีที่เพิ่มสูงขึ้น รายได้ที่ไม่ใช่ภาษี และงบประมาณที่ยังไม่ได้ใช้ มาใช้เป็นเงินทุนในการแจกเงินสดเพื่อช่วยครัวเรือนรับมือกับภาวะราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น นายอิชิบะกล่าวในการอภิปรายสาธารณะกับผู้นำพรรคฝ่ายค้าน ก่อนหน้าการเลือกตั้งสมาชิกสภาสูงที่สำคัญที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ว่า รัฐบาลคาดการณ์ว่าจะมีรายได้ภาษีส่วนเพิ่ม 1.5-2 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 330,000-460,000 ล้านบาท และรายได้ที่ไม่ใช่ภาษีอีกเกือบหนึ่งล้านล้านเยน หรือ 230,000 ล้านาท ในวันเดียวกันนั้น กระทรวงการคลังได้เปิดเผยว่า รายได้ภาษีสำหรับปีงบประมาณที่ผ่านมาซึ่งสิ้นสุดในเดือนมีนาคม ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นปีที่ห้า เนื่องจากผลกำไรของบริษัทที่แข็งแกร่งและภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น.-813.-สำนักช่าวไทย

วอชิงตัน 2 ก.ค.- สมาชิกวุฒิสภา (สว.) สหรัฐผ่านความเห็นชอบร่างงบประมาณรายจ่ายและลดภาษีจำนวนมหาศาลของรัฐบาลแล้วเมื่อวันอังคารตามเวลาสหรัฐด้วยคะแนนเสียงเฉียดฉิว และจะต้องประนีประนอมกับร่างฯ ของสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เพื่อให้ประธานาธิบดีลงนามบังคับใช้ต่อไป ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการลงนามบังคับใช้ร่างกฎหมายวันบิ๊กบิวตีฟูล (One Big Beautiful Bill Act: OBBBA หรือ OBBA) ภายในวันที่ 4 กรกฎาคม ซึ่งตรงกับวันชาติของสหรัฐ ร่างฯ นี้จะต่ออายุกฎหมายลดภาษีและการจ้างงาน (Tax Cuts and Jobs Act) ปี 2560 ของรัฐบาลทรัมป์สมัยแรกที่จะหมดอายุในสิ้นปีนี้ ตัดลดโครงการสวัสดิการสังคม เพิ่มงบประมาณกลาโหมและการควบคุมคนเข้าเมือง และจะทำให้สหรัฐมีหนี้สินเพิ่มขึ้นอีกจากหนี้สินปัจจุบันที่สูงถึง 36.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,175 ล้านล้านบาท) สว. สหรัฐผ่านความเห็นชอบร่างฯ ฉบับ สว. ที่มีการอภิปรายกันตลอดทั้งคืนด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 50 โดยอาศัยเสียงของรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์เป็นผู้ตัดสิน เนื่องจาก […]

วอชิงตัน 1 ก.ค.- โฆษกทำเนียบขาวเผยผู้นำสหรัฐจะไม่ขยายเวลาพักการจัดเก็บภาษีศุลกากรในอัตราใหม่ หลังพ้นเส้นตายในวันที่ 8 กรกฎาคมตามเวลาสหรัฐ และจะส่งหนังสือไปยังประเทศต่างๆ เพื่อแจ้งอัตราภาษีนำเข้าที่สหรัฐจะเรียกเก็บหลังจากนี้ นางแคโรไลน์ ลีวิตต์  โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่ต่อเวลาพักการขึ้นภาษีหลังครบกำหนดเส้นตาย ตามที่ทรัมป์บอกว่าไม่จำเป็นต้องขยายเวลาออกไปอีก ผู้นำสหรัฐจะร่วมประชุมกับคณะทำงานด้านการค้าในสัปดาห์นี้ เพื่อเตรียมการจัดส่งหนังสือแจ้งให้ประเทศต่าง ๆ ทราบถึงอัตราภาษีศุลกากรที่สหรัฐจะเรียกเก็บจากแต่ละประเทศ ทั้งนี้หลังจากผ่านพ้นเส้นตายไปแล้ว สหรัฐจะจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศต่าง ๆ ในอัตราใหม่ซึ่งจะอยู่ระหว่างร้อยละ 11 ไปจนถึงร้อยละ 50 ตามที่นายทรัมป์เคยประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายน ก่อนที่จะพักการบังคับใช้เป็นเวลา 90 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศต่าง ๆ เจรจาตกลงกับสหรัฐ  โดยในระหว่างนั้นจะยังคงเก็บภาษีอัตราถ้วนหน้าร้อยละ 10  นายทรัมป์ระบุว่า ขึ้นอยู่กับท่าทีของแต่ละประเทศ หากประเทศใดที่ไม่ทำตามที่สหรัฐเรียกร้องก็จะต้องถูกเก็บภาษีตอบโต้ในอัตราสูง .-816(814).-สำนักข่าวไทย  

โตเกียว 1 ก.ค. – นายโยชิมาสะ ฮายาชิ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงวันนี้ว่า ญี่ปุ่นจะไม่ยอมเสียสละภาคเกษตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาภาษีกับสหรัฐ แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะร้องเรียนว่าพันธมิตรอย่างญี่ปุ่นไม่ได้นำเข้าข้าวจากสหรัฐ นายทรัมป์เขียนข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า การที่ญี่ปุ่นไม่เต็มใจที่จะนำเข้าข้าวที่ปลูกในอเมริกา เป็นสัญญาณว่านานาประเทศได้กลายเป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์จากสหรัฐมากเกินไปจนเคยชิน นายฮายาชิปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นโดยตรงเกี่ยวกับโพสต์ดังกล่าวของนายทรัมป์ แต่กล่าวว่ารัฐบาลจะยังคงเดินหน้าเจรจาการค้ากับสหรัฐเพื่อบรรลุข้อตกลงที่จะทำให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ราคาข้าวเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่ส่งผลให้การเก็บเกี่ยวในปี 2023 ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพต่ำ ทำให้เกิดการขาดแคลนข้าวเมื่อปีที่แล้ว และเพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาราคาข้าว รัฐบาลญี่ปุ่นได้ระบายข้าวสำรองฉุกเฉินเกือบทั้งหมดออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา

วอชิงตัน 1 ก.ค. – อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งเทสลาและสเปซเอ็กซ์ กลับมาวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ อีกครั้งเกี่ยวกับนโยบายลดภาษีและร่างกฎหมายการใช้จ่ายของรัฐบาล โดยเขาประกาศว่าจะโค่นล้มนักการเมืองที่สนับสนุนนโยบายดังกล่าวให้พ้นจากตำแหน่ง หลังจากที่ตัวเขาเองเคยรณรงค์จำกัดการใช้จ่ายของรัฐบาล หลังจากที่เงียบไปนานหลายสัปดาห์ ภายหลังความขัดแย้งกับนายทรัมป์ เรื่องกฎหมายดังกล่าว มัสก์ได้กลับมาแสดงความคิดเห็นอีกครั้งในวันเสาร์ เมื่อวุฒิสภาเริ่มพิจารณาร่างกฎหมาย โดยเขาโพสต์ข้อความผ่านทางแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของเขา เรียกร่างกฎหมายนี้ว่าเป็น “เรื่องบ้าและทำลายล้างอย่างสิ้นเชิง” และในวันจันทร์ เขาก็ได้เพิ่มระดับการวิพากษ์วิจารณ์ โดยกล่าวว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เคยหาเสียงว่าจะลดการใช้จ่าย แต่กลับสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ควรละอายใจ มัสก์กล่าวด้วยว่า เขาจะดำเนินการอย่างเต็มที่ที่จะทำให้บุคคลเหล่านี้พ่ายแพ้การเลือกตั้งขั้นต้นในครั้งหน้า มัสก์ยังเรียกร้องอีกครั้งให้มีการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดยเขาระบุว่าถึงเวลาแล้วสำหรับพรรคการเมืองใหม่ที่ใส่ใจประชาชนอย่างแท้จริง คำวิจารณ์ของมัสก์ต่อร่างกฎหมายดังกล่าวทำให้เกิด รอยร้าวในความสัมพันธ์ของเขากับนายทรัมป์ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังจากที่มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีผู้นี้เคยใช้เงินเกือบ 300 ล้านดอลลาร์ ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งใหม่ของทรัมป์ และยังเป็นผู้นำหน่วยงานที่เรียกว่ากระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล (Department of Government Efficiency) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มในการลดต้นทุนของรัฐบาลกลางที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก.-813.-สำนักข่าวไทย

โตเกียว 30 มิ.ย.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐพูดชัดเจนว่า ไม่คิดจะยกเลิกการเก็บภาษีอัตราสูงกับยานยนต์นำเข้าจากญี่ปุ่น แม้ญี่ปุ่นแสดงความคัดค้านอย่างยิ่งในการเจรจาที่หยุดชะงักในขณะนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ของสหรัฐที่ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ตอบคำถามเรื่องมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่สหรัฐจะขยายการพักใช้ภาษีเป็นเวลา 90 วันให้แก่ประเทศต่าง ๆ เช่น ญี่ปุ่นว่า รัฐบาลของเขาเตรียมส่งจดหมายไปยังญี่ปุ่นและคู่ค้าใหญ่อื่น ๆ เพื่อแจ้งเรื่องอัตราภาษีศุลกากรที่สหรัฐจะเรียกเก็บจากสินค้านำเข้าของคู่ค้านั้น ๆ ญี่ปุ่นไม่นำเข้ายานยนต์จากสหรัฐ ขณะที่สหรัฐนำเข้ายานยนต์ญี่ปุ่นหลายล้านคัน ซึ่งไม่เป็นธรรม เขาได้อธิบายเรื่องนี้ให้ญี่ปุ่นฟังแล้ว รวมถึงเรื่องที่สหรัฐขาดดุลการค้าจำนวนมากให้แก่ญี่ปุ่น และญี่ปุ่นก็เข้าใจ เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า การเจรจาระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐชะงักงันในเรื่องที่ผู้นำสหรัฐประกาศเมื่อเดือนเมษายนเรื่องขึ้นภาษียานยนต์นำเข้าจากญี่ปุ่นจากร้อยละ 2.5 เป็นร้อยละ 27.5 นายเรียวเซ อาคาซาวะ หัวหน้าคณะเจรจาของญี่ปุ่นไม่ได้พบกับนายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ระหว่างไปเจรจาที่กรุงวอชิงตันเป็นรอบที่ 7 ตั้งแต่วันพฤหัสบดี แม้ว่าได้เลื่อนวันเดินทางกลับจากวันเสาร์ไปเป็นวันอาทิตย์แล้วก็ตาม โดยได้พบเพียงนายฮาเวิร์ด ลุตนิค รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐเป็นเวลา 1 ชั่วโมง และโทรศัพท์สนทนา 2 ครั้ง.-814.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 29 มิ.ย.- ผู้นำสหรัฐเปิดเผยว่า อาจจะไม่ยึดตามกำหนดเส้นตายการพักใช้ภาษีศุลกากรกับประเทศต่าง ๆ เป็นเวลา 90 วันที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 8 กรกฎาคมตามเวลาสหรัฐ เว็บไซต์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐตอบข้อถามผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐเรื่องยังคงยึดมั่นตามเส้นตายที่กำหนดไว้หรือไม่ว่า สหรัฐสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ โดยอาจจะขยายเส้นตายออกไปอีก หรือร่นระยะเวลาเส้นตายให้เร็วขึ้น ซีเอ็นบีซีรายงานว่า คำถามดังกล่าวเจาะจงไปที่เส้นตายการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับสหภาพยุโรปหรืออียูที่ต้องบรรลุผลในวันที่ 9 กรกฎาคม ไม่เช่นนั้นสินค้าอียูเข้าสหรัฐจะถูกเก็บภาษีสูงถึงร้อยละ 50 แต่คำตอบของนายทรัมป์ดูเหมือนจะหมายถึงเส้นตายของการพักใช้ภาษีเป็นเวลา 90 วันกับประเทศต่าง ๆ เขาประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรใหม่เป็นรายประเทศเมื่อวันที่ 2 เมษายน และลงนามคำสั่งประธานาธิบดีในวันที่ 9 เมษายนมีผลบังคับใช้ในวันเดียวกัน ก่อนประกาศพักใช้หลังผ่านไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง โดยจะเก็บภาษีแบบถ้วนหน้าอัตราร้อยละ 10 ในช่วง 90 วันจนถึงเส้นตายวันที่ 8 กรกฎาคม หากนายทรัมป์ไม่ปรับเปลี่ยนคำสั่งดังกล่าว มาตรการนี้ก็จะกลับมาใช้ในอีก 12 วัน จนถึงขณะนี้มีเพียงสหราชอาณาจักรและจีนเท่านั้นที่บรรลุข้อตกลงการค้าแบบจำกัดกับสหรัฐ ผู้นำสหรัฐอ้างกับสื่อว่า ทำข้อตกลงแล้ว 4-5 ประเทศ จากที่ต้องเจรจามากกว่า […]

ปักกิ่ง 12 มิ.ย. – รัฐบาลจีนกล่าววันนี้ ยืนยันข้อตกลงการค้าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ประกาศไว้ โดยกล่าวว่าทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องยึดมั่นในฉันทามติที่ได้ตกลงกันไว้ และเน้นย้ำว่าจีนรักษาสัญญาเสมอ ข้อตกลงดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่นายทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้พูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นการสงบศึกชั่วคราวในสงครามการค้าระหว่างสองประเทศ เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน กล่าวในการแถลงข่าวตามปกติว่า จีนรักษาสัญญามาโดยตลอด พร้อมกับระบุว่า เมื่อมีฉันทามติเกิดขึ้นแล้ว ทั้งสองฝ่ายควรปฏิบัติตาม การสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างนายทรัมป์และนายสี ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่ตึงเครียด ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากข้อตกลงเบื้องต้นที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ ได้สะดุดลง ตามมาด้วยการเจรจาเพิ่มเติมในกรุงลอนดอนของอังกฤษ ซึ่งสหรัฐกล่าวว่าได้ “เสริมเนื้อหา” ให้กับข้อตกลงเจนีวา เพื่อบรรเทามาตรการภาษีตอบโต้ระหว่างสองฝ่าย ข้อตกลงเจนีวาหยุดชะงักลงเนื่องจากจีนยังคงจำกัดการส่งออกธาตุบางชนิด ทำให้รัฐบาลทรัมป์ ตอบโต้ด้วยการควบคุมการส่งออก ห้ามการส่งซอฟต์แวร์ออกแบบเซมิคอนดักเตอร์ เครื่องยนต์ไอพ่นสำหรับเครื่องบินที่ผลิตในจีน และสินค้าอื่นๆ ไปยังจีน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายทรัมป์กล่าวว่าเขามีความสุขมากกับข้อตกลงการค้านี้ โดยระบุผ่าน “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเขา ว่าข้อตกลงกับจีนเสร็จสิ้นแล้ว รอการอนุมัติขั้นสุดท้ายจากประธานาธิบดีสีและตัวเขา และเสริมว่า “แม่เหล็กและธาตุหายากที่จำเป็นทั้งหมดจะถูกจัดหาโดยจีน ในทำนองเดียวกันสหรัฐจะจัดหาสิ่งที่ตกลงกันไว้ให้จีน […]

วอชิงตัน 12 มิ.ย.- รัฐมนตรีคลังของสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐอาจขยายการพักใช้ภาษีศุลกากรเป็นเวลา 90 วันให้แก่คู่ค้าหลักที่ยังคงเจรจากับสหรัฐอย่างจริงใจ ขณะที่ผู้นำสหรัฐระบุว่า ไม่มีเวลาเจรจากับประเทศที่มีความสำคัญน้อย นายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณในวุฒิสภาเมื่อวานนี้ เรื่องรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรเมื่อการพักใช้ภาษีศุลกากร 90 วันจะสิ้นสุดลงหลังวันที่ 8 กรกฎาคม นายเบสเซนต์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงมากว่า สำหรับประเทศและกลุ่มการค้าอย่างสหภาพยุโรปหรืออียูที่กำลังเจรจากับสหรัฐอย่างจริงใจ สหรัฐจะขยายเวลาการพักใช้ภาษีศุลกากร 90 วันออกไปเพื่อเดินหน้าการเจรจาอย่างจริงใจต่อไป แต่หากไม่เจรจา สหรัฐก็จะไม่ขยายเวลาให้ เขาย้ำด้วยว่า รัฐบาลกำลังเจรจาการค้ากับคู่ค้าสำคัญอยู่ 18 คู่ค้า ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ประกาศใช้ภาษีศุลกากรกับประเทศต่าง ๆ เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่เขาระบุว่าเป็นวันปลดแอก ตอบข้อถามสื่อในเรื่องนี้ว่า ยังไม่คิดว่าจำเป็นต้องขยายการพักใช้ภาษี เขาย้ำว่า รัฐบาลยังไม่เปลี่ยนแปลงการจัดลำดับความสำคัญที่มุ่งเจรจากับญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และคู่ค้าหลักอื่น ๆ เพราะไม่มีเวลาที่จะเจรจากับอีกมากกว่า 150 ประเทศที่มีความสำคัญน้อยต่อสหรัฐ ดังนั้นสหรัฐจะเป็นฝ่ายส่งสารไปยังประเทศเหล่านี้ภายใน 1 สัปดาห์ครึ่งถึง 2 สัปดาห์ว่า ข้อตกลงการค้าของสหรัฐจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร และประเทศเหล่านี้สามารถตอบรับหรือปฏิเสธสารของสหรัฐได้.-814.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 11 มิ.ย.- หลายประเทศ หลายสายการบิน และบริษัทอากาศยานเรียกร้องรัฐบาลสหรัฐไม่ประกาศใช้ภาษีความมั่นคงแห่งชาติกับการนำเข้าเครื่องบินและอะไหล่เครื่องบิน ขณะที่สหภาพแรงงานในสหรัฐสนับสนุนมาตรการภาษี โบอิง ผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐยื่นเอกสารต่อกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ เรียกร้องให้ใช้นโยบายปลอดภาษีกับเครื่องบินและอะไหล่นำเข้าในการเจรจาการค้ากับประเทศอื่นต่อไป เหมือนกับที่สหรัฐประกาศใช้นโยบายนี้ในการทำข้อตกลงการค้ากับอังกฤษเมื่อเดือนพฤษภาคม รอยเตอร์รายงานว่า เอกสารดังกล่าวเป็นหนึ่งในชุดเอกสารที่มีการเปิดเผยเมื่อวันอังคาร เป็นเอกสารแสดงความกังวลจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องบิน บริษัทสายการบิน และหลายประเทศอย่างจีน แคนาดา ญี่ปุ่น เม็กซิโก สวิตเซอร์แลนด์ และสหภาพยุโรป ที่กังวลถึงผลกระทบจากการที่เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมกระทรวงพาณิชย์สหรัฐใช้มาตรา 232 เปิดการสอบสวนเรื่องความมั่นคงแห่งชาติกับการนำเข้าเครืองบินพาณิชย์ เครื่องยนต์และอะไหล่เครื่องบิน ซึ่งอาจนำมาสู่การขึ้นภาษีครั้งใหม่ บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินและบริษัทสายการบินพยายามโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ฟื้นนโยบายปลอดภาษีตามข้อตกลงเครื่องบินพลเรือนปี 2522 ด้วยการอ้างว่า นโยบายนี้ทำให้อุตสาหกรรมนี้ของสหรัฐได้ดุลการค้ามากถึง 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.44 ล้านล้านบาท) ต่อปี การขึ้นภาษีจะกระทบต่อราคาตั๋วโดยสาร ความปลอดภัยทางการบิน และห่วงโซ่อุปทาน เพราะภาษีร้อยละ 10 ที่รัฐบาลสหรัฐเรียกเก็บกับการนำเข้าเครื่องบินและอะไหล่เกือบทั้งหมดในปัจจุบันได้ทำให้การผลิตเครื่องบินพาณิชย์ในประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงอยู่แล้ว ด้านสหภาพแรงงานยูเอดับเบิลยู (UAW) ที่เป็นตัวแทนของคนทำงานด้านอากาศยาน 10,000 คน ประกาศสนับสนุนการใช้ภาษีใหม่และการกำหนดโควต้าการผลิตเครื่องบินในประเทศ เพื่อปกป้องการจ้างงานในประเทศที่ลดลงจาก 850,000 คนในปี 2533 เหลือเพียง […]