ปาบึกขึ้นฝั่งนครศรีฯ ทำเสาไฟโค่น-ไฟดับ น้ำท่วมสูง คลื่นลมแรง
หลังพายุ “ปาบึก” ขึ้นฝั่งที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช แล้ว ส่งผลให้คลื่นลมในพื้นที่ทวีความรุนแรงต่อเนื่อง กระแสลมแรงพัดเสาไฟฟ้าหักโค่น ไฟฟ้าดับทั้งเมือง
หลังพายุ “ปาบึก” ขึ้นฝั่งที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช แล้ว ส่งผลให้คลื่นลมในพื้นที่ทวีความรุนแรงต่อเนื่อง กระแสลมแรงพัดเสาไฟฟ้าหักโค่น ไฟฟ้าดับทั้งเมือง
พายุโซนร้อน “ปาบึก” ขึ้นฝั่งประเทศไทยแล้ว บริเวณระหว่าง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 12.45 น.ที่ผ่านมา
ผลกระทบพายุปลาบึกในพื้นที่ชายฝั่งในอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ขณะนี้มีกระแสลมกระโชกแรง เร่งอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ชายฝั่ง
บริเวณชายหาดปลายทอน ในตำบลทุ่งปรังอำเภอสิชล 1 ใน 4 ตำบลติดริมชายฝั่ง ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบรุนแรงจากพายุปลาบึก ขณะนี้คลื่นลมบริเวณชายหาดปลายทอนมีความสูงราว 4-5 เมตร ทางอำเภออพยพประชาชนไปยังศูนย์อพยพต่างๆ แล้ว
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า สถานการณ์พายุโซนร้อนปาบึกเช้าวันนี้เคลื่อนเข้าฝั่งเรื่อยๆ ด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ห่างจากจังหวัดนครศรีธรรมราชประมาณ 150 กิโลเมตร
คลื่นลมและฝนที่มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ชาวบ้านที่อาศัยบริเวณริมชายฝั่งทะเล ต้องเร่งอพยพต่อเนื่องในเข้านี้ เช่นที่ อบต.ขนาบนาก เช้านี้ต้องเปิดศูนย์เด็กเล็กให้เป็นสถานที่อพยพชั่วคราว พร้อมเร่งจัดหาอาหารและอุปกรณ์ยังชีพให้ผู้ประสบภัย
กรมอุตุฯ เตือนพายุปาบึกจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณ จ.นครศรีธรรมราช ช่วงค่ำวันนี้ (4 ม.ค.) ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ช่วงวันที่ 4-5 ม.ค.นี้
ที่แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมามีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง คลื่นลมยังทวีความรุนแรง สูงกว่า 2-3 เมตร
พายุโซนร้อน “ปาบึก” ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าไทย สร้างความกังวลให้หลายฝ่าย เพราะคาดว่าความรุนแรงเทียบเท่าพายุโซนร้อน “แฮเรียต” เมื่อปี 2505
สถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช หลังผู้ว่าฯ สั่งอพยพประชาชนพื้นที่ชายฝั่งทั้ง 6 อำเภอ พร้อมสั่งปิดโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยง เพื่อความปลอดภัย
ผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช สั่งอพยพชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงริมชายฝั่ง 6 อำเภอ จ.นครศรีธรรมราช ภายในวันนี้ ขณะที่หลายพื้นที่คลื่นลมยังทวีกำลังแรงต่อเนื่อง
กรมชลประทาน พร้อมรับสถานการณ์พายุ “ปาบึก” ที่คาดการณ์ว่าจะขึ้นฝั่งที่ จ.นครศรีธรรมราช ในช่วงค่ำวันพรุ่งนี้ (4 ม.ค.)