
นายกฯ ประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง
นายกฯ กล่าวถึงผลการเข้าร่วมประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง ครั้งที่ 2 ที่กรุงปักกิ่ง เน้นย้ำส่งเสริมความเชื่อมโยงทุกมิติ
นายกฯ กล่าวถึงผลการเข้าร่วมประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง ครั้งที่ 2 ที่กรุงปักกิ่ง เน้นย้ำส่งเสริมความเชื่อมโยงทุกมิติ
ยืนยัน รัฐบาลระวังการใช้เงิน ไม่ให้เป็นภาระรัฐบาลในอนาคต
ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (24 เม.ย.) ถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จะปรับขึ้นค่าโดยสารรถโดยสารสาธารณะทั้งระบบ วันที่ 22 เมษายน นี้ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนหลังการเลือกตั้ง ว่า การขึ้นค่าโดยสารเป็นไปมติของที่ประชุมคณะกรรมการขนส่งทางบก ไม่ใช่รัฐบาลต้องการขึ้น แล้วทำให้ประชาชนเดือดร้อนหลังการเลือกตั้ง “เมื่อคณะกรรมการมีมติ และส่งเรื่องมายังรัฐบาล รัฐบาลก็ต้องดำเนินการ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องไปพิจารณาผลกระทบที่จะตามมา และแก้ปัญหาให้ได้มากที่สุด ทั้งปรับปรุงการให้บริการ และเพิ่มรถโดยสาร จึงต้องการให้ประชาชนเข้าใจการดำเนินงานของ ขสมก. ที่ต้องแบกรับต้นทุนค่าใช้จ่าย และมีหนี้สินเป็นจำนวนมาก รวมถึง ผลกระทบที่เกิดกับรถร่วมบริการด้วย เพราะไม่ได้ขึ้นค่าโดยสารมานานแล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว ..- สำนักข่าวไทย
เผย ยังมั่นใจสถานการณ์การเมืองวันนี้ ยังเดินตามโรดแมปที่วางไว้ ตั้งรัฐบาลได้แน่
ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (24 เม.ย.) ถึงกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดกลับคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ให้บังคับคดีให้บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ชนะคดี ตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ให้ภาครัฐจ่ายเงินรวม 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี พร้อมคืนหนังสือค้ำประกันมูลค่า 500 ล้านบาท ว่า เป็นผลพวงจากการทำงานของรัฐบาลในอดีต ที่เกิดขึ้นนานมากแล้ว รัฐบาลนี้จะต้องเข้ามาแก้ไขปัญหา ซึ่งไม่เพียงแต่เรื่องนี้ ยังมีอีกหลายเรื่อง เช่น คลอดงด่าน “กรณีโฮปเวลล์ต้องรอความชัดเจนในรายละเอียดคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดก่อน จากนั้น เป็นหน้าที่ของหน่วยยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงคมนาคมและการรถฟไฟแห่งประเทศไทย จะต้องเร่งพิจารณาว่าจะมีผลอย่างไร และหาทางออกอย่างไร” นายกรัฐมนตรี กล่าว ..- สำนักข่าวไทย
ทำเนียบฯ 23 เม.ย.- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ กรณีที่มีกระแสข่าวกระทรวงการคลังจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาโครงการยิ่งเที่ยว ยิ่งเท่ ช่วยเปย์ เมืองรองเป็นการแจกเงินให้ประชาชนตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป คนละ 1,500 บาท นำไปใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อีเพย์เมนท์ในเมืองรอง 55 จังหวัด โดยใช้งบประมาณกลางจำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ให้รอผลการประชุมคณะรัฐมนตรี วันพรุ่งนี้(24 เม.ย.) ขณะที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจปฏิเสธที่จะตอบคำถามในเรื่องดังกล่าว ..- สำนักข่าวไทย
อินเดียเริ่มการเลือกตั้งระยะที่สามแล้วในวันนี้ ซึ่งเป็นระยะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดจากทั้งหมดเจ็ดระยะ ครอบคลุมรัฐคุชราตที่เป็นรัฐบ้านเกิดของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี
ก่อนร่วมขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษกับสมเด็จฮุน เซน ไปยังสถานีปอยเปต ย้ำเป็นการแสดงออกถึงความจริงใจและความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทย ในการสนับสนุนและผลักดันความเชื่อมโยงที่ไร้รอยต่อให้ยั่งยืน
นายกฯ ไทย ระบุ สะพานนี้เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ และเป็นรูปธรรมมากที่สุดของทั้ง 2 ประเท ขณะที่ นายกฯ กัมพูชา เห็นว่าเป็นสะพานเชื่อมใจของชาวบันเตียเมียนเจยและสระแก้ว ที่สมควรบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์
ขอประชาชนทำความดีถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีสติ งดดื่มสุรา กำชับพนักงานขับรถ หากทำให้เกิดอุบัติเหตุ จะต้องติดคุก ไม่ไกล่เกลี่ย
แนะสิ่งที่ดีให้คนรุ่นหลัง อะไรที่ทำให้บ้านเมืองไม่สงบ ต้องเตือนลูกหลาน ยืนยัน พร้อมดูแลสวัสดิการผู้สูงอายุเต็มที่
กรุงเทพฯ 7 เม.ย.-ซุปเปอร์โพล เผยผลสำรวจประชาชนร้อยละ 88.8ระบุการเมืองทำลายความสุขคนไทย หากพลังประชารัฐเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลอยากเห็น “อนุทิน”เป็นนายกฯ นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง ความสุขของประชาชน กรณีศึกษาประชาชนคนวัยทำงานทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 2,875 ตัวอย่าง ระหว่าง วันที่ 25 มีนาคม – 6 เมษายน พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา พบประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ เมื่อถามถึงความสุขของประชาชนวันนี้ พบว่า ประชาชนจำนวนมากที่สุดร้อยละ 46.9 ระบุ สขกับทุกข์กลาง ๆแค่ประคองชีวิต ในขณะที่ ร้อยละ 27.5 ระบุสุขน้อยถึงไม่มีความสุขเลย ขณะที่คนส่วนน้อยของสังคมหรือร้อยละ 25.6 ระบุสุขมากถึงมากที่สุด ที่น่าพิจารณาคือส่วนใหญ่หรือร้อยละ 88.8 ระบุการเมืองวันนี้ทำลายความสุขของประชาชน ในขณะที่ร้อยละ 11.2 ระบุไม่ทำลาย เมื่อถามถึง ความเชื่อมั่นต่อคุณสมบัติด้านต่าง ๆ ของผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.8 […]