นายกฯ เอาจริงจัดการรถควันดำ หวังลดฝุ่น

นายกฯ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุให้ตำรวจเร่งออกข้อกำหนดสั่งห้ามใช้รถควันดำ เตรียมขึ้น watch list เพิ่มความเข้มตรวจสภาพก่อนต่อทะเบียน แนะประชาชนช่าวยส่งข้อมูลผ่านสายด่วน 1584

รัฐบาลสั่งทุกภาคส่วนเร่งแก้ปัญหา pm2.5

ทำเนียบรัฐบาล 17 ธ.ค.-นายกฯสั่งทุกส่วนเร่งแก้ปัญหา pm2.5 ขออย่าเผาวัชพืช เตรียมขอความร่วมมือเพื่อนบ้านช่วยดูแล พร้อมขอช่วยกันประหยัดน้ำ รับมือภัยแล้ง  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เกี่ยวกับมาตรการแก้ปัญหาฝุ่น pm2.5 ขณะนี้ว่า ได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนเร่งรัดดำเนินการเต็มที่ เพราะขณะนี้เข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูกแล้ว เกษตรกรอาจจะเผาพืชไร่ สิ่งที่รัฐบาลต้องขับเคลื่อนคือต้องนำซากที่เหลือทางการเกษตรมาแปรรูปเพิ่มมูลค่า หรือสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลช่วยกำจัดของเสีย ขอความร่วมมืออย่าจุดไฟเผาเศษวัสดุเตรียมการเพาะปลูก รัฐบาลจะตรวจจุดฮอตสปอร์ท รวมทั้งขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ช่วยกันตรวจตราเรื่องการเผาวัชพืชด้วย ส่วนมาตรการรณรงค์ใช้รถสาธารณะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ดีขึ้นหลายเส้นทางระบบขนส่งมวลชนสาธารณะหลายรูปแบบเปิดให้บริการแล้ว ทำให้ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวได้มากพอสมควร แต่ยังมีใช้อยู่บ้าง โดยเฉพาะการเดินทางลักษณะครอบครัวที่ต้องรับส่งบุตรหลาน ซึ่งต้องหาวิธีให้คนเหล่านี้เปลี่ยนมาใช้รถสาธารณะบ้าง ขณะเดียวกันขอความร่วมมือในส่วนของรถราชการที่ไม่ติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยแล้งที่หลายพื้นที่ขาดแคลนน้ำสำหรับทำนาปรังว่า ปกติในช่วงหน้าแล้งจะมีพื้นที่ 30 เปอร์เซนต์ในเขตชลประทานที่สามารถทำการเกษตรได้ ส่วนพื้นที่อื่นต้องปรับเปลี่ยนไปประกอบอาชีพอื่น สิ่งสำคัญคือรัฐบาลต้องเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค จึงขอความร่วมมือช่วยกันประหยัดน้ำ โดยเฉพาะน้ำที่ใช้ในภาคการเกษตร ขณะเดียวกันสั่งให้ขุดบ่อบาดาลเพิ่มเติมเป็นแหล่งน้ำสำรองเพื่อใช้อุปโภคบริโภคยามขาดแคลน เพราะน้ำที่มีอยู่คงไม่สามารถนำไปใช้ในภาคการเกษตรได้ทุกพื้นที่.-สำนักข่าวไทย   

ให้ศึกษากฎหมายเฉพาะที่ต่างชาติใช้แก้ปัญหาฝุ่น

ทำเนียบรัฐบาล 29 ม.ค.-นายกฯยอมรับปัญหาฝุ่นละอองต้องใช้เวลา มอบพล.อ.ประวิตรเป็นเจ้าภาพ บูรณาการหน่วยงานต่าง ๆ ช่วยกัน ให้ศึกษากฎหมายเฉพาะที่ต่างชาติใช้ ปรับให้เข้าสังคมไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง  โดยยอมรับว่ายังแก้ไขไม่ได้ในระยะเวลาอันสั้นนี้ เพราะต้องดำเนินการหลายเรื่องทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว แต่เบื้องต้นจะดูแลให้เบาบางลง โดยมอบหมายให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรับผิดชอบขับเคลื่อนงานในภาพรวมเพราะเป็นประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ต้องบูรณาการหน่วยงานต่าง ๆ เข้าด้วยกัน “เบื้องต้นแก้ไขโดยการฉีดน้ำจากตึกสูง 130 ลิตรต่อนาที ช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่อยากให้ทุกคนช่วยกันเสียสละ และดูที่ต้นเหตุของปัญหา ไม่ว่าจะภาครัฐ เอกชนและโรงงานอุตสาหกรรม ขณะนี้มีกฎหมายดูแลอยู่หลายฉบับทั้งที่เกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมและการเกษตร ต้องบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวด แต่ต้องดูด้วยว่าถ้าบังคับมากไปจะส่งผลอื่นหรือไม่ หลายประเทศใช้กฎหมายเฉพาะ แต่ต้องดูด้วยว่าถ้านำมาใช้กับประเทศไทย จะทำได้จริงหรือไม่ ให้ไปศึกษาและปรับให้เข้ากับสังคมไทย” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย    

นายกฯยังไม่ปิดโรงเรียนหนีฝุ่น

จ.ลำปาง 15 ม.ค.-นายกฯ ชี้ยังไม่จำเป็นต้องปิดโรงเรียนเพื่อเลี่ยงปัญหาฝุ่นละออง หวั่นกระทบการเรียน ให้กระทรวงศึกษาประเมินสถานการณ์เป็นระยะ  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน ว่า ได้สั่งการให้รองนายกรัฐมนตรีประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาวิธีการแก้ไขปัญหาให้เหมาะสมและยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ปัญหาฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดเฉพาะในประเทศไทยประเทศเดียว แต่ในต่างประเทศก็เกิดขึ้น ซึ่งแต่ละประเทศพยายามแก้ไขปัญหาอยู่ “ปัญหาของไทยส่วนใหญ่มาจากการเผาไหม้ของรถที่ใช้น้ำมันดีเซล  จึงสั่งการให้กรุงเทพมหานคร(กทม.) และกระทรวงคมนาคมหามาตรการแก้ไขปัญหาและเข้มงวดกวดขันกับรถที่มีควันดำหรือรถที่ใช้น้ำมันดีเซล จะต้องเปลี่ยนมาใช้น้ำมัน B20 การแก้ปัญหาดังกล่าวขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของคนด้วย จึงไม่อยากให้นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นโจมตีให้เกิดความเสียหายกับรัฐบาล และขอความร่วมมือกับนักวิชาการด้านสาธารณสุขไม่ควรแสดงความคิดเห็นทำให้ประชาชนตื่นตระหนก” นายกรัฐมนตรี กล่าว ส่วนข้อเสนอที่ให้ปิดโรงเรียน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต จึงยังไม่ปิดโรงเรียน หากปิดแล้วจะกระทบต่อการเรียนการสอน ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการจะประเมินสถานการณ์เป็นระยะ  “การแก้ปัญหาต้องหาวิธีการที่เหมาะสม เกิดผลกระทบน้อยที่สุดกับด้านเศรษฐกิจ แต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบด้านสาธารณสุขของคนทั่วไปด้วย จึงมอบหมายให้ไปตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยควัน ถ้าทำผิด ปล่อยควันก็จะถูกสั่งปิด” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย 

...