วอชิงตัน 16 ก.ค. – สหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้ากับอินโดนีเซียเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ โดยจะไม่ต้องจ่ายภาษีส่งออกไปอินโดนีเซียเลย ขณะที่อินโดนีเซียต้องจ่ายภาษีส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ ที่ร้อยละ 19 เพื่อลดยอดขาดดุลการค้ามหาศาลที่สหรัฐมีต่ออินโดนีเซีย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประกาศข้อตกลงการค้ากับอินโดนีเซียในวันอังคาร เป็นข้อตกลงล่าสุดที่มุ่งกระชับความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับประเทศคู่ค้า และลดยอดขาดดุลการค้าจำนวนมหาศาลของสหรัฐ โดยทรัมป์ระบุว่า สหรัฐจะไม่จ่ายภาษีนำเข้า-ส่งออกไปยังอินโดนีเซีย เราจะเข้าถึงอินโดนีเซียอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้าครั้งนี้ ขณะที่อินโดนีเซียจะจ่ายภาษีสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐที่ร้อยละ 19
ด้านเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงประสานงานด้านเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย แจ้งกับรอยเตอร์ผ่านข้อความว่า กำลังเตรียมแถลงการณ์ร่วมระหว่างสหรัฐและอินโดนีเซีย ซึ่งจะอธิบายขนาดของภาษีศุลกากรสำหรับอินโดนีเซีย ซึ่งรวมถึงข้อตกลงด้านภาษีศุลกากร ข้อตกลงที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร และข้อตกลงทางการค้า โดยจะแจ้งให้สาธารณชนทราบในเร็วๆ นี้
ตัวเลขการค้าทั้งหมดของอินโดนีเซียกับสหรัฐ มีมูลค่าเกือบ 40,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2567 แม้จะไม่ติดอยู่ใน 15 อันดับแรก แต่ก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง การส่งออกของสหรัฐไปยังอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 ในปีที่แล้ว ขณะที่การนำเข้าจากอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 ทำให้สหรัฐขาดดุลการค้าเกือบ 18,000 ล้านดอลลาร์ สินค้านำเข้าจากอินโดนีเซียอันดับต้นๆ ของสหรัฐ ได้แก่ น้ำมันปาล์ม อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเราเตอร์และสวิตช์ข้อมูล รองเท้า ยางรถยนต์ ยางธรรมชาติ และกุ้งแช่แข็ง
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ขู่อินโดนีเซียด้วยอัตราภาษีนำเข้าร้อยละ 32 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ในจดหมายที่ส่งถึงประธานาธิบดีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ได้ส่งจดหมายลักษณะเดียวกันนี้ไปยังคู่ค้าหลายสิบประเทศในเดือนนี้ ซึ่งรวมถึงแคนาดา ญี่ปุ่น และบราซิล โดยกำหนดอัตราภาษีนำเข้าแบบครอบคลุมตั้งแต่ร้อยละ 20 ถึง 50 รวมถึงภาษีนำเข้าทองแดงร้อยละ 50
ความก้าวหน้าครั้งสำคัญกับอินโดนีเซียเกิดขึ้นในขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลของสหภาพยุโรป หรืออียู เตรียมตั้งเป้าที่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ มูลค่า 72,000 ล้านยูโร ตั้งแต่เครื่องบินโบอิ้ง วิสกี้เบอร์เบิน ไปจนถึงยานยนต์ หากการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯล้มเหลว
ทรัมป์ขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรปร้อยละ 30 ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ยุโรประบุว่าเป็นระดับที่ยอมรับไม่ได้ และจะยุติการค้าปกติระหว่างสองตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก.-815.-สำนักขาวไทย