กรุงเทพฯ 30 มี.ค. – ตลอดช่วงบ่าย นอกจากการระดมทีมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรหนักเข้ามาเพิ่ม เพื่อเร่งค้นหาร่างผู้สูญหายจากอาคาร สตง.ถล่มแล้ว ยังมีการนำเทคโนโลยีเครื่องสแกนสำรวจความลึกได้ 20 เมตร เข้ามาช่วยค้นหาด้วย
แม้ครบ 48 ชั่วโมงไปแล้ว สำหรับความพยายามในการค้นหาร่างผู้ที่ยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคาร สตง. ที่พังถล่มลงมา แต่ครอบครัว ญาติ และเพื่อนของทั้งแรงงานชาวไทย ชาวเมียนมา และกัมพูชา ยังคงมาเฝ้ารอกันอย่างไม่ลดละ หวังว่าจะได้พบแรงงานที่ยังมีชีวิตรอด
ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าค้นหากันอย่างต่อเนื่อง นอกจากนำรถเครนขนาด 200 ตัน 500 ตัน 600 ตัน รวมถึงเครื่องจักรหนักและรถแบ็กโฮ รวมมากกว่า 15 คัน เข้ามารื้อถอน เคลียร์ซากปูนคอนกรีตและเหล็กออกแล้ว ยังมีการนำโดรนและเทคโนโลยีเครื่องสแกนน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม เข้ามาช่วยค้นหาด้วย ลักษณะการทำงานจะมีผู้เชี่ยวชาญนำเครื่องสแกนดังกล่าวขึ้นเครนไปสแกนตามซากปรักหักพัง โดยมีประสิทธิภาพสามารถสำรวจภายใต้ความลึกได้ถึง 20 เมตร ได้อย่างแม่นยำ จากนั้นจะแจ้งส่งต่อข้อมูลไปยังผู้เชี่ยวชาญให้กำหนดตำแหน่งที่เชื่อว่าอาจจะมีผู้ติดค้างอยู่ภายใน ช่วยให้การทำงานเป็นไปได้อย่างรวดเร็วขึ้น
รศ.ทวิดา รองผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งลงพื้นที่ติดตามภารกิจค้นหา บอกว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่เจ้าหน้าที่พยายามอย่างยิ่งในการค้นหาผู้รอดชีวิต เร่งใช้เครื่องมือของนานาชาติ และผู้เชี่ยวชาญสแกนหาสัญญาณชีพ ซึ่งต้องทำอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะโครงสร้างบริเวณยอดซากอาคารที่ถล่ม เนื่องจากพบว่าตรงกลางมีลักษณะเป็นโพรง จึงใช้เครื่องจักรขนาดเล็ก หุ่นยนต์จากสถาบันการศึกษาและเทคโนโลยี เครื่องสแกนความลึก 20 เมตร เข้าไปช่วยสแกนโครงสร้างด้านในก่อน เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และผู้ที่ยังติดอยู่ภายใน.-สำนักข่าวไทย