ขอเด็กยึดมั่น 3 สถาบันหลักคือประเทศไทย

จ.เชียงราย 24 ก.ย.-นายกฯ ขอเยาวชนรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เปรียบ 3 สถาบันหลักเป็นผืนน้ำ ดิน อากาศรวมแล้วคือประเทศไทย สืบสานสิ่งที่บรรพชนรักษาไว้ให้ ลั่นไม่เคยคิดนั่งนายกฯ เพื่อประโยชน์ตัวเอง


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรววกลาโหม เป็นประธานเปิดการสัมมนาผู้บริหารโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 111 โรงเรียนทั่วราชอาณาจักร ครั้งที่ 39 “ไทยรัฐวิทยากับชีวิตวิถีใหม่” โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวทักทายครูและเด็กนักเรียนที่มาต้อนรับ และเดินชมนิทรรศการผลงาน พร้อมกล่าวว่า ทุกอย่างเริ่มต้นจากพวกเรา การจะทำอะไรก็ตามหรือการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เราต้องส่งต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน เพราะคืออนาคตของชาติ และขอให้ตั้งใจเรียนหนังสือ

นายกรัฐมนตรี สอบถามเด็กนักเรียนชนเผ่าม้งที่เรียนที่โรงเรียนไทยรัฐวิทยาว่าเป็นคนไทยหรือไม่ รักประเทศไทยไหม ซึ่งนักเรียนตอบว่า เป็นคนไทย นายกรัฐมนตรีจึงบอกว่าเป็นคนไทยต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะทั้งหมดคือผืนดิน ผืนน้ำและอากาศ ถ้าไม่มีทั้ง 3 อย่างก็ไม่มีประเทศไทย


“ฝากผู้บริหารไทยรัฐให้ช่วยดูแลนักเรียนที่เป็นกำลังของชาติ ให้รู้รักประเทศและสถาบัน เพราะการปลูกฝังตั้งแต่เด็กจะทำให้มีความรักประเทศชาติ คนเหล่านี้คือกำลังที่จะขับเคลื่อนประเทศในวันข้างหน้า” นายกรัฐมนตรี กล่าว

จากนั้น นายกรัฐมนตรีมอบโล่รางวัลชนะเลิศ Best Practice กับ 13 โรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนสื่อมวลชนศึกษา และกล่าวปาฐกถาพิเศษว่า ต้องเข้าใจว่าการศึกษาของไทยไม่ได้เลวร้าย มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ต้องปรับรูปแบบให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ยุคหลัง new normal จึงต้องสร้างพลเมืองของเราให้เข้มแข็ง มีภูมิต้านทานที่จะเข้าสู่ยุคเหล่านั้นให้ได้ ต้องปรับตัว มีหลักคิด วิสัยทัศน์ มีภูมิคุ้มกันที่ถูกต้อง ที่จะดำเนนินชีวิตต่อไป วันนี้การศึกษาจำเป็นต้องปฎิรูปคือต้องเรียนรู้นอกจากวิชาการ โรงเรียนต้องไม่ให้เรื่องวิชาการอย่างเดียว ต้องสอนให้รู้ มีสาระ นำไปใช้ประโยชน์ได้ เป็นสิ่งที่เราต้องพัฒนาไปด้วยกัน

“ทั้งหมดต้องมีพื้นฐานมาจากประวัติศาสตร์ ศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม สิ่งเหล่านี้ต้องอยู่กับคนไทย ในใจทุกคน การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไม่ใช่ของเก่า เรียนรู้ให้รู้ว่าที่ผ่านมาประเทศชาติผ่านพ้นเรื่องเหล่านั้นได้อย่างไรและด้วยใคร มีวัตถุประสงค์อะไรที่จะต้องเสียสละเลือดเนื้อ เสียสละชีวิตมามากมาย โดยบรรพชนของเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องรู้สึก เรามีหน้าที่สืบสาน รักษาต่อยอดสิ่งเหล่านี้ต่อไปด้วยความอดทน อดกลั้น เสียสละ รักษาผืนแผ่นดินนี้ไว้ให้กับคนรุ่นหลัง คือสิ่งที่รัฐบาลคิดมาตลอด” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลปฏิรูปการศึกษา แต่สำคัญที่สุดอยู่ที่ผู้บริหารทางการศึกษา ครู ทุกคนจะทำอย่างไรให้เด็กไปสู่อนาคตที่ดีกว่าเดิม โดยต้องประเมิน วัดผลใหม่ทั้งหมด การศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างชาติ คือรวมไทยสร้างชาติ ที่ไม่ใช่รัฐบาลอย่างเดียว แต่รวมถึงภาคเอกชนและประชาชนมาช่วยกันขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ปราศจากความขัดแย้ง และต้องหาวิธีการที่เหมาะสมดำเนินการให้ปลดล็อกอุปสรรคต่าง ๆ ให้เดินหน้าไปได้ การทำสิ่งดีถือเป็นบุญกุศลทั้งสิ้น และเป็นความภาคภูมิใจที่รู้ว่าทำอะไรเพื่อใคร ผมคิดอย่างนี้มาตลอด ไม่เคยคิดเป็นอื่น ไม่เคยคิดนอกกรอบที่จะมานั่งเพื่อประโยชน์ตัวเอง และทุกคนที่เป็นรัฐบาล ผมจะไม่ปล่อยให้ทำเช่นนั้น

“แม้ว่าประเทศไทยจะมีคนหลายเผ่าพันธุ์ หลายเชื้อชาติ แต่วันนี้ถือเป็นคนไทยทั้งหมดแล้ว เพราะอยู่ในแผ่นดินไทย โอกาสทุกคนมีเท่าเทียมกัน อยู่ที่ว่าจะใช้ประโยชน์เหล่านี้ทำอะไรเพื่อตัวเองและประเทศชาติ ถ้าประเทศเข้มแข็ง ระบบต่าง ๆแข็งแรง มีเสถียรภาพ โอกาสที่ทุกคนจะเข้าถึงในสิ่งที่รัฐบาลทำก็มีหมด นี่คือความแตกต่างของไทยกับประเทศอื่นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเช่นกัน เราไม่เคยสูญเสียมากมายเช่นในสงครามโลก และเราต้องไม่นำประเทศไปสู่จุดนั้น อยากฝากทุกคนไว้ว่าต้องหาสิ่งที่เหมาะสมกับบริบทบ้านเรา ถ้ารื้อทั้งหมดเท่ากับทำลายสิ่งที่เราสร้างกันไว้ แล้วจะไปข้างหน้าได้อย่างไร ดังนั้น ต้องสร้างความเชื่อมั่นของคนภายในประเทศและต่างประเทศให้เห็นศักยภาพของเรา” นายกรัฐมนตรี กล่าวและว่า “มาจ.เชียงรายวันนี้มีความสุข ลงเครื่องบินมาสบายใจ เจออากาศเย็น ฝนตกพรำ ๆ ไม่มีโอกาสมาพักผ่อนแบบนี้เป็น 10 ปีแล้ว เพราะหลายปีนี้มีแต่ความวุ่นวาย”

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องโควิด-19 จะประมาทไม่ได้ ต้องป้องกันการระบาดจากต่างประเทศ รัฐบาลพยายามเต็มที่จนได้รับความเชื่อมั่นเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก สิ่งที่เราทำได้ดีถือเป็นศักยภาพของเราทั้งสิ้น จะเปลี่ยนตัวเองมากนักไม่ได้ เป็นคนดีคนเก่ง เคารพกฎหมาย เคารพสถาบัน และทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน แค่นี้ก็จบแล้ว จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ บางทีการศึกษา ไปเรียนรู้ในที่ชุมนุม ร้านค้า เวทีต่าง ๆ ของประชาชน คุยกันให้มันสร้างสรรค์ ไม่ใช่คุยกันแล้วต้องขัดแย้ง เพราะจะทำให้เสียโอกาส เสียเวลา

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ทุกคนสัญญาได้หรือไม่ว่าจะทำให้ประเทศชาติสงบปลอดภัย ซึ่งผู้เข้าร่วมสัมนาได้ปรบมือให้นายกรัฐมนตรีเป็นการสัญญา นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณที่ทำให้มีกำลังใจทำงานต่อไป ยืนยันว่าไม่ได้มีจิตปรารถนาเป็นอย่งอื่น ถ้าทำ ต้องทำให้ดีที่สุด ด้วยความรักประชาชน รักประเทศชาติ หลักการของรัฐบาลคือรวมไทยสร้างชาติ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทักทายผู้เข้าร่วมสัมนาและร่วมชมการแสดงวงสะล้อ ซอซึงที่เล่นเพลงหมู่เฮาชาวเหนือ ซึ่งนายกรัฐมนตรีร่วมเล่นเครื่องดนตรี ตีกลองฉิ่งหรือแทมโบรีนไม้กับนักเรียนอย่างอารมณ์ดี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระเบิดรถครู ตชด.

ทราบกลุ่มคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก

ทราบคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก จ.นราธิวาส แล้ว วันก่อเหตุมีแนวร่วมปฏิบัติการประมาณ 6 คน กลุ่มเป้าหมายคือเจ้าหน้าที่รัฐ

หมายจับผู้มีพระคุณ

ออกหมายจับผู้มีพระคุณจ้าง “เอ็ม กองเรือ” สังหารอดีต สส.กัมพูชา

ตำรวจเร่งล่า “สมหวัง” ผู้มีพระคุณของ “เอ็ม กองเรือ” หลังศาลออกหมายจับใช้จ้างวานสังหาร “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา

เศร้า ฝังศพ “พ่อ-ลูก” ครู ตชด. เหยื่อวางระเบิด

ประชาชน-ตำรวจตระเวนชายแดน นับพันคน ร่วมพิธีฝังศพ 2 พ่อลูก ครู ตชด. เหยื่อผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิดในพื้นที่ จ.นราธิวาส

ข่าวแนะนำ

เหงาและเศร้า ขาดครูใหญ่สุวิทย์ และครูโดม

บรรยากาศโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านตืองอ จ.นราธิวาส วันที่ไม่มีครูใหญ่สุวิทย์ และครูโดม ดูเงียบเหงา เต็มไปด้วยความโศกเศร้า

นายกฯ ลงพื้นที่ยะลา พบนักเรียน-ผู้นำศาสนา ปลื้มต้อนรับอบอุ่น

นายกฯ ขึ้น ฮ. ลงยะลา ทักทายเป็นภาษามลายู พบนักเรียน-ผู้นำศาสนา ท่ามกลางฝนตกโปรยปราย ปลื้มต้อนรับอบอุ่น บอกมีตรงไหนเดือดร้อน รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ลั่นอยู่ศาสนาใด-เชื้อชาติใด คนไทยด้วยกัน ขอรักสามัคคีกัน

“ปอ ตนุภัทร” บอกอยากให้ทำเหมือนเหตุการณ์จริง “แตงโม” ตกเรือ

“ปอ ตนุภัทร” ขอบคุณจำลองเหตุการณ์ “แตงโม” ตกเรือ แต่ทำทั้งทีอยากให้ทำเหมือนเหตุการณ์จริง ด้าน “แซน” เชื่อมีเจตนาดิสเครดิตตน ซัดไม่ได้จบทนาย อาจไม่รู้ข้อกฎหมาย แนะให้เรียนเนติก่อน

นายกฯไปนราธิวาส

นายกฯ นำคณะถึงนราธิวาส สวมเสื้อสูท “ลายนรารวมใจ”

“นายกฯ อิ๊งค์” ถึงนราธิวาสสวมเสื้อสูท “ลายนรารวมใจ” สีชมพูบานเย็น หวานฉ่ำ ถ่ายทอดความเป็นหนึ่งเดียวของผู้คนชาวนราธิวาส ที่มีความรัก สามัคคี ประสานความสัมพันธ์บนวิถีชีวิต และวัฒนธรรมอันงดงามของจังหวัดนราธิวาส