ผู้ต้องขัง

เคียฟ 31 พ.ค.- ยูเครนที่มีกำลังพลลดลงเปิดรับสมัครผู้ต้องขังไปรบกับรัสเซีย และมีคนยื่นใบสมัครแล้วมากกว่า 4,000 คน รัฐบาลยูเครนทำข้อตกลงกับผู้ต้องขังว่า จะได้รับการยกเว้นโทษที่ยังเหลืออยู่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเหลือกี่เดือนหรือกี่ปี หากสมัครใจอยู่ในกองทัพจนกว่าสงครามจะสิ้นสุด อย่างไรก็ดี ผู้ต้องขังที่กระทำความผิดบางอย่างไม่สามารถสมัครไปรบได้ เช่น ฆ่าคนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ฆ่าคนจากการเมาแล้วขับ ก่ออาชญากรรมทางเพศ ก่อกบฏ รับสินบน กระทรวงยุติธรรมยูเครนแจ้งว่า มีผู้ต้องขังยื่นใบสมัครแล้ว 4,564 คน พวกเขาต้องผ่านการตรวจสุขภาพ และต้องได้รับอนุมัติจากศาล จนถึงขณะนี้มีผู้ผ่านเกณฑ์แล้วมากกว่า 1,700 คน ก่อนหน้านี้กระทรวงคาดหวังว่า จะมีผู้ต้องขังยื่นใบสมัครไปรบ 10,000-20,000 คน และจะอยู่ในกองทัพอย่างน้อย 2 เดือน ยูเครนมีประชากร 38 ล้านคน เทียบกับรัสเซียที่มี 144 ล้านคน และต้องหากำลังพลเพิ่มเติม เพื่อทดแทนกำลังพลที่ถูกสังหารและเหนื่อยล้าจากการทำสงครามกับรัสเซียมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 ยูเครนเพิ่งออกกฎหมายใหม่เรียกเกณฑ์ทหารเพิ่มเติม แต่คาดว่าต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าทหารใหม่จะพร้อมรบ ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังคงรับสมัครผู้ต้องขังไปรบในยูเครน หลังจากให้กลุ่มแวกเนอร์ที่เป็นทหารรับจ้างรับสมัครผู้ต้องขังจำนวนมากไปรบกับยูเครนในช่วงแรกของสงคราม แวกเนอร์ให้เงื่อนไขว่า จะได้รับการยกเว้นโทษทั้งหมด หากรอดชีวิตหลังจากไปรบในแนวหน้านาน 6 เดือน.-814.-สำนักข่าวไทย

กีโต 14 ม.ค.- สำนักงานเรือนจำของเอกวาดอร์แจ้งว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำที่ถูกผู้ต้องขังควบคุมตัวไว้ตามเรือนจำหลายแห่งในช่วงที่สถานการณ์ความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน ได้รับการช่วยเหลือครบหมดทุกคนแล้วภายในค่ำวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนหน้านี้สำนักงานเรือนจำแจ้งว่า มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 158 นาย และเจ้าหน้าที่ธุรการ 20 คน ในเรือนจำอย่างน้อย 7 แห่งถูกผู้ต้องขังควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม สำนักงานเรือนจำแถลงเมื่อวานนี้ว่า จะดำเนินการสอบสวนหาผู้อยู่เบื้องหลังการจับเจ้าหน้าที่เป็นตัวประกัน และว่าในวันเดียวกันเกิดเหตุยิงปะทะกับผู้ต้องขังที่เรือนจำแห่งหนึ่ง มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถูกสังหาร 1 นาย ด้านประธานาธิบดีแดเนียล โนโบอาโพสต์เอ็กซ์ (X) แสดงความยินดีกับสำนักงานเรือนจำ ตำรวจ และกองทัพที่ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ได้สำเร็จ เอกวาดอร์กำลังเผชิญกับวิกฤตด้านความมั่นคงที่เลวร้ายลงอีก เมื่อเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายบุกห้องส่งสถานีโทรทัศน์ขณะที่กำลังออกอากาศเมื่อวันที่ 9 มกราคม เกิดเหตุระเบิดป่วนเมืองในหลายเมือง และมีการลักพาตัวตำรวจ ทหารและตำรวจเอกวาดอร์ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการกวาดล้างอาชญากรทั่วประเทศ มีผู้ถูกจับกุมมากกว่า 1,000 คนนับตั้งแต่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันที่ 8 มกราคม.-814.-สำนักข่าวไทย

กีโต 1 ก.ย.- เกิดเหตุขว้างระเบิดและการวางระเบิดโดยใช้รถหรือคาร์บอมบ์ 2 จุดในกรุงกีโตของเอกวาดอร์ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนผู้ต้องขังในเรือนจำ 6 แห่งของเอกวาดอร์จับเจ้าหน้าที่ 57 นายเป็นตัวประกันเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น เป้าหมายของคาร์บอมบ์คือ เอสเอ็นเอไอ (SNAI) ที่เป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องเรือนจำ จุดแรกเกิดขึ้นหน้าสำนักงานใหญ่ จุดที่ 2 เกิดขึ้นหน้าอาคารที่เคยเป็นสำนักงานของหน่วยงานนี้ ตำรวจเผยว่า คาร์บอมบ์คันหนึ่งเป็นรถยนต์ 4 ประตู ภายในบรรทุกถังแก๊ส 2 ถังที่มีแก๊สอยู่ มีฟิวส์ชนิดขาดช้า และแท่งระเบิด ขณะที่นายกเทศมนตรีกรุงกีโตแจ้งว่า มีการขว้างระเบิด 3 ครั้งในช่วงกลางดึก ตำรวจเผยว่า จับกุมคนใกล้ที่เกิดเหตุจุดหนึ่งได้ 6 คน โดยเป็นชาวโคลอมเบีย 1 คน ทั้งหมดมีประวัติก่ออาชญากรรมทั้งขู่กรรโชก โจรกรรม และฆาตกรรม ในจำนวนนี้ 3 คนเพิ่งถูกจับกุมเมื่อ 15 วันก่อนในข้อหาขโมยรถบรรทุกและลักพาตัวเรียกค่าไถ่ และได้รับการปล่อยตัวโดยมีเงื่อนไข ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายก่อเหตุเพราะไม่พอใจที่ทางการย้ายผู้ต้องขังคนหนึ่งเมื่อวันพุธเพื่อป้องกันกลุ่มอริในเรือนจำปะทะกัน และในวันเดียวกันตำรวจและทหารจำนวนมากได้เข้าไปตรวจค้นอาวุธ เครื่องกระสุน และระเบิดในเรือนจำเมืองลาตาคุงกา ที่อยู่ทางใต้ของประเทศ จากนั้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา […]