ลิเบีย 16 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายจากสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในลิเบีย จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุตัวเลขผู้เสียชีวิตแน่นอนได้
เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหลายประเทศที่ถูกส่งเข้ามาช่วยเหลือทางการลิเบีย ยังคงเดินหน้าค้นหาผู้สูญหาย หลังเกิดน้ำท่วมฉับพลันอย่างรุนแรง เนื่องจากมีเขื่อนแตกถึง 2 แห่ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้มวลน้ำมหาศาลไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ทางภาคตะวันออกอย่างรุนแรง กวาดต้อนทุกอย่างไหลลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ที่ถูกน้ำพัดถอนรากถอนโคน อาคารบ้านเรือน รถยนต์ และชีวิตผู้คนจำนวนมากที่ถูกน้ำพัดลงสู่ทะเลไปด้วยเช่นกัน
ที่เมืองเดอร์นา ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ได้รับความเสียหายอย่างหนักเกือบทั้งเมือง ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ได้ ขณะที่รัฐบาลที่ปกครองพื้นที่ทางตะวันออกของลิเบีย ระบุว่าล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3,840 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองเดอร์นา และยังมีผู้สูญหายนับหมื่นคน คาดว่าน่าจะเสียชีวิตเป็นส่วนใหญ่
สภาพของเมืองเดอร์นาหลังถูกน้ำท่วมพังราบเป็นหน้ากลอง ตามสองข้างทางเวลานี้มีร่างผู้เสียชีวิตหลายร้อยรายวางเรียงรายเพื่อรอการฝังหรือรอญาติมาตามหา ขณะที่กาชาดสากลจัดส่งถุงบรรจุศพมาให้ลิเบีย เพราะคาดว่าจะพบร่างผู้เสียชีวิตตามมาอีกเป็นจำนวนมาก
ส่วนที่เห็นนี้เป็นภาพของทีมกู้ภัยจากสเปนที่กำลังพยายามช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ใต้กองซากปรักหักพัง ซึ่งการทำงานเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากมีเศษซากของสิ่งต่างๆ ทับถมกันเป็นกองสูง และมีรายงานว่าที่บ้านหลังหนึ่งที่ถูกน้ำท่วม เจ้าหน้าที่กู้ภัยสูบน้ำออกและต้องพบกับภาพสะเทือนใจ เมื่อพบศพของหญิงคนหนึ่งนอนกอดลูกน้อยไว้กับอก
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขื่อนแตกเกิดจากฝนตกลงมาอย่างหนัก และมีปริมาณฝนมากผิดปกติจากอิทธิพลของพายุแดเนียล ในขณะที่เขื่อนของลิเบียเองขาดการดูแลเรื่องความปลอดภัย เพราะบ้านเมืองอยู่ในสภาพวุ่นวาย หลังจากนายโมอัมมาร์ กัดดาฟี อดีตผู้นำลิเบีย ถูกโค่นอำนาจเมื่อปี 2554 ทำให้เกิดรัฐบาลสองขั้วที่เป็นปฏิปักษ์กัน ชาวบ้านกล่าวหาว่ารัฐบาลขาดมาตรการป้องกันภัยพิบัติ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย