เผย “มาครง” ไม่ให้รัสเซียตรวจโควิดเพราะหวั่นขโมย DNA

ปารีส 11 ก.พ. – แหล่งข่าวที่อยู่ในคณะผู้ติดตามประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เผยว่า ผู้นำฝรั่งเศสไม่ยอมเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดตามคำขอของทางการรัสเซียในขณะที่เดินทางเข้าพบประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเมื่อวันจันทร์ เพื่อป้องกันไม่ให้รัสเซียได้ข้อมูลดีเอ็นเอของประธานาธิบดีมาครง แหล่งข่าวใกล้ชิดด้านข้อกำหนดทางสุขภาพของประธานาธิบดีมาครงเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ผู้นำฝรั่งเศสมี 2 ทางเลือก คือ ยอมเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดแบบซีพีอาร์ของทางการรัสเซียเพื่อให้ได้รับอนุญาตเข้าใกล้ประธานาธิบดีปูติน หรือปฏิเสธการตรวจหาเชื้อโควิดและต้องเว้นระยะห่างทางสังคมกับผู้นำรัสเซีย ทั้งยังระบุว่า ฝรั่งเศสทราบดีว่าการเดินทางเยือนรัสเซียของประธานาธิบดีมาครงในครั้งนี้จะไม่มีภาพการจับมือระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศและต้องมีการใช้โต๊ะยาว เพราะฝรั่งเศสไม่ยอมให้รัสเซียได้ข้อมูลดีเอ็นเอของประธานาธิบดีมาครงอย่างแน่นอน ในขณะเดียวกัน แหล่งข่าวที่อยู่ในคณะผู้ติดตามประธานาธิบดีมาครงยืนยันว่า ผู้นำฝรั่งเศสได้ปฏิเสธเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดแบบพีซีอาร์โดยแพทย์ชาวรัสเซียจริง โดยเลือกตรวจหาเชื้อโควิดแบบพีซีอาร์ที่ฝรั่งเศสก่อนออกเดินทางไปรัสเซียและให้แพทย์ประจำตัวที่เป็นชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ตรวจหาเชื้อโควิดอีกครั้งเมื่อเดินทางถึงรัสเซีย สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคำบอกเล่าของแหล่งข่าวใกล้ชิดเป็นเหตุให้ประธานาธิบดีมาครงต้องรักษาระยะห่างทางสังคมกับประธานาธิบดีปูตินในระหว่างการเดินทางเยือนรัสเซียเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาวิกฤตการณ์ในยูเครน ขณะที่นักวิเคราะห์และนักการทูตหลายรายตั้งข้อสังเกตว่า ภาพถ่ายที่มีประธานาธิบดีปูตินนั่งหารือกับประธานาธิบดีมาครงบนโต๊ะยาว 4 เมตรเมื่อวันจันทร์อาจสะท้อนให้เห็นว่า ผู้นำรัสเซียต้องการส่งสารแสดงท่าทีทางการทูตบางอย่าง.-สำนักข่าวไทย

ตร.ปารีสห้ามกลุ่มต้านมาตรการโควิดปิดกั้นถนน

ตำรวจกรุงปารีสของฝรั่งเศสสั่งห้ามการปิดกั้นถนน ตามที่กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านการใช้มาตรการเพื่อจำกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ขู่ทางออนไลน์ว่าจะดำเนินการ โดยได้ตัวอย่างมาจากการประท้วงปิดกั้นถนนในแคนาดา

อินโดนีเซียสั่งซื้อเครื่องบินขับไล่จากฝรั่งเศส 42 ลำ

จาการ์ตา 10 ก.พ. – อินโดนีเซียลงนามในข้อตกลงสั่งซื้อเครื่องบินขับไล่ ‘ราฟาล’ (Rafale) จำนวน 6 ลำแรกจากฝรั่งเศส โดยมีแผนสั่งซื้อทั้งหมด 42 ลำ ในขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศสเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก นายปราโบโว ซูเบียนโต รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอินโดนีเซีย ประกาศข้อตกลงดังกล่าวในขณะที่พบปะกับนางฟลอเรนซ์ ปาร์ลี รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศส ที่กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย นายซูเบียนโต กล่าวว่า อินโดนีเซียได้ตกลงสั่งซื้อเครื่องบินราฟาล 42 ลำจากฝรั่งเศส โดยได้ลงนามในคำสั่งซื้อเครื่องบิน 6 ลำแรกในวันนี้ และจะลงนามสั่งซื้อเครื่องบินอีก 36 ลำในภายหลัง การลงนามในข้อตกลงล่าสุดระหว่างอินโดนีเซียกับฝรั่งเศสมีขึ้นในขณะที่ฝรั่งเศสเริ่มหวนกลับมากระชับความสัมพันธ์กับชาติพันธมิตรในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หลังฝรั่งเศสระบุว่าถูกออสเตรเลียยกเลิกสัญญาซื้อเรือดำน้ำมูลค่ามหาศาลกะทันหันในเดือนกันยายนปีก่อน โดยที่ออสเตรเลียหันไปทำสัญญาซื้อเรือดำน้ำจากสหรัฐกับอังกฤษภายใต้ข้อตกลงความมั่นคงไตรภาคีออคัส (AUKUS) เพื่อคานอิทธิพลที่เพิ่มมากขึ้นของจีน ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียกับฝรั่งเศสได้ลงนามในข้อตกลงด้านพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ร่วมกันในระหว่างที่นายฌอง-อีฟว์ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของฝรั่งเศสเดินทางเยือนอินโดนีเซียเป็นเวลา 2 วันในเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ทั้งนี้ อินโดนีเซียได้สั่งซื้อเครื่องบินขับไล่ดังกล่าวจากฝรั่งเศสเป็นครั้งแรกเพื่อนำมาประจำการบินทดแทนฝูงบินรุ่นเก่า เช่น เครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 ของสหรัฐ และเครื่องบินขับไล่ซุคฮอยของรัสเซีย เนื่องจากความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนในทวีปเอเชีย.-สำนักข่าวไทย

“มาครง” เยือนรัสเซียหารือ “ปูติน” แก้วิกฤตยูเครน

มอสโก 8 ก.พ. – ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ระบุว่า เขาหวังว่าจะเริ่มต้นกระบวนการเพื่อลดความตึงเครียดในยูเครนได้ ในขณะที่ผู้นำฝรั่งเศสเดินทางเยือนกรุงมอสโกเพื่อหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีมาครงและประธานาธิบดีปูตินได้นั่งหารือร่วมกันบนโต๊ะยาวโดยที่ทั้งสองผู้นำนั่งอยู่กันคนละฟาก ประธานาธิบดีมาครง กล่าวว่า การหารือในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในทิศทางที่ฝรั่งเศสต้องการ ซึ่งก็คือการลดความตึงเครียดในยูเครน ผู้นำฝรั่งเศสยังเรียกร้องถึงคำตอบที่เป็นประโยชน์ต่อรัสเซียและประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรปอีกด้วย ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีปูตินได้กล่าวต้อนรับประธานาธิบดีมาครงด้วยท่าทีเป็นมิตร โดยระบุว่า รัสเซียกับฝรั่งเศสมีข้อวิตกกังวลที่ตรงกันเกี่ยวกับประเด็นด้านความมั่นคงในยุโรป และกล่าวชื่นชมความเป็นผู้นำของฝรั่งเศสในการพยายามแก้ปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ ประธานาธิบดีมาครงถือเป็นผู้นำจากชาติตะวันตกคนแรกที่เดินทางเข้าพบประธานาธิบดีปูตินนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน โดยที่รัสเซียได้สั่งกองทหารหลายหมื่นนายไปประจำการอยู่บริเวณพรมแดนติดยูเครน ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีมาครง ซึ่งมีกำหนดเดินทางเยือนกรุงเคียฟของยูเครนในวันนี้ต่อจากรัสเซียเพื่อหารือกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยกับผู้สื่อข่าวก่อนเดินทางออกจากฝรั่งเศสว่า เขาคาดว่าการเจรจากับผู้นำของรัสเซียและยูเครนจะเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่ไม่ได้หวังว่าการแก้ปัญหานี้จะจบลงภายในเวลาอันสั้น.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำฝรั่งเศสเดินสายรัสเซีย-ยูเครนหวังคลี่คลายสถานการณ์

ปารีส 7 ก.พ.- ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสเดินทางไปกรุงมอสโกของรัสเซียในวันนี้ ก่อนจะเดินทางต่อไปยังยูเครนในวันรุ่งขึ้น หวังใช้วิถีทางการทูตแก้ไขสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศที่ชาติตะวันตกกังวลว่ารัสเซียเตรียมบุกยูเครน ประธานาธิบดีมาครงใช้เวลาตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาต่อสายสนทนากับผู้นำพันธมิตรตะวันตก รัสเซีย และยูเครน แหล่งข่าวใกล้ชิดประธานาธิบดีเผยว่า จุดประสงค์หนึ่งของการไปรัสเซียคือเพื่อซื้อเวลาและยื้อสถานการณ์ไว้หลายเดือน อย่างน้อยจนถึงเดือนเมษายนที่ยุโรปจะมีการเลือกตั้งในหลายประเทศทั้งในฮังการี สโลวีเนีย และฝรั่งเศส ที่ปรึกษาทางการเมืองของเขามองว่า เป็นโอกาสที่มาครงจะได้แสดงความเป็นผู้นำในยุโรป แม้ว่าเขายังไม่ประกาศตัวว่าจะลงเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ก็ตาม เว็บไซต์ฟรองซ์แวงต์กัตร์ (France24) ของฝรั่งเศสระบุว่า ประธานาธิบดีมาครง วัย 44 ปี ดำเนินความพยายามทางการทูตกับรัสเซียมาโดยตลอด เขาเชิญประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียมาเยือน หลังจากตนเองรับตำแหน่งในปี 2560 ได้ไม่นาน และเชิญมาพบที่บ้านพักประธานาธิบดีในอีก 2 ปีถัดมา ประเทศยุโรปตะวันออกที่เคยเป็นรัฐบริวารอดีตสหภาพโซเวียตวิจารณ์จุดยืนของมาครง ทำให้เขาต้องหารือกับผู้นำตะวันตกหลายครั้งก่อนไปเยือนรัสเซียในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

ฝรั่งเศสเริ่มผ่อนคลายมาตรการข้อจำกัดเรื่องโควิด

ปารีส 2 ก.พ.- ฝรั่งเศสเริ่มผ่อนคลายมาตรการเพื่อจำกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตั้งแต่วันนี้ หวังให้ประชาชนดำเนินชีวิตง่ายขึ้น แม้เมื่อเดือนที่แล้วยังมียอดผู้ติดเชื้อทำสถิติสูงสุดก็ตาม นายกรัฐมนตรีฌอง กัสเต็กซ์ ของฝรั่งเศสประกาศเมื่อปลายเดือนมกราคมว่า จะผ่อนคลายมาตรการจำกัดเป็น 2 ระยะ โดยจะยกเลิกมาตรการส่วนใหญ่ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากมีการใช้บัตรผ่านโควิดแบบใหม่ที่กำหนดให้ต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนเท่านั้นในการใช้บริการสาธารณะ ไม่สามารถใช้ผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบได้อีกต่อไป การผ่อนคลายระยะแรกที่เริ่มในวันนี้จะยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในที่แจ้ง การจำกัดจำนวนคนในการชมคอนเสิร์ต การแข่งขันกีฬา และงานอื่น ๆ รวมทั้งไม่บังคับให้ทำงานจากบ้านอีกต่อไป ส่วนการผ่อนคลายระยะที่สองจะให้ไนต์คลับที่ถูกปิดตั้งแต่เดือนธันวาคมเปิดได้อีกครั้งในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ อนุญาตให้มีที่ยืนชมในคอนเสิร์ต การแข่งขันกีฬาและบาร์ อนุญาตให้ดื่มกินตามสนามกีฬา โรงภาพยนตร์ และรถโดยสารสาธารณะได้อีกครั้ง ทางการฝรั่งเศสไม่ได้ตั้งเงื่อนไขว่า จะผ่อนคลายมาตรการตามสถานการณ์ด้านสาธารณสุข และเห็นว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนมีอันตรายน้อยกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ แม้ว่าแพร่เชื้อได้ง่ายกว่าก็ตาม โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า เห็นแนวโน้มผู้ติดเชื้อรายวันลดลง โดยเฉลี่ยที่ 322,256 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน เทียบกับ 366,179 คนเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านั้น เป็นสัญญาณที่ทำให้มีกำลังใจอย่างยิ่ง แต่ทางการยังคงเฝ้าระวังอยู่.-สำนักข่าวไทย

รมต. ญี่ปุ่น-ฝรั่งเศสหารือกระชับความร่วมมืออินโด-แปซิฟิก

โตเกียว 20 ม.ค. – รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นกับฝรั่งเศสจะหารือร่วมกันในประเด็นเกี่ยวกับความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกในวันนี้ ในขณะที่ภูมิภาคดังกล่าวกำลังเผชิญกับการขยายอำนาจทางทหารที่เพิ่มขึ้นของจีนและการพัฒนาขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นเผยว่า นายโยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น และนายโนบุโอะ คิชิ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น จะจัดประชุมแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ในวันนี้ร่วมกับนายฌอง อีฟว์ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีกระทรวงกิจการยุโรปและการต่างประเทศฝรั่งเศส และนางฟลอเรนซ์ พาร์ลี รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศส ทั้งยังระบุว่า ญี่ปุ่นกับฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีพรมแดนติดทะเลและมีดินแดนตั้งอยู่ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างฝรั่งเศสกับญี่ปุ่นจึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการตระหนักถึงความเปิดกว้างและเสรีภาพในภูมิภาคแห่งนี้ ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นระบุว่า ญี่ปุ่นกับฝรั่งเศสต้องการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศอย่างลึกซึ้ง และหวังว่าข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยกระชับความร่วมมือในขอบเขตใหม่ เช่น ความร่วมมือด้านอวกาศและไซเบอร์ ทั้งนี้ การหารือระดับทวิภาคีของทั้งสองประเทศมีขึ้นก่อนถึงการประชุมด้านความมั่นคงของบรรดาผู้นำในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกอีกหลายงาน เช่น การประชุมสุดยอดผู้นำแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กับนายกรัฐมนตรีฟูมิโอ คิชิดะ ของญี่ปุ่น และการหารือร่วมกันระหว่างคณะรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมของออสเตรเลียกับอังกฤษ โดยที่ทั้งสองงานมีกำหนดจัดขึ้นพร้อมกันในวันศุกร์.-สำนักข่าวไทย

วุฒิสภาฝรั่งเศสผ่านร่างกฎหมาย

วุฒิสภาฝรั่งเศสผ่านร่างกฎหมายให้ใช้แต่ใบฉีดวัคซีน

วุฒิสภาฝรั่งเศสผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายที่จะเข้มงวดการใช้บัตรผ่านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ด้วยการจำกัดให้ใช้แต่ใบรับรองการฉีดวัคซีนเท่านั้น

สส.ฝรั่งเศสผ่านร่าง กม.ใช้แต่ใบรับรองฉีดวัคซีนเท่านั้น

ปารีส 6 ม.ค.- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฝรั่งเศสผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายเข้มงวดการใช้บัตรผ่านโควิดในการรับบริการสาธารณะ ด้วยการให้ใช้แต่ใบรับรองการฉีดวัคซีนเท่านั้น หลังจากอภิปรายอย่างดุเดือดนานถึง 3 วัน สส.ฝรั่งเศสผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายนี้ด้วยคะแนน 214 ต่อ 93 เสียง และงดออกเสียง 27 เสียงก่อนเวลา 05:30 น.วันนี้ตามเวลาฝรั่งเศส และจะต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาที่จะพิจารณาในต้นสัปดาห์หน้า รัฐบาลต้องการให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 มกราคม แต่มีแนวโน้มจะล่าช้าเพราะการอภิปรายติดขัดในสภาผู้แทนราษฎร ร่างกฎหมายนี้กำหนดให้ผู้มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนในการเข้าร้านอาหาร สถานที่ทางวัฒนธรรม และรถโดยสารสาธารณะข้ามภูมิภาค โดยไม่สามารถใช้ผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบเช่นในปัจจุบันได้อีกต่อไป ยกเว้นการเข้ารับบริการทางการแพทย์ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสถูกวิจารณ์อย่างหนัก จากการที่กล่าวเมื่อวันอังคารว่า ยุทธศาสตร์เรื่องโควิดของเขาจะก่อกวนผู้ไม่ฉีดวัคซีน ด้วยการเพิ่มมาตรการจำกัดเข้มงวดเพื่อจูงใจให้ไปฉีดวัคซีน ฝรั่งเศสมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 10 ล้าน 9 แสน 2 หมื่นคน มากเป็นอันดับ 5 ของโลก และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 124,800 คน มีอัตราการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วร้อยละ 73.7.-สำนักข่าวไทย

ฝรั่งเศสเดินหน้าห้ามคนไม่ฉีดวัคซีนใช้ที่สาธารณะ

ปารีส 4 ม.ค.- รัฐบาลฝรั่งเศสจะเดินหน้าใช้กฎหมายห้ามผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ใช้บริการสถานที่สาธารณะและรถสาธารณะ แม้ว่าการอภิปรายกฎหมายนี้ในรัฐสภาสะดุดลงเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา นายเคลมองต์ โบน รัฐมนตรีกิจการยุโรปของฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ในวันนี้ว่า วันที่ 15 มกราคมยังคงเป็นเป้าหมายการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ ปัจจุบันฝรั่งเศสบังคับใช้บัตรผ่านโควิดที่ต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบหรือใบรับรองการฉีดวัคซีนเมื่อจะใช้บริการร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ หรือรถไฟ แต่กฎหมายใหม่จะไม่เหลือทางเลือกให้แสดงผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบ ส่งผลให้ผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนไม่สามารถใช้บริการสถานที่สาธารณะและรถสาธารณะได้อีกต่อไป กฎหมายนี้ถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากกลุ่มต่อต้านวัคซีน กลุ่มขวาจัด และกลุ่มซ้ายจัด แต่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลที่ครองเสียงข้างมากในสภา อย่างไรก็ดี การอภิปรายกฎหมายฉบับนี้ในสภาผู้แทนราษฎรต้องระงับไปหลังเที่ยงคืนวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจาก สส.ส่วนใหญ่ลงมติให้ระงับการอภิปราย ขณะที่ สส.ฝ่ายรัฐบาลไม่ได้อยู่ในที่ประชุมมากเพียงพอที่จะขัดขวางการลงมติได้ ประธาน สส.กลุ่มต่าง ๆ จะต้องกำหนดวันอภิปรายใหม่อีกครั้ง หากผ่านความเห็นชอบจาก สส. จะต้องให้ สว.เห็นชอบ จึงจะสามารถบังคับใช้ในวันที่ 15 มกราคมได้.-สำนักข่าวไทย

ฝรั่งเศสลดเวลากักโรคคนติดโควิดที่ฉีดวัคซีนครบโดส

ปารีส 2 ม.ค.- ฝรั่งเศสจะลดระยะเวลากักโรคสำหรับผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วจาก 10 วันเหลือ 7 วัน ตามอย่างหลายประเทศที่ลดเวลากักโรคเพื่อไม่ให้ธุรกิจสะดุดเพราะขาดคนทำงาน นายโอลิวิเยร์ เวรอง รัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ที่ตีพิมพ์วันนี้ว่า ผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วหากมีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกจะต้องกักโรค 7 วัน และจะลดลงเหลือ 5 วันหากมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนจะต้องกักโรคตัวเองเป็นเวลา 10 วัน และอาจจะลดลงเหลือ 7 วันหากมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ นายเวรองระบุด้วยว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนแพร่ได้ง่ายมาก และไม่สามารถหยุดยั้งได้หากไม่นำมาตรการควบคุมเข้มงวดกลับมาใช้อีกครั้ง ด้านประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสกล่าวสุนทรพจน์ในวันส่งท้ายปีเก่าว่า ช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก จะต้องเฝ้าระวังกันไปตลอดเดือนมกราคม แต่ไม่พูดถึงเรื่องใช้มาตรการเข้มงวดครั้งใหม่เพื่อควบคุมการระบาด และว่าการระบาดเพราะเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนในขณะนี้อาจเป็นการระบาดครั้งสุดท้าย ฝรั่งเศสมีผู้ติดโรคโควิด-19 รายใหม่ 219,126 คนเมื่อวันเสาร์ เกิน 200,000 คนเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน และสูงเป็นอันดับ 2 รองจากวันศุกร์ที่พบมากที่สุดที่ 232,200 คน ขณะที่ยอดติดเชื้อเฉลี่ยในช่วง 7 วันทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ที่ 157,651 คน […]

อังกฤษพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 เกือบ 2 แสนราย

สหราชอาณาจักร รายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 รายวันประจำวันพฤหัสบดีจำนวน 189,21 ราย ซึ่งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์และผู้เสียชีวิต 332 ราย

1 28 29 30 31 32 107
...