
รมว.ยุติธรรม กำชับดำเนินการเด็ดขาดเครือข่าย “โกฟุก”
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ขอบคุณเจ้าหน้าที่ พร้อมกำชับให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับเครือข่าย “โกฟุก”
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ขอบคุณเจ้าหน้าที่ พร้อมกำชับให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับเครือข่าย “โกฟุก”
เสวนา “มุมมองและเสียงสะท้อน ภายหลังกัญชากระท่อมออกจากกฎหมายยาเสพติด” รับฟังความคิดเห็น ป้องกันการใช้ในทางที่ผิด ย้ำเด็ก-เยาวชน ต้องห่างไกลกัญชา กระท่อม
รมว.ยธ. ย้ำ ป.ป.ส. แก้จิตเวชในชุมชนต่อเนื่อง ประชาชนคือตัววัดความสำเร็จ
พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดงาน “DRIP Model สานพลัง สร้างสังคมปลอดภัย” เพื่อสร้างการรับรู้ การบูรณาการ คัดกรองผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ภายใต้สโลแกน “คุมประพฤติ แก้ไขฟื้นฟู ชูความเชื่อมั่น สังคมปลอดภัย”
รมว.ยุติธรรม ยันระเบียบขังนอกเรือนจำไม่ได้ออกเพื่อ “ทักษิณ” คกก.ประชุมหลักเกณฑ์คัดกรองผู้ต้องขังเข้าเกณฑ์บ่ายนี้ เผยอธิบดีราชทัณฑ์แจ้งจะเสนอหนังสืออนุมัติ “ทักษิณ” นอน รพ.ต่อเกิน 120 วัน ให้ทราบในสัปดาห์นี้
พ.ต.อ.ทวี เผยอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เตรียมส่งเรื่อง “ทักษิณ” รักษาตัวเกิน 120 วัน ให้ทราบภายในสัปดาห์นี้ แจงเหตุล่าช้าติดประชุมแพทย์อาการป่วย
รมว.ยุติธรรม เผยเรื่อง “ทักษิณ” ยันเห็นผลรายงานแพทย์แล้วป่วยจริง โยนอธิบดีราชทัณฑ์ชี้แจงความคืบหน้า
คณะกรรมการราชทัณฑ์ เผยเตรียมพิจารณาหลักเกณฑ์ให้นักโทษที่เข้าเกณฑ์ได้คุมขังนอกเรือนจำในวันที่ 11 ม.ค.นี้ โดยมี “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม เป็นประธาน พร้อมคณะกรรมการรวม 17 คน
พ.ต.อ.ทวี ชี้ “กมธ.ตร.” ขึ้นดูงานชั้น 14 รพ.ตำรวจได้ เผยต้นเดือน ธ.ค.ผู้ตรวจการแผ่นดินก็เข้าไปแล้ว ยันไม่หนักใจเรื่อง “ทักษิณ” เป็นเผือกร้อน บอกงานจะเป็นตัวพิสูจน์ เชื่อ “พีระพันธุ์” มีวิจารณญาณไม่ทำนอกกฎหมาย ย้ายงานตามความเหมาะสม ไม่เกี่ยวเอื้อประโยชน์ใคร
“พ.ต.อ.ทวี” รมว.ยุติธรรม แย้มรู้ “แป้ง นาโหนด” อยู่ไหน จะเร่งจับเป็นให้ได้ ส่วนข้อเสนอจาก “แป้ง” แลกมอบตัว ฟังได้แต่อย่าเชื่อ
“พ.ต.อ.ทวี” เผยเป็นอำนาจอธิบดีราชทัณฑ์ให้ “ทักษิณ” นอนต่อ รพ.ตำรวจ กม.ให้ รมว.ยุติธรรมแค่ทราบ แทรกแซงไม่ได้ ส่วนระเบียบประกาศที่อื่นเป็นที่ขัง ยังไม่ออก และครอบครัวชินวัตรไม่ได้ยื่นขออภัยโทษ ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวเยอรมันหนีประกันคดีชำเราเด็ก ได้สั่งดีเอสไอ ตรวจสอบแล้ว
“พ.ต.อ.ทวี” รมว.ยุติธรรม มอบเงินเยียวยาประชาชนที่ตกเป็นแพะในคดีอาญา รวม 3 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 2,092,049 บาท