ยธ.แถลงจับแก๊งบิ๊กไบค์ลอบขนยาเสพติดบิ๊กลอต

5 มี.ค. – รมว.ยุติธรรม ร่วมหน่วยภาคี แถลงจับกุมแก๊งบิ๊กไบค์ ลักลอบขนยาเสพติดจากภาคเหนือบิ๊กลอต ตามเบาะแสร้องเรียนผ่านสายด่วน 1386 รวบ 6 ผู้ต้องหา รวมทรัพย์สินมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท


พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส., พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผู้บังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส., พล.ต.สมจริง กอรี รอง ผบ.นบ.ยส.35/รอง ผอ.ศอ.ปส.ชน., พ.ต.อ.พัสกร ธวัชเชียงกุล ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย, พ.อ.สุชาติ ไวติดต่อ หน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก, น.ท.จักรกฤษณ์ นาคเทวัญ สำนักปฏิบัติการ กรมยุทธการทหารเรือ เข้าร่วมแถลงผลปฏิบัติการสืบสวนขบวนการลำเลียงยาเสพติด ตามเบาะแสร้องเรียนผ่านสายด่วน 1386 สามารถนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 คน พร้อมของกลางยาบ้า 1,890,000 เม็ด ซุกซ่อนในอุปกรณ์พ่วงข้างรถจักรยานยนต์ Big Bike จำนวน 5 คัน คันละ 370,000-380,000 เม็ด หลังจากนั้นทำการขยายผลตรวจค้นเพิ่มเติม จำนวน 10 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัดชลบุรี, กทม., สมุทรปราการ, และพิจิตร จากผลการปฏิบัติการ สามารถตรวจยึดอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติมอีก ได้แก่ รถยนต์ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน รวมเป็นรถจักรยานยนต์ Big Bike 6 คัน เงินสด 49,000 บาท ทองคำน้ำหนักรวม 42 บาท อายัดเงินในบัญชีธนาคารยอดเงิน 217,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 7 ล้านบาท ณ สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง)

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2567 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับแจ้งเบาะแสร้องเรียนยาเสพติดผ่านสายด่วน 1386 จากพลเมืองดีในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยแจ้งว่า พบกลุ่มรถจักรยานยนต์ Big Bike มาพักอยู่ที่โรงแรมในพื้นที่ตัวเมือง จ.เชียงราย ขับรถเสียงดังรบกวนช่วงกลางดึก คาดว่าจะมีการรวมกลุ่มมั่วสุมเสพยาเสพติด และต้องสงสัยว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด โดยใช้การอำพรางเป็นคาราวานท่องเที่ยว ซึ่งผู้แจ้งเบาะแสพบเห็นกลุ่มรถจักรยานยนต์ Big Bike ดังกล่าว เข้ามาในพื้นที่ จ.เชียงราย เฉลี่ยเดือนละ 1-2 ครั้ง และมักจะเดินทางออกจากพื้นที่ในช่วงเวลาเช้ามืด ผิดปกติจากบุคลทั่วไป


พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ได้สั่งการให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด มอบหมายเจ้าหน้าที่ส่วนปฏิบัติการข่าวและปราบปรามยาเสพติด 2 (จ.เชียงราย) ร่วมกับ นบ.ยส.35, ฝขว.ศปก.ทบ., กก.สส.ภ.จว.เชียงราย, บก.ปส.3 บช.ปส., ขกท.กกล.ผาเมือง, บก.สส.ภ.5, ชุดสกัดกั้นยาเสพติด ภ.5 ชุดปฏิบัติการ ศอ.ปส.ทร และ ขกท.ศปก.ทภ.3 ปฏิบัติการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงตามเบาะแสร้องเรียน โดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกระจายกำลังค้นหากลุ่มรถจักรยานยนต์ Big Bike ต้องสงสัย บริเวณพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงราย กระทั่งพบกลุ่มรถจักรยานยนต์ลักษณะตามแจ้ง จำนวน 6 คัน มีชายวัยรุ่นและชายวัยกลางคน เป็นผู้ขับขี่ รถจักรยานยนต์ Big Bike ลักษณะมีโครงเหล็กพร้อมติดตั้งกล่องบรรทุกสิ่งของ ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงติดตามพฤติการณ์อย่างใกล้ชิด พบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้าพักที่รีสอร์ตในพื้นที่ ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย

โดยในช่วงเช้าของวันที่ 4 มีนาคม 2567 เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหา 6 คน พร้อมของกลางยาบ้า 1,890,000 เม็ด ซุกซ่อนในอุปกรณ์พ่วงข้างรถจักรยานยนต์ Big Bike จำนวน 5 คัน ซุกซ่อนยาบ้าคันละ 370,000 – 380,000 เม็ด ผู้ต้องหาให้การว่าได้รับค่าจ้างในการลำเลียงยาเสพติด รวมจำนวน 1 ล้านบาท ลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 3 ครั้ง และเตรียมนำยาเสพติดไปส่งในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งจากการสืบสวนเชื่อว่า ยาเสพติดลำเลียงมาจากพื้นที่กลุ่มชาติพันธุ์ ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังขยายผลปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เกี่ยวข้อง จำนวน 10 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด (จ.ชลบุรี, กทม., จ.สมุทรปราการ, จ.พิจิตร) ตรวจยึดทรัพย์สินรวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 7 ล้านบาท

การจับกุมดังกล่าวถือเป็นลักษณะการกระทำความผิด (MO) รูปแบบใหม่ โดยขบวนการลำเลียงยาเสพติด จะอำพรางเป็นคาราวานท่องเที่ยวใช้ยานพาหนะประเภท รถจักรยานยนต์ Big Bike ติดตั้งโครงเหล็กพร้อมบรรทุกกล่องสิ่งของ (ใช้ซุกซ่อนยาเสพติดได้ประมาณเกือบ 4 แสนเม็ด) ไปลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จ.เชียงราย เข้ามาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งที่ผ่านมารถจักรยานยนต์ไม่ได้เป็นยานพาหนะต้องสงสัยที่ใช้ในลำเลียงยาเสพติดปริมาณมากระดับล้านเม็ด


เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่าความสำเร็จของคดีดังกล่าว เกิดจากประชาชนแจ้งเบาะแสร้องเรียนยาเสพติดผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 ซึ่งภายหลังจากที่ได้รับข้อมูลร้องเรียนสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ตรวจสอบและเร่งดำเนินการทุกข้อร้องเรียน โดยข้อมูลของผู้แจ้งจะมีความปลอดภัยและเป็นความลับอย่างแน่นอน กรณีนี้เป็นเบาะแสที่มีความสมบูรณ์และเป็นประโยชน์ ช่วยให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้เร็ว ซึ่งขอให้ประชาชนเข้าใจว่าสำนักงาน ป.ป.ส. ไม่ได้ดำเนินการแต่รายใหญ่ หากแต่ยังคำนึงถึงรายย่อย ซึ่งหากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เจ้าหน้าที่ก็จะรีบไปดำเนินการ เพื่อลดปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล โดยต้องขอบคุณความร่วมมือของประชาชนในการช่วยสอดส่องและแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้า เชื่อว่าจะทำให้ปัญหายาเสพติด และอาชญากรรมอื่น ๆ ลดลง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2566 – ปัจจุบันสำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับเรื่องร้องเรียนทั้งหมด (ทุกช่องทาง) เป็นจำนวน 7,370 เรื่อง และดำเนินการแล้ว 4,143 เรื่อง ซึ่งจะดำเนินการให้ครบทุกเรื่อง ตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากประชาชน. -119-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]