ผู้สูญหาย

เทนเนสซี 23 ส.ค. – เหตุน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ของรัฐเทนเนสซี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 21 ราย และมีผู้สูญหาย 50 คน สำนักงานตำรวจของฮัมฟรีส์เคาน์ตีระบุว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 21 รายจากเหตุน้ำท่วมในรัฐเทนเนสซี และมีผู้สูญหาย 50 คน เจ้าหน้าที่กำลังลงพื้นที่ค้นหาผู้สูญหายตามบ้านเรือนในพื้นที่น้ำท่วม ขณะที่นายวอลเลซ เฟรเซียร์ นายกเทศมนตรีเมืองเวเวอร์ลีในฮัมฟรีส์เคาน์ตีเผยกับหนังสือพิมพ์เทนเนสเซียนว่า ผู้เสียชีวิตมีตั้งแต่วัยทารกไปจนถึงผู้สูงวัย ขณะที่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมคนหนึ่งระบุว่า เธอและสามีติดอยู่ในห้องใต้หลังคาของบ้านเป็นเวลาหลายชั่วโมงหลังน้ำท่วมสูงถึง 1.8 เมตร และทั้งคู่ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยในเวลาต่อมา ในขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์เดอะวอชิงตันโพสต์ของสหรัฐรายงานอ้างครอบครัวหนึ่งที่ระบุว่า มีทารกฝาแฝดวัย 7 เดือนเสียชีวิตหลังทั้งคู่ถูกกระแสน้ำพัดจนหลุดออกจากอ้อมแขนพ่อแม่ เหตุน้ำท่วมทำให้ต้นไม้ใหญ่โค่นล้ม บ้านเรือนพังทลาย รถยนต์และสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ เสียหาย ก่อนหน้านี้ รัฐเทนเนสซีมีปริมาณฝนสูงถึง 43 เซนติเมตรในพื้นที่หลายแห่งจนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในช่วงบ่ายและช่วงค่ำวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น โดยเฉพาะที่เมืองเวเวอร์ลี ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเมืองแนชวิลล์ เมืองเอกของรัฐเทนเนสซี ไปทางตะวันตกราว 88 กิโลเมตร. -สำนักข่าวไทย

ปักกิ่ง 22 ก.ค. – เหตุน้ำท่วมในมณฑลเหอหนานทางตอนกลางของจีนทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 25 ราย ในจำนวนนี้ มีประชาชนกว่าสิบรายที่เสียชีวิตในรถไฟใต้ดินในเมืองเจิ้งโจว เมืองเอกของมณฑลดังกล่าว และคาดว่าจะมีฝนตกหนักเพิ่มขึ้นในภูมิภาคดังกล่าว สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทางการจีนได้อพยพประชาชนราว 100,000 คนออกจากเมืองเจิ้งโจว ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมและการขนส่งของจีน ไปอยู่ในที่ปลอดภัย ในขณะที่ระบบรางรถไฟและถนนได้รับความเสียหาย ส่วนเขื่อนและอ่างเก็บน้ำหลายแห่งมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจนถึงระดับคำเตือน และทางการจีนได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารหลายพันนายลงพื้นที่ปฏิบัติการกู้ภัยในมณฑลเหอหนาน ขณะที่เจ้าหน้าที่ของทางการท้องถิ่นระบุวานนี้ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 รายจากเหตุฝนตกหนักในมณฑลเหอหนานตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาและมีผู้สูญหาย 7 คน ในขณะเดียวกัน สื่อของทางการจีนรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 12 รายในอุโมงค์รถไฟใต้ดินที่ถูกน้ำท่วม และช่วยประชาชนกว่า 500 คนออกมาจากอุโมงค์ดังกล่าวได้ ขณะที่ภาพถ่ายที่เผยแพร่ในสื่อโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นสภาพผู้โดยสารรถไฟที่ยืนแช่อยู่ในน้ำลึกระดับหน้าอกท่ามกลางความมืด และสถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่งที่ถูกน้ำท่วมจนกลายสภาพเป็นสระสีน้ำตาลขนาดใหญ่ ทั้งนี้ ตั้งแต่เมื่อค่ำวันเสาร์จนถึงวันอังคาร มีฝนตกวัดปริมาณได้ 617.1 มิลลิเมตรในเมืองเจิ้งโจว ซึ่งเกือบเท่ากับปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยใน 1 ปี ที่ 640.8 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยากล่าวว่า ฝนที่ตกในช่วง 3 วันที่ผ่านมามีปริมาณมากอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เหมือนเป็นฝนตกหนักในรอบ 1,000 ปี ก็ว่าได้. […]

เบอร์ลิน 18 ก.ค. – นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี ระบุเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นขณะลงพื้นที่น้ำท่วมว่า เหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ของเยอรมนีและเบลเยียมที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นอุทกภัยที่น่ากลัว หลังพบยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 188 ราย นายกรัฐมนตรีแมร์เคิลให้คำมั่นว่า รัฐบาลเยอรมนีจะให้ความช่วยเหลือด้านการเงินอย่างรวดเร็ว หลังลงตรวจพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากฝนตกหนักและอุทกภัยที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 157 รายในเยอรมนีในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สุดของเยอรมนีในรอบเกือบ 60 ปี ผู้นำเยอรมนียังกล่าวว่า รัฐบาลจะพยายามให้มากขึ้นและรวดเร็วขึ้นเพื่อรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หลังจากที่สหภาพยุโรปได้เผยแผนการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ทั้งยังกล่าวกับประชาชนในเมืองอาเดเนาของรัฐไรน์แลนด์-พาลาทิเนตว่า ภัยน้ำท่วมครั้งนี้น่ากลัวอย่างมากจนไม่อาจบรรยายความรุนแรงที่เกิดขึ้นออกมาเป็นคำพูดได้ ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของเยอรมนียังคงออกปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุน้ำท่วม ส่วนรัฐบาวาเรียทางตอนใต้ของเยอรมนีต้องเผชิญกับเหตุน้ำท่วมฉับพลันเมื่อวานนี้ และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย ขณะที่ตำรวจเยอรมนีระบุว่า เขตอาร์ไวเลอร์ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองโคโลญและได้รับผลกระทบรุนแรงจากเหตุน้ำท่วมมีผู้เสียชีวิตราว 110 ราย และคาดว่าจะพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกหลังน้ำลด ส่วนรัฐนอร์ทไรน์-เวสต์ฟาเลียมีผู้เสียชีวิต 46 ราย และเบลเยียมมีผู้เสียชีวิต 31 รายนับถึงเมื่อวานนี้.-สำนักข่าวไทย

เหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในพื้นที่ทางตะวันตกเยอรมนีทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นกว่า 81 ราย และมีผู้สูญหายราว 1,300 คนในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น

ชูลด์ 15 ก.ค. – เหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในเยอรมนีทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มกว่า 60 ราย และมีผู้สูญหายอีกหลายสิบคนเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ในขณะที่แม่น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมหลายเมืองและหมู่บ้าน เนื่องจากฝนตกหนักทั่วภูมิภาคยุโรปตะวันตก ตำรวจเยอรมนีระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม 18 ราย และมีผู้สูญหายอีกหลายสิบคนในพื้นที่รอบเมืองอาร์ไวเลอร์ที่มีชื่อเสียงด้านการปลูกองุ่นผลิตไวน์ของรัฐไรน์แลนด์-พาลาทิเนตทางตะวันตกของเยอรมนี หลังแม่น้ำอาร์ที่ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำไรน์ เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมหลายหลัง อีกทั้งยังมีผู้เสียชีวิตอีก 15 รายในเขตออยส์เคียร์เชินที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองบอนน์ ขณะที่ทางการท้องถิ่นขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวอพยพออกจากบ้านเรือนไปยังที่ปลอดภัย ส่วนเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินกำลังเร่งระบายน้ำจากเขื่อนแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองออยส์เคียร์เชินเพราะเกรงว่าเขื่อนอาจจะแตกได้ นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิตจากเหตุฝนตกหนักในเบลเยียมอีก 2 ราย และมีหญิงวัยรุ่น 15 ปีสูญหายหลังถูกกระแสน้ำพัด ในขณะเดียวกัน ชาวเยอรมันในหลายเมืองที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่กลับมาสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนในขณะที่น้ำท่วมเริ่มลดระดับ บ้านเรือนหลายหลังในเมืองชูลด์ของรัฐไรน์แลนด์-พาลาทิเนตพังทลายจนเหลือเพียงซากปรักหักพัง ขณะที่ถนนหลายสายถูกตัดขาดเพราะถูกซากปรักหักพังและต้นไม้หักโค่นปิดกั้น ทางการเยอรมนีได้ส่งกำลังทหารหลายร้อยนายและเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย 2,500 คนลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือตำรวจในการกู้ภัยน้ำท่วม ขณะที่ทหารนำรถถังมาใช้เพื่อจัดการโคลนถล่มและซากต้นไม้โค่นล้ม รวมถึงนำเฮลิคอปเตอร์บินตระเวนช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่บนหลังคาบ้านเรือน ทั้งนี้ เหตุน้ำท่วมดังกล่าวยังทำให้มีบ้านเรือนราว 200,000 หลังถูกตัดไฟฟ้า. -สำนักข่าวไทย

เหตุอาคารโรงแรมพังถล่มเป็นบางส่วนในเมืองซูโจวของจีนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งค้นหาผู้สูญหาย 9 คนที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง

เจ้าหน้าที่กู้ภัยญี่ปุ่นเร่งค้นหาผู้สูญหายตามบ้านเรือนและรถยนต์ที่ถูกโคลนถล่มในเมืองอาตามิ จังหวัดชิซูโอกะเมื่อวันเสาร์ โดยคาดว่ามีผู้สูญหายกว่า 100 คน ไม่ใช่ 20 คนตามรายงานตอนแรก

เหตุอาคารพักอาศัย 12 ชั้นใกล้เมืองไมอามีในรัฐฟลอริดาของสหรัฐพังถล่มเป็นบางส่วนเมื่อวันพฤหัสบดีทำให้มียอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการเพิ่มขึ้นเป็น 9 ราย และยังคงมีผู้สูญหายอีกกว่า 150 คน ในขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งขุดค้นซากอาคารเป็นวันที่สี่ แต่ยังคงไม่พบสัญญาณของผู้รอดชีวิต

กาฐมาณฑุ 18 มิ.ย. – เหตุดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดจากฝนตกหนักทั่วประเทศเนปาลทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 รายในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงชาวอินเดีย 1 ราย และชาวจีน 2 รายในโครงการก่อสร้างแห่งหนึ่ง และยังมีผู้สูญหายอีก 25 คน เจ้าหน้าที่เขตสินธุปาลโชค ระบุในแถลงการณ์ว่า พบศพแรงงาน 3 รายที่เมืองเมลามจีในเขตสินธุปาลโชคทางตะวันออกเฉียงเหนือของเนปาล ซึ่งเผชิญกับน้ำท่วมฉับพลันเมื่อวันพุธ และทำให้ประชาชนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน แรงงานทั้งสามรายเป็นชาวอินเดียและจีนที่ทำงานให้บริษัทสัญชาติจีนที่กำลังเดินหน้าก่อสร้างโครงการน้ำดื่ม ขณะที่กระทรวงมหาดไทยของเนปาลระบุเมื่อวานนี้ว่า ยังมีผู้สูญหายอีก 25 คนในเหตุน้ำท่วมที่เขตสินธุปาลโชค ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีภูเขาล้อมรอบและมีพรมแดนติดกับเขตปกครองตนเองทิเบตของจีน เนปาลเผชิญกับฝนตกหนักมาตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา จนทำให้ถนนถูกตัดขาด สะพานชำรุด บ่อเลี้ยงปลาและโรงเลี้ยงปศุสัตว์ถูกน้ำท่วม และบ้านเรือนเสียหาย ชาวบ้านหลายร้อยคนต้องอพยพออกจากพื้นที่น้ำท่วมไปอยู่ในศูนย์พักพิงของชุมชน เช่น โรงเรียน โรงเก็บของ และเต็นท์ ขณะที่หน่วยงานช่วยเหลือเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้อาจซ้ำเติมปัญหาด้านสังคมและเศรษฐกิจของเนปาลที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อยู่ก่อนแล้ว ทั้งนี้ เนปาลจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราผู้ป่วยติดเชื้อในระดับสูงของโลก โดยมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 615,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 8,500 คน จากประชากรทั้งหมด 28.6 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย

จาการ์ตา 5 เม.ย. – น้ำท่วมและดินถล่มฉับพลันในอินโดนีเซียและติมอร์เลสเตทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 70 คน และยังคงมีผู้สูญหายอีกหลายสิบราย โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติของอินโดนีเซียกล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์เมโทรทีวีว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 55 คน แต่ตัวเลขดังกล่าวยังไม่คงที่ และอาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ทั้งยังมีผู้สูญหายอีก 42 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ของติมอร์เลสเต ซึ่งเป็นประเทศหมู่เกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างอินโดนีเซียกับออสเตรเลียเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน น้ำท่วมฉับพลันที่เกิดจากฝนตกหนักทำให้หลายพื้นที่บนเกาะฟลอเรสในอินโดนีเซียและติมอร์เลสเตได้รับความเสียหาย ในขณะที่ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกจากพื้นที่ไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว นอกจากนี้ อุทกภัยและดินถล่มที่เกิดตามมาทำให้น้ำไหลล้นเขื่อนเข้าท่วมบ้านเรือนหลายพันหลัง และส่งผลให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยประสบความยากลำบากในการค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ภายในบ้าน ทั้งนี้ น้ำท่วมและดินถล่มฉับพลันถือเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงฤดูฝนของอินโดนีเซีย. -สำนักข่าวไทย