เกาหลีเหนือ-รัสเซียประณามประธานสภาสหรัฐไปไต้หวัน

เปียงยาง 3 ส.ค.- เกาหลีเหนือและรัสเซียซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีนทั้งสองประเทศ ประณามนางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่ไปเยือนไต้หวัน สำนักข่าวกลางเกาหลีหรือเคซีเอ็นเอ (KCNA) เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือในวันนี้ว่า การเยือนของนางเปโลซีกำลังทำให้ประชาคมโลกเกิดความกังวลอย่างยิ่ง สถานการณ์ขณะนี้แสดงให้เห็นชัดเจนเรื่องสหรัฐแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นอย่างอวดดี แท้จริงแล้วการจงใจยั่วยุทางการเมืองและทางการทหารของสหรัฐคือรากเหง้าของปัญหาที่คุกคามสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคนี้ แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือยังได้แสดงความสนับสนุนจีนด้วยการย้ำว่า ประเด็นไต้หวันเป็นเรื่องภายในของจีน เกาหลีเหนือเคยประณามสหรัฐในเรื่องที่เกี่ยวกับไต้หวัน โดยได้กล่าวหาสหรัฐว่าทำให้ความตึงเครียดทางทหารเพิ่มขึ้น เมื่อครั้งที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐกล่าวในเดือนตุลาคม 2564 ว่า สหรัฐมุ่งมั่นที่จะปกป้องไต้หวันหากถูกจีนโจมตี ด้านกระทรวงต่างประเทศรัสเซียแถลงเมื่อวันอังคารว่า ประเด็นไต้หวันเป็นเรื่องภายในของจีนอย่างแท้จริง และเตือนสหรัฐว่า ไม่มีที่ให้แก่การครอบงำของอเมริกันอีกต่อไป รัสเซียมองว่า การเยือนของนางเปโลซีเป็นการยั่วยุอย่างชัดเจนตามนโยบายก้าวร้าวของสหรัฐเรื่องพยายามทุกวิถีทางเพื่อตีกรอบสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของจีน.-สำนักข่าวไทย

ประณามเมียนมาประหารชีวิตนักเคลื่อนไหว

ย่างกุ้ง 25 ก.ค.- หลายฝ่ายประณามรัฐบาลทหารเมียนมาที่เผยในวันนี้ว่า ได้ประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย 4 คนที่ถูกกล่าวหาว่า ช่วยเหลือการก่อการร้าย รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติของเมียนมาหรือเอ็นยูจี (NUG) ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาที่ถูกรัฐบาลทหารเมียนมาประกาศให้เป็นกลุ่มนอกกฎหมายประณามการประหารและเรียกร้องให้ประชาคมโลกลงโทษรัฐบาลทหารเมียนมาที่แสดงความโหดร้าย ขณะที่นายทอม แอนดรูว์ส ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชนในเมียนมาแถลงว่า ตกตะลึงและสิ้นหวังที่ทราบข่าวรัฐบาลทหารเมียนมาประหารชีวิตชาวเมียนมาที่รักชาติและเชิดชูสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้สูญเสียและชาวเมียนมาทุกคนที่ตกเป็นเหยื่อความโหดร้าย การกระทำที่ต่ำช้านี้จะต้องเป็นจุดเปลี่ยนให้แก่ประชาคมโลก โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาแถลงเมื่อเดือนก่อนว่า การลงโทษประหารชีวิตเป็นสิ่งที่ชอบธรรมและใช้ในหลายประเทศ พลเรือนผู้บริสุทธิอย่างน้อย 50 คน ยังไม่รวมเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ต้องเสียชีวิตเพราะคนเหล่านี้ และได้ตำหนิต่างชาติที่ออกแถลงการณ์แสดงความเห็นเกี่ยวกับการประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวทั้ง 4 คนว่า ไร้ความยั้งคิดและแทรกแซงเมียนมา หลังจากนายกรัฐมนตรีฮุน เซนของกัมพูชาในฐานะประเทศประธานสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนวาระปัจจุบัน ได้ส่งสารถึง พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำสูงสุดของเมียนมาเมื่อเดือนมิถุนายนขอให้ระงับการประหารชีวิต แหล่งข่าวเผยว่า นักเคลื่อนไหวชายทั้ง 4 คนถูกควบคุมตัวในเรือนจำอินเส่ง ใกล้กรุงย่างกุ้ง ครอบครัวเดินทางมาเยี่ยมเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว แต่มีญาติเพียงคนเดียวที่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยผ่านแพลตฟอร์มซูม สื่อทางการเมียนมารายงานในวันนี้ว่า มีการประหารชีวิต จากนั้นโฆษกรัฐบาลได้ยืนยันข่าวนี้กับวอยซ์ออฟเมียนมา แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่ามีการประหารเมื่อใด.-สำนักข่าวไทย

“เซเลนสกี” ประณามรัสเซียโจมตีเมืองวินนิตเซีย

ผู้นำยูเครน กล่าวประณามรัสเซียโจมตีเมืองวินนิตเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 23 ราย ลั่นจะนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ เพราะถือเป็นการโจมตีรุนแรงที่สุด

ประณามศาลตัดสินประหารชีวิตต่างชาติช่วยยูเครนรบ

เคียฟ 10 มิ.ย.- ยูเครนและชาติตะวันตกประณามศาลในแคว้นโดเนตสก์ของยูเครนที่ตัดสินประหารชีวิตชาวต่างชาติ 3 คน โทษฐานช่วยยูเครนรบกับรัสเซีย โฆษกกระทรวงต่างประเทศยูเครนประณามการตัดสินดังกล่าวว่า ไม่มีผลในทางกฎหมาย เพราะทำให้การโฆษณาชวนเชื่ออยู่เหนือกฎหมายและศีลธรรม ชาวต่างชาติทุกคนที่ร่วมรบกับกองกำลังยูเครนควรถือว่าเป็นบุคลากรทางทหารของยูเครนและได้รับความคุ้มครองในฐานะดังกล่าว ด้านนางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษประณามว่า เป็นการพิจารณาคดีจอมปลอมที่ไม่มีความชอบด้วยกฎหมาย ขณะที่โฆษกของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษระบุว่า อนุสัญญาเจนีวากำหนดไว้ว่าเชลยสงครามมีสิทธิคุ้มครองในฐานะนักรบ สำนักข่าวอาร์ไอเอโนวอสตีของรัสเซียรายงานว่า จำเลย 3 คน ซึ่งเป็นชาวอังกฤษ 2 คน และชาวโมร็อกโก 1 คน จะถูกยิงเป้า และมีเวลา 1 เดือนในการอุทธรณ์ หลังจากถูกศาลในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ที่แยกตัวจากยูเครนตัดสินว่า มีความผิดข้อหาพยายามโค่นอำนาจโดยใช้ความรุนแรง ซึ่งมีโทษประหารชีวิตในสาธารณรัฐนี้ นอกจากนี้ยังมีความผิดข้อหาเป็นทหารรับจ้างและข้อหาก่อการร้ายด้วย นับเป็นนักรบชาวต่างชาติชุดแรกที่ถูกกลุ่มแยกดินแดนในยูเครนตัดสินโทษ.-สำนักข่าวไทย

รมต.ต่างประเทศเยอรมนี เยือนยูเครน

รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีเดินทางเยือนยูเครน พร้อมประณามรัสเซียสังหารพลเรือนเป็นการก่ออาชญากรรม และเยอรมนีจะส่งและฝึกการใช้อาวุธให้แก่ยูเครน

ชาติตะวันตกประณามการโจมตียูเครนของรัสเซียว่าป่าเถื่อน

บรัสเซลส์ 25 มี.ค. – ผู้นำชาติตะวันตกประกาศสนับสนุนความช่วยเหลือด้านทหารและมนุษยธรรมให้แก่ยูเครน รวมถึงประณามการบุกโจมตียูเครนของรัสเซียว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน เนื่องจากยังมีพลเรือนหลายพันคนต้องหลบภัยอยู่ใต้ดินในเมืองมารีอูปอลที่ถูกรัสเซียปิดล้อมและทิ้งระเบิดถล่ม บรรดาผู้นำขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือจี 7 และทวีปยุโรป ได้จัดประชุมสุดยอดผู้นำร่วมกันเป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดี โดยระบุว่า สถานการณ์ขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนถือเป็นเหตุรุนแรงที่สุดของทวีปยุโรปนับตั้งแต่สงครามคาบสมุทรบอลข่านในช่วงทศวรรษหลังปี 1990 ขณะที่นาโตประกาศแผนส่งกองทหารชุดใหม่ไปยัง 4 ประเทศในภูมิภาคยุโรปตะวันออกที่มีพรมแดนใกล้ยูเครน ส่วนสหรัฐและอังกฤษประกาศเพิ่มความช่วยเหลือให้แก่ยูเครน รวมถึงการใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมเพื่อกดดันรัสเซีย เช่น การประกาศคว่ำบาตรผู้หญิงคนหนึ่งที่รัฐบาลอังกฤษระบุว่าเป็นบุตรบุญธรรมของนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย อย่างไรก็ตาม มาตรการที่ออกมาไม่มีเรื่องที่เป็นข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนที่ให้คว่ำบาตรการนำเข้าพลังงานของรัสเซียและกำหนดเขตห้ามบินเหนือประเทศยูเครน ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือ ชาติตะวันตกยังคงหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน และทั่วโลกยังคงจับตาการกระทำอันโหดร้ายของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ต่อชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ขณะที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ระบุว่า ประธานาธิบดีปูตินได้กระทำการล้ำเส้นจนเข้าขั้นป่าเถื่อนไปแล้ว ด้านรัฐบาลรัสเซียได้ออกมาตอบโต้การประชุมสุดยอดผู้นำของกลุ่มชาติตะวันตกว่า ชาติตะวันตกต้องโทษตัวเองที่ทำให้เกิดสงครามในยูเครนขึ้นจากการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ยูเครน ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เผยว่า มีผู้เสียชีวิตหลายพันรายนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตีเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และทำให้มีผู้อพยพออกนอกประเทศราว […]

สหรัฐประณามรัสเซียไม่ตัดเรื่องจะใช้อาวุธนิวเคลียร์

วอชิงตัน 23 มี.ค.- กระทรวงกลาโหมสหรัฐประณามโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียที่ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้เรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ในการทำสงครามกับยูเครน นายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐกล่าวว่า คำกล่าวของนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียเป็นเรื่องอันตราย จากการให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็น (CNN) ว่า รัสเซียอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ หากเผชิญกับภัยคุกคามที่มีอยู่จริง ปัจจุบันรัสเซียมีหัวรบนิวเคลียร์มากที่สุดในโลก นายเคอร์บีระบุว่า มหาอำนาจนิวเคลียร์ที่มีความรับผิดชอบไม่ควรทำเช่นนั้น อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมสหรัฐยังไม่เห็นความเคลื่อนไหวใด ๆ ที่ทำให้ต้องเปลี่ยนแปลงจุดยืนทางยุทธศาสตร์ในขณะนี้ และกำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์อยู่ทุกวัน ด้านนายลีออน พาเน็ตตา อดีตรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐวิจารณ์เช่นกันว่า เป็นเรื่องเป็นอันตรายที่รัสเซียกำลังมองหาข้ออ้างเพื่อใช้อาวุธนิวเคลียร์ที่มีอำนาจการทำลายต่ำ การตั้งสมมติฐานอย่างผิด ๆ ว่ารัสเซียกำลังถูกคุกคาม สร้างความกังวลว่า อย่างน้อยรัสเซียก็กำลังคิดเรื่องใช้อาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ดี เขาเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้น เพราะประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียจะต้องคิดดีให้ว่าสหรัฐจะตอบโต้อย่างไร และเขาจะรอดพ้นไปได้อย่างไร ผู้นำรัสเซียสั่งกองกำลังนิวเคลียร์เตรียมพร้อมเป็นพิเศษเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ หลังจากสั่งใช้ “ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ” กับยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่เจ้าหน้าที่ตะวันตกกล่าวหลังจากนั้นว่า ยังไม่มีเห็นสัญญาณพิเศษใด ๆ ว่า รัสเซียกำลังระดมฝูงบินทิ้งระเบิด ขีปนาวุธ และเรือดำน้ำเพื่อทำการรบ.-สำนักข่าวไทย

จีนจะจัดส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมให้ยูเครน

นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าววันนี้ว่า สำนักงานกาชาดของจีนจะจัดส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมให้แก่ยูเครนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในขณะเดียวกัน เขาก็กล่าวแสดงความชื่นชมมิตรภาพระหว่างจีนกับรัสเซียว่ามีความ “มั่นคงดั่งหินผา”

สิงคโปร์ประกาศคว่ำบาตรรัสเซียเรื่องยูเครน

สิงคโปร์ประกาศมาตรการคว่ำบาตรธนาคารรัสเซียบางแห่ง และห้ามการส่งออกอุปกรณ์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ทางการทหาร นับเป็นการเคลื่อนไหวของสิงคโปร์ที่แทบไม่เคยคว่ำบาตรประเทศใดมาก่อน

UNSC จะประชุมฉุกเฉินจันทร์นี้เรื่องวิกฤติมนุษยธรรมยูเครน

นิวยอร์ก 5 มี.ค.- นักการทูตเผยว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) จะจัดการประชุมฉุกเฉินในวันจันทร์นี้เรื่องวิกฤติด้านมนุษยธรรมในยูเครนที่เกิดจากการที่รัสเซียรุกรานยูเครน นักการทูตที่ขอสงวนนามเผยว่า หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมฉุกเฉินแล้ว สมาชิกทั้ง 15 ชาติจะประชุมเป็นการภายในเรื่องที่เม็กซิโกและฝรั่งเศสเสนอให้ร่างญัตติเรียกร้องให้ยุติความเป็นปรปักษ์ในยูเครนเพื่อเปิดทางให้แก่การส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและปกป้องชีวิตพลเรือน แต่อาจเผชิญอุปสรรคเนื่องจากสหรัฐเตือนว่า จะไม่สนับสนุนญัตติดังกล่าว หากไม่มีการระบุชัดเจนว่ารัสเซียเป็นผู้ที่ทำให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรม นักการทูตเผยต่อไปว่า เดิมฝรั่งเศสต้องการให้มีการลงมติญัตติตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมาแต่ไม่เป็นผล จึงได้เปลี่ยนแนวทาง และญัตติใด ๆ ก็ตามที่ประณามรัสเซียจะต้องเป็นอันตกไปเพราะจะถูกรัสเซียในช้สิทธิยับยั้งหรือวีโต้ในฐานะสมาชิกถาวร.-สำนักข่าวไทย

ไทยร่วมหนุนมติ UN เรียกร้องรัสเซียหยุดโจมตียูเครน

สหประชาชาติ 3 มี.ค.- ไทยเป็นหนึ่งใน 141 ชาติสมาชิกสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นจีเอ (UNGA) ที่ลงมติสนับสนุนญัตติเรียกร้องให้รัสเซียยุติการใช้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนโดยทันที เว็บไซต์เดอะดิโพลแมตรายงานว่า ญัตติดังกล่าวประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการที่รัสเซียรุกรานยูเครน อันเป็นการละเมิดมาตรา 2 ย่อหน้า 4 ในกฎบัตรยูเอ็น และตัดสินว่ารัสเซียควรถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากดินแดนของยูเครนที่อยู่ภายในพรมแดนที่ได้รับการรับรองจากสากลโดยทันที ครบถ้วน และไร้เงื่อนไข เดอะดิโพลแมตสำรวจการออกเสียงตามภูมิภาคพบว่า เอเชียแปซิฟิกมีประเทศงดออกเสียง 10 ประเทศ โดยมีจีน สปป.ลาว และเวียดนามรวมอยู่ด้วย มีประเทศที่ทั้งร่วมเสนอญัตติและออกเสียงสนับสนุน 14 ประเทศ โดยมีกัมพูชา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้รวมอยู่ด้วย ขณะที่เอเชียกลาง 5 ประเทศที่ใกล้ชิดกับรัสเซีย งดออกเสียงหรือไม่เข้าร่วมการออกเสียงเลย ส่วนไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ออกเสียงสนับสนุน ด้านเว็บไซต์ข่าวยูเอ็นรายงานว่า ญัตติดังกล่าวเรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากดินแดนของยูเครนที่อยู่ภายในพรมแดนที่ได้รับการรับรองจากสากลโดยทันที ครบถ้วน และไร้เงื่อนไข สมาชิกกว่า 90 ประเทศเป็นผู้ร่วมเสนอญัตติ และต้องได้เสียงข้างมาก 2 ใน 3 จึงจะผ่านความเห็นชอบ ผลการลงมติเมื่อวันพุธตามเวลานิวยอร์ก มี 141 ประเทศออกเสียงสนับสนุน 5 ประเทศออกเสียงคัดค้าน […]

1 2 3 4 5 14
...