ราชทัณฑ์แจงกรณีนักโทษเรือนจำสมุทรปราการเสียชีวิต

กรมราชทัณฑ์ 9 พ.ย. – กรมราชทัณฑ์ชี้แจงพร้อมแสดงความเสียใจกรณีนักโทษเรือนจำสมุทรปราการเสียชีวิต เผยผลชันสูตรพบเป็นโรคเส้นเลือดแดงเลี้ยงหัวใจแข็งและตีบ ขณะญาติได้เดินทางมาขอดูวงจรปิดแล้ว ไม่พบมีผู้ใดทำร้ายและไม่ได้ติดใจกับการเสียชีวิตแต่อย่างใด


กรมราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงกรณีญาติผู้ต้องขัง เรือนจำกลางสมุทรปราการนำโลงบรรจุศพผู้ต้องขังที่เสียชีวิตระหว่างต้องโทษ มาที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม เกี่ยวกับคดี และสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ต้องขังนั้น ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรปราการ แจ้งว่าผู้ต้องขังตามที่ปรากฎในข่าว คือนายนัฐวุฒิ คดีประมวลกฎหมายยาเสพติด ถูกควบคุมอยู่ที่เรือนจำกลางสมุทรปราการ โดยรับตัวไว้เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2566 จากการตรวจสภาพร่างกายเบื้องต้นทั่วไปปกติดี จึงควบคุมตัวไว้ที่แดน 4 เพื่อกักโรคตามมาตรการป้องกันโควิด-19

ต่อมาเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 17.00 น. นายนัฐวุฒิ ได้มีอาการหมดสติ ไม่รู้สึกตัว อยู่บริเวณห้องน้ำภายในสถานที่ควบคุมแดน 4 เจ้าหน้าที่เวรรักษาการณ์ และเจ้าหน้าที่เวรพยาบาลได้เคลื่อนย้ายและให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมกับประสานทีมแพทย์ฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้การช่วยเหลือ โดยเมื่อเวลา 17.43 น. ระหว่างการปฐมพยาบาลเบื้องต้นนั้น ไม่พบสัญญาญชีพของนายนัฐวุฒิ ทางเรือนจำกลางสมุทรปราการจึงได้แจ้งให้ญาติทราบว่านายนัฐวุฒิ ได้เสียชีวิตลงแล้ว ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตจากผลชันสูตรพลิกศพ โดยแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ระบุว่า เป็น“โรคเส้นเลือดแดงเลี้ยงหัวใจแข็งและตีบ” จากนั้นวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 ญาติได้เดินทางมาที่เรือนจำเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดและสอบถามเกี่ยวกับการเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางสมุทรปราการ ได้ให้ข้อมูลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้ตรวจสอบภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดในจุดต่าง ๆก่อนหน้าเกิดเหตุ พบว่าไม่มีผู้ใดทำร้ายนายนัฐวุฒิ โดยญาติมิได้ติดใจกับการเสียชีวิตแต่อย่างใด ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้แสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต และขอเน้นย้ำว่าเรือนจำ ทัณฑสถานทุกแห่งได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ต้องขังและสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ ทางเรือนจำกลางสมุทรปราการ ได้ให้การช่วยเหลือในการบำเพ็ญกุศลทางศาสนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ