fbpx

เครื่องบินรบรัสเซียตกในย่านชุมชนรัสเซียใกล้ตอนใต้ยูเครน

มอสโก 18 ต.ค. – เครื่องบินรบของกองทัพรัสเซียตกย่านชุมชนทางตอนใต้ของรัสเซีย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้พื้นที่ทางตอนใต้ของยูเครน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน และผู้บาดเจ็บ 25 คน กระทรวงกลาโหมของรัสเซียเผยว่า เครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิดซุคฮอย ซู-34 (Sukhoi Su-34) ของกองทัพรัสเซียตกในย่านชุมชนของเมืองเยสก์ ทางตอนใต้ของรัสเซีย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้พื้นที่ทางตอนใต้ของยูเครน เครื่องบินดังกล่าวเกิดไฟลุกไหม้ที่เครื่องยนต์เมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นในขณะที่กำลังปฏิบัติภารกิจฝึกซ้อมบิน โดยนักบินสามารถดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัยก่อนเครื่องบินตก เครื่องบินลำนี้ตกใส่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งจนทำให้เกิดไฟไหม้ ขณะที่โรงเรียนที่ตั้งอยู่ใกล้ละแวกดังกล่าวได้สั่งอพยพนักเรียนออกจากโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย ด้านสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซียรายงานว่า เหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน และผู้บาดเจ็บ 25 คน ในขณะเดียวกัน รัฐบาลรัสเซียได้สั่งให้หน่วยงานท้องถิ่นและรัฐบาลกลางเร่งช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเครื่องบินรบตกในครั้งนี้ และยังส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลลงพื้นที่เพื่อประสานงานร่วมกับศูนย์รับมือวิกฤต ส่วนคณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียระบุว่า ได้ส่งพนักงานสืบสวนลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อสอบสวนในคดีอาญาแล้ว แต่ไม่ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่ทำเช่นนั้น ทั้งนี้ เมืองเยสก์ตั้งอยู่ในพื้นที่ฝั่งตรงข้ามกับพื้นที่ทางตอนใต้ของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครอง โดยมีทะเลอาซอฟคั่นกลาง. -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วม-ดินถล่มในเนปาล เสียชีวิต 33 คน

กาฐมาณฑุ 12 ต.ค. – น้ำท่วมและดินถล่มในพื้นที่ทางตะวันตกของเนปาลทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 33 คนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์อันนาปุรณะโพสต์ (Annapurna Post) ของเนปาลรายงานอ้างโฆษกสำนักงานตำรวจของเนปาลว่า จังหวัดกรณาลี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเนปาล เผชิญกับฝนตกหนักครั้งใหญ่ จนทำให้ทางการต้องอพยพประชาชนหลายพันคนออกจากพื้นที่ ขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 33 คน ผู้สูญหายอย่างน้อย 22 คน และผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ทั้งยังระบุว่า ทางการเนปาลได้ระดมกำลังตำรวจลงพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมและดินถล่มเพื่อช่วยเหลือประชาชนแล้ว และได้จัดเตรียมเฮลิคอปเตอร์เพื่อเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในเขตสุรเขต แต่ก็เผชิญกับอุปสรรคด้านสภาพภูมิอากาศย่ำแย่ จนทำให้ปฏิบัติการช่วยเหลือไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยของเนปาลก็ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเช่นกัน เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้อยู่ในภูมิภาคที่รายล้อมไปด้วยภูเขาและมีฝนตกต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการเหตุฉุกเฉินของเนปาลระบุว่า ระดับน้ำของแม่น้ำกรณาลีในบางพื้นที่ของจังหวัดกรณาลีได้เพิ่มสูงถึง 12 เมตร จนทำให้สะพานหลายแห่งถูกกระแสน้ำพัดหาย ส่วนหน่วยงานด้านมนุษยธรรมขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เผยว่า กำลังจัดส่งอาหารและเวชภัณฑ์ไปยังชุมชนในพื้นที่ทางตะวันตกของเนปาลที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม ทั้งนี้ เนปาลกำลังอยู่ในช่วงใกล้สิ้นสุดฤดูฝน ซึ่งปกติจะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงตุลาคม ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินแห่งชาติของเนปาลระบุว่า เนปาลมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 110 คนที่เชื่อมโยงกับอุทกภัยในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

ยอดผู้เสียชีวิตจากเฮอริเคน “เอียน” ทะลุ 100 คน

ฟลอริดา 4 ต.ค. – เจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัยของรัฐฟลอริดาในสหรัฐกลับมาปฏิบัติภารกิจลงพื้นที่ประสบภัยเฮอริเคน ‘เอียน’ (Ian) อีกครั้งในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 103 คนแล้ว ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการเหตุฉุกเฉินของรัฐฟลอริดากล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัยของรัฐฟลอริดาได้ลงพื้นที่สำรวจบ้านเรือนและอาคารธุรกิจราว 45,000 หลังนับตั้งแต่เฮอริเคนเอียนพัดถล่มรัฐฟลอริดาเมื่อวันพุธก่อน จนทำให้อาคารบ้านเรือนของชุมชนหลายแห่งที่ตั้งอยู่ริมอ่าวเม็กซิโกได้รับความเสียหายจากคลื่นสูงซัดฝั่ง ทั้งยังระบุว่า เจ้าหน้าที่เหล่านี้ได้กลับไปลงพื้นที่สำรวจบ้านเรือนและอาคารต่าง ๆ อีกครั้งเพื่อค้นหาผู้ประสบภัยที่อาจตกค้างอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ในขณะเดียวกัน ทางการสหรัฐรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเฮอริเคนเอียนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 103 คนนับตั้งแต่เฮอริเคนเอียนพัดถล่มพื้นที่ริมฝั่งอ่าวเม็กซิโกในรัฐฟลอริดาด้วยความรุนแรงระดับ 4 และความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อวันพุธที่แล้ว โดยที่รัฐฟลอริดามีตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงสุดที่ 78 คน ขณะนี้ มีผู้ประสบภัยบางส่วนที่อพยพออกจากบ้านเรือนยังคงพักอยู่ในรถบ้านที่จัดหาโดยสำนักงานบริหารจัดการเหตุฉุกเฉินของรัฐบาลสหรัฐ หรือได้รับบัตรกำนัลให้เข้าพักในโรงแรมต่าง ๆ เป็นการชั่วคราว. -สำนักข่าวไทย

ยอดผู้เสียชีวิตจากเฮอริเคน “เอียน” พุ่งเป็น 85 คน

ไมอามี 3 ต.ค. – ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเฮอริเคนเอียน (Ian) พัดถล่มรัฐฟลอริดาของสหรัฐ พุ่งขึ้นเป็น 85 คนแล้ว ขณะที่การฟื้นฟูความเสียหายในรัฐฟลอริดา นอร์ทแคโรไลนา และเซาท์แคโรไลนา อาจต้องใช้เงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทางการสหรัฐรายงานว่า เฮอริเคนเอียน ซึ่งพัดถล่มชายฝั่งกัล์ฟโคสต์ในรัฐฟลอริดาด้วยความรุนแรงระดับ 4 และความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อวันพุธ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 85 คน โดยคาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะที่น้ำท่วมลดระดับและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งลงพื้นที่ที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือประชาชนหลายร้อยคนออกจากบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมหรือได้รับความเสียหายแล้ว ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของลีเคาน์ตี  ฟอร์ตไมเออร์ และเคปคอรัล ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งอ่าวเม็กซิโก กำลังถูกตั้งข้อสงสัยว่าได้ใช้คำสั่งอพยพประชาชนอย่างทันท่วงทีหรือไม่ นายเซซิล เพนเดอร์กราส ประธานคณะกรรมาธิการบริหารของลีเคาน์ตี ยืนยันเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ทางการได้สั่งให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบรุนแรงจากเฮอริเคนเอียนในทันที แต่ก็ยังมีประชาชนบางส่วนที่ไม่ยอมอพยพออกจากบ้านเรือน ทำเนียบขาวสหรัฐระบุในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยในเปอร์โตริโก ดินแดนในเครือของสหรัฐ ในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ประชาชนหลายแสนคนยังคงใช้ชีวิตท่ามกลางไฟดับมาเป็นเวลา 2 สัปดาห์หลังถูกเฮอริเคนฟิโอนาพัดถล่ม จากนั้น ผู้นำสหรัฐและนางจิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง จะเดินทางไปตรวจความเสียหายที่รัฐฟลอริดาในวันพุธ. -สำนักข่าวไทย

เผยยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุประท้วงในอิหร่านเพิ่มเป็น 76 คน

เตหะราน 28 ก.ย. – อิหร่าน ฮิวแมน ไรต์ส หรือไอเอชอาร์ องค์กรสิทธิมนุษยชนอิหร่านที่มีสำนักงานในนอร์เวย์ ระบุว่า กองกำลังความมั่นคงของอิหร่านได้สังหารผู้ชุมนุมอย่างน้อย 76 คนจากเหตุชุมนุมประท้วงที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลา 11 วันนับตั้งแต่เกิดเหตุหญิงไม่สวมฮิญาบเสียชีวิตขณะถูกตำรวจอิหร่านควบคุมตัว ไอเอชอาร์ระบุว่า กองกำลังความมั่นคงของอิหร่านได้สังหารผู้ประท้วงอย่างน้อย 76 คน พร้อมกล่าวหาเจ้าหน้าที่อิหร่านว่าใช้กำลังเกินกว่าเหตุและใช้กระสุนจริงปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุม รวมถึงจับกุมประชาชนหลายร้อยคน ในจำนวนนี้ มีนักข่าว 20 คนรวมอยู่ด้วย ขณะที่สื่อของทางการอิหร่านรายงานว่า เหตุประท้วงทำให้มีผู้เสียชีวิต 41 คน ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่กองกำลังความมั่นคงอิหร่านหลายนาย พร้อมทั้งกล่าวโทษผู้ชุมนุมว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ผู้อำนวยการของไอเอชอาร์ระบุว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเสี่ยงต่อการถูกทรมานและควบคุมตัวอย่างโหดร้ายทารุณ การยิงกระสุนจริงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมถือเป็นการก่ออาชญากรรมระหว่างประเทศ และขอเรียกร้องให้ทั่วโลกช่วยกันปกป้องสิทธิของประชาชนอิหร่าน ขณะที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสประชาชาติ (UNHRC) ระบุว่า รู้สึกวิตกกังวลอย่างมากจากการที่อิหร่านใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ชุมนุม และเรียกร้องให้อิหร่านเคารพสิทธิของประชาชนในการชุมนุมโดยสันติ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ขณะนี้ เหตุประท้วงต่อต้านรัฐบาลอิหร่านได้ขยายวงกว้างไปกว่า 80 เมืองและชุมชนทั่วประเทศนับตั้งแต่มีการจัดงานศพของมาห์ซา อามินี เมื่อวันที่ 17 กันยายน ก่อนหน้านี้ มาห์ซา อามินี หญิงชาวอิหร่าน […]

เหตุวัยรุ่นไลฟ์สดกราดยิงในสหรัฐ ตาย 4 คน

เทนเนสซี 8 ก.ย. – ตำรวจรัฐเทนเนสซีในสหรัฐเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 4 คน และผู้บาดเจ็บ 3 คน จากเหตุวัยรุ่นชายกราดยิงในพื้นที่หลายแห่งในเมืองเมมฟิสเมื่อช่วงคืนวันพุธตามเวลาท้องถิ่น โดยที่มือปืนได้ไลฟ์สดเหตุกราดยิงอย่างน้อย 1 ครั้งบนเฟซบุ๊ก หัวหน้าสำนักงานตำรวจเมืองเมมฟิสในรัฐเทนเนสซี ระบุในงานแถลงข่าวเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ตำรวจได้จับกุมนายเอเซเคียล เคลลี วัย 19 ปี ได้เมื่อคืนวันพุธ หลังก่อเหตุกราดยิงใส่สถานที่หลายแห่งในเมืองเมมฟิส และได้ไลฟ์สดเหตุกราดยิงอย่างน้อย 1 ครั้งบนเฟซบุ๊ก ก่อนหน้านี้ ตำรวจเมืองเมมฟิสได้ประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวอยู่แต่ในบ้านขณะที่นายเคลลีขับรถไปทั่วเมืองเพื่อกราดยิงผู้คน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างคลิปวิดีโอสั้น ๆ บนเฟซบุ๊กที่แสดงให้เห็นภาพชายคนหนึ่งเดินไปเดินมาพร้อมพูดขึ้นว่า ‘นี่คือเหตุการณ์จริง’ ชายคนดังกล่าวยังพูดจาหยาบคายในขณะที่เขาเปิดประตูร้านค้าก่อนยิงกระสุนสองนัดใส่คนแรกที่เดินผ่านกล้อง อย่างไรก็ดี สำนักข่าวรอยเตอร์สยังไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของคลิปวิดีโอดังกล่าวได้.-สำนักข่าวไทย

แผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวนของจีน ตายเพิ่มเป็น 74 คน

ปักกิ่ง 7 ก.ย. – มณฑลเสฉวนของจีนกลับมาเปิดถนนให้รถยนต์สัญจรเข้าออกเมืองได้อีกครั้งในวันนี้ หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.8 เมื่อวันจันทร์ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นเป็น 74 คนแล้ว หนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี ของทางการจีน รายงานวันนี้ว่า มณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ได้กลับมาเปิดถนนให้รถยนต์สัญจรเข้าออกเมืองได้อีกครั้งในวันนี้ หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.8 เมื่อวันจันทร์ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นเป็น 74 คน ผู้บาดเจ็บ 259 คน และผู้สูญหาย 26 คนนับถึงคืนวันอังคาร ส่วนเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภค และส่งความช่วยเหลือฉุกเฉินให้แก่ประชาชน นอกจากนี้ เมื่อวันอังคารยังได้อพยพประชาชนราว 11,000 คนออกจากเมืองหลูติ้ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางแผ่นดินไหวในครั้งนี้ ศูนย์เครือข่ายแผ่นดินไหวของจีนแจ้งเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ว่า เมืองหลูติ้งยังคงเกิดแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว หรืออาฟเตอร์ช็อก 3 ครั้ง ลึกลงไปใต้ดิน 12 กิโลเมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีนคาดการณ์ว่า มณฑลเสฉวนอาจมีฝนตกหนักไปจนถึงวันศุกร์ ทั้งนี้ เหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้เป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดของมณฑลเสฉวนนับตั้งแต่ปี 2560 และทำให้อาคารบ้านเรือน ระบบไฟฟ้า น้ำประปา และโทรคมนาคม […]

ปากีสถานเร่งกันน้ำในทะเลสาบล้นฝั่งท่วมบ้านเรือน

อิสลามาบัด 6 ก.ย. – ปากีสถานกำลังประสบปัญหาขุดลอกขยายพื้นที่ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศเพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้นฝั่งไหลท่วมบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมใหญ่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 1,325 คน ซึ่งรวมถึงเด็ก 466 คน รัฐมนตรีกระทรวงชลประทานของแคว้นสินธ์ในปากีสถานกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สเมื่อคืนวันจันทร์ว่า ทางการท้องถิ่นได้พยายามขุดลอกขยายพื้นที่ทะเลสาบมันชา ซึ่งเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่สุดของปากีสถาน เพื่อลดระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ทางการได้อพยพประชาชนราว 100,000 คนออกจากพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากหวั่นเกรงว่าน้ำในทะเลสาบอาจเอ่อล้นฝั่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนจำนวนมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ของแคว้นสินธ์เผยวันนี้ว่า เมืองโจฮีและมีฮาร์ในแคว้นสินธ์ต้องตกอยู่ในภาวะเสี่ยงต่ออุทกภัยอย่างมากเมื่อวันจันทร์ ขณะนี้ ประชาชนร้อยละ 80-90 ของเมืองดังกล่าวได้อพยพออกจากพื้นที่แล้ว แต่ยังมีชาวบ้านบางส่วนที่ยังคงช่วยกันเสริมคันกั้นน้ำริมทะเลสาบเพื่อป้องกันน้ำท่วมอย่างสุดกำลัง เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของปากีสถานระบุว่า น้ำท่วมครั้งใหญ่ในปากีสถานเป็นผลมาจากฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์และธารน้ำแข็งที่กำลังละลายในภูเขาทางตอนเหนือของปากีสถาน ทำให้ชาวปากีสถาน 33 ล้านคนจากประชากรทั้งหมด 220 ล้านคนเดือดร้อนอย่างหนัก และมีผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมอย่างน้อย 1,325 คน ซึ่งรวมถึงเด็ก 466 คน ขณะที่รัฐบาลปากีสถานและองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น กล่าวโทษปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้สภาพอากาศย่ำแย่และเกิดน้ำท่วมใหญ่ในครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย

ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมใหญ่ปากีสถานพุ่งเป็น 1,061 คน

อิสลามาบัด 29 ส.ค. – ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปากีสถานพุ่งขึ้นเป็น 1,061 คน นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของปากีสถานเผยวันนี้ว่า พบผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปากีสถานเพิ่มขึ้น 28 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมทั้งหมด 1,061 คนนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทั้งยังระบุว่า เหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ทำให้มีพื้นที่เกษตรกว่า 5 ล้านไร่เสียหาย ถนนราว 3,457 กิโลเมตรชำรุด และสะพาน 157 แห่งถูกทำลาย นอกจากนี้ ฝนตกและน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปีนี้ยังส่งผลกระทบต่อชาวปากีสถานกว่า 33 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นเกือบร้อยละ 15 ของประชากรทั้งหมด และมีบ้านเรือนเสียหายเกือบ 1 ล้านหลัง ขณะที่เจ้าหน้าที่ปากีสถานยังคงเร่งหาทางเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในหมู่บ้านที่ถูกตัดขาดในพื้นที่ที่มีภูเขาล้อมรอบทางตอนเหนือของประเทศ ทั้งนี้ ลมมรสุมประจำปีนับว่ามีความสำคัญต่อการเกษตรและระบบชลประทานทั่วภูมิภาคอนุทวีปอินเดีย แต่ก็ทำให้เกิดอุทกภัยรุนแรงในแต่ละครั้งเช่นกัน. -สำนักข่าวไทย

รมว.ยุติธรรม ให้ DSI ศึกษาคดีไฟไหม้ Mountain B ก่อนรับทำคดี

รมว.ยุติธรรม มอบเงินช่วยเหลือให้กับญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ Mountain B จำนวน 19 รายๆ ละ 110,000 บาท ขณะที่ “ทนายรณรงค์” นำญาติร้องขอดีเอสไอเข้ามารับคดีนี้ไปตรวจสอบ

แม่รับศพเหยื่อกระสุน “มอส-ฟลุ๊ค” ฌาปนกิจ ลั่นไม่ยกโทษให้คู่กรณี

แม่รับศพ “บุ๊ค” เหยื่อกระสุน “มอส-ฟลุ๊ค” ไปฌาปนกิจทันที เนื่องจากเพิ่งติดโควิดก่อนเสียชีวิต ลั่นไม่ยกโทษให้ หลังคู่กรณีฝากขอโทษผ่านสื่อ ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

รถบัสพุ่งชนรถขนน้ำมันในปากีสถาน ตาย 20 คน

อิสลามาบัด 16 ส.ค. – รถบัสบรรทุกผู้โดยสารพุ่งชนกับรถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงบนถนนมอเตอร์เวย์เชื่อมเมืองมุลตานกับเมืองซัคเกอร์ของปากีสถานเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน และบาดเจ็บ 6 คน เจ้าหน้าที่ของเมืองมุลตานในแคว้นปัญจาบของปากีสถานระบุในแถลงการณ์ว่า เกิดเหตุรถบัส ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารจากนครลาฮอร์ เมืองเอกของแคว้นปัญจาบ ไปยังนครการาจี เมืองเอกของแคว้นสินธ์ พุ่งชนกับรถบรรทุกน้ำมันบนถนนมอเตอร์เวย์ เหตุดังกล่าวทำให้เกิดไฟลุกท่วมและมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 20 คนเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวยังได้เผยแพร่ภาพถ่ายผ่านสื่อโซเชียลมีเดียที่แสดงให้เห็นภาพซากรถบัสและรถบรรทุกน้ำมันที่ถูกไฟไหม้เกรียมอีกด้วย สถานีโทรทัศน์ดอว์นนิวส์ทีวีของปากีสถานรายงานอ้างคำพูดของโฆษกสำนักงานตำรวจทางหลวงพิเศษของปากีสถานที่ระบุว่า รถบรรทุกคันดังกล่าวได้บรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงหลายพันลิตรขณะที่เกิดเหตุพุ่งชนกับรถบัส ทั้งยังระบุว่า อุบัติเหตุในครั้งนี้อาจมีสาเหตุมาจากคนขับรถบัสหลับใน ด้านเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลท้องถิ่นระบุว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ส่งผู้บาดเจ็บ 4 คนเข้ารับการรักษาในเบื้องต้นที่แผนกผู้ป่วยแผลไฟไหม้ในโรงพยาบาล และกำลังเตรียมการขนย้ายศพผู้เสียชีวิต 20 คนไปยังห้องเก็บศพของโรงพยาบาล.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 5 35
...