ก.ยุติธรรม 29 ม.ค. – เสวนา “มุมมองและเสียงสะท้อน ภายหลังกัญชากระท่อมออกจากกฎหมายยาเสพติด” รับฟังความคิดเห็น ป้องกันการใช้ในทางที่ผิด ย้ำเด็ก-เยาวชน ต้องห่างไกลกัญชา กระท่อม
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงานเสวนา “มุมมองและเสียงสะท้อน ภายหลังกัญชา กระท่อมออกจากกฎหมายยาเสพติด” ครั้งที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2567 พร้อมด้วยนายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และภาคส่วนเกี่ยวข้อง เครือข่ายนักวิชาการ และภาคประชาชน ร่วมรับฟังเสวนา
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ภายหลังพืชกระท่อมและกัญชาถูกยกเลิกจากการเป็นยาเสพติด โดยเจตนารมณ์คือเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ เศรษฐกิจ และการใช้กระท่อมในวิถีชาวบ้าน แต่ในอีกทางหนึ่งพบว่ามีการจำหน่ายน้ำต้มใบกระท่อมที่ไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงมีการจำหน่ายกระท่อม กัญชา ให้แก่เด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ส่งผลให้เด็กและเยาวชนและประชาชนเข้าถึง และใช้กัญชา กระท่อม เพิ่มขึ้น และมีการนำมาใช้ในทางที่ผิด เพื่อความบันเทิง โดยนำไปผสมยาควบคุม ยาอันตราย วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และยาเสพติดให้โทษ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาอื่นตามมา
แม้กฎหมายจะปลดล็อคกระท่อมออกจากยาเสพติด แต่ปัจจุบันก็พบปัญหาผลกระทบทางลบจากชุมชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการลักลอบผสมน้ำกระท่วม มั่วสุม การร้องเรียนเรื่องจากปัญหากระท่อมมีเยอะขึ้น ผ่านทาง ป.ป.ส. การเปิดรับฟังวันนี้จึงต้องมองผลกระทบรอบด้าน หรืออย่างเรื่องกัญชา ก็มีเสียงสะท้อนเป็นวงกว้าง และไทยก็เป็นไม่กี่ประเทศในโลกที่อนุญาตให้ถูกกฎหมาย และยังไม่มีการออกกฎชัดเจนควบคุมชัดเจน ซึ่งการทบทวนร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ก็อยู่ระหว่างกระบวนการของกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการ มีการเปิดรับฟังความเห็นรอบด้าน
ส่วนกฎกระทรวงที่จะออกเพิ่มเติม เรื่อง กระท่อม นั้น รมว.ยุติธรรม และกระทรวงสาธารณสุข ก็จะถกร่วมกันเพื่อให้ครอบคลุมมากที่สุด โดยหากมีการเพิ่มเติมกฎกระทรวง บริบทของกระท่อม ในสังคมจะเปลี่ยนไปอย่างไร รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ยกตัวอย่างเช่น ขณะนี้เราพบว่ามีกระท่อมวางขายเกลื่อน ไม่เว้นหน้าโรงเรียน โดยกฎกระทรวงอาจมีการกำหนดว่า บางพื้นที่บางแห่งอาจจะต้องประกาศห้ามขายหรือไม่ ก็จะมีการเสนอปรับปรุงกฎหมายผ่านทางสภาฯ ต่อไป
รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า จึงจำเป็นต้องติดตามสภาพปัญหา และให้มีการเสวนาขึ้น โดยเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านยาเสพติด นักวิชาการ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานภาคี และประชาชนทั่วไปผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังการเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น สะท้อนผลที่เกิดขึ้น เพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของกัญชาและกระท่อมในกลุ่มเป้าหมายอย่างเร่งด่วน รวมถึงสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนให้เข้าใจถึงประโยชน์และโทษของกัญชา กระท่อม เพื่อไม่นำไปใช้ทางที่ผิด
ซึ่งการเสวนา แลกเปลี่ยนใน 2 ประเด็น คือ 1.มุมมองต่อการที่กัญชา กระท่อมออกจากกฎหมายยาเสพติด หรือสภาพปัญหา และผลกระทบจากการที่กัญชา และกระท่อมออกจากยาเสพติด และ 2.ข้อเสนอเชิงนโยบาย หรือแนวทางในการเฝ้าระวังปัญหาการแพร่ระบาดของกัญชาและกระท่อม มีโดยนายวิโรจน์ สุ่มใหญ่ อดีตประธานคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศ (INCB) ได้แลกเปลี่ยนในประเด็นมุมมองของกัญชาและกระท่อมในระดับนานาชาติ นายไพศาล ลิ้มสถิต กรรมการบริหารศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พูดในประเด็น สังคมไทยหลังการถอดกัญชา กระท่อม ออกจากยาเสพติด และแนวทางการควบคุมทางกฎหมายที่เหมาะสม รศ.พญ.รัศมน กัลยาศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหายาเสพติด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยถึงสถานการณ์กัญชา กระท่อมในประเทศไทย และ นพ.ล่ำซำ ลักขณาภิชนชัช รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) พูดในประเด็นผลกระทบจากกัญชา และกระท่อม
ผู้เข้าร่วมงานได้แลกเปลี่ยนมุมมอง นำเสนอ และสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น ในภาคประชาชน บุคคลกรทางสาธารณสุข และพรรคการเมือง หลังจากนี้ทาง สำนักงาน ป.ป.ส. จะรวบรวมและนำไปเสนอเป็นแนวทางนโยบายในการดำเนินการเกี่ยวกับกัญชา และกระท่อม เพื่อป้องกันการใช้ในรูปแบบที่ไม่พึงประสงค์ต่อไป. -417-สำนักข่าวไทย
