“สว.ยุคล” หารือปม ทหารไทยเหยียบกับระเบิด ถามรัฐบาลกลัวอะไร

รัฐสภา 22 ก.ค.-“สว.ยุคล” หารือปม ทหารไทยเหยียบกับระเบิด ถามหาความรับผิดชอบจากรัฐบาล กลัวอะไร หากห่วงประเทศจริง ทำไมไม่ยกเลิก MOU 43, 44 ขณะ “สว.กรพด” เตือนประชาชนข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติเพิ่มความระมัดระวัง การประชุมวุฒิสภา ที่มีพลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม ในช่วงการหารือของสมาชิก วุฒิสภา นายยุคล ชนะวัดปัญญา สมาชิกวุฒิสภา ถึงเขตแดนไทยกัมพูชาที่มีผลกระทบต่อคนไทยทั้งชาติ โดยเปิดภาพแผนที่แผ่นดินไทยที่กัมพูชาอ้างว่าเป็น พื้นที่ทับซ้อนกัน เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมามีทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องตัดขาซ้าย 1 นายและอีก 2 นายได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิด บริเวณเนิน 481 ใกล้ช่องบก อำเภอน้ำยืนจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนติดกับกัมพูชา นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์พื้นที่ภูมะเขืออำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ใกล้กับปราสาทเขาพระวิหาร กัมพูชาได้สร้างกระเช้าลอยฟ้าอย่างถาวร เชื่อมเชิงเขาไปยังยอดเขา และยังสร้างป้อมทหารแบบถาวรด้วย นี่คือความเปลี่ยนแปลง ของสภาพพื้นที่ที่ละเมิด MOU […]

ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดฯ แจงข้อเท็จจริง กรณีกัมพูชาบิดเบือนข้อมูล

กทม. 22 ก.ค.-ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอรายงานความคืบหน้าด้านการประชาสัมพันธ์ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีกำลังพลของกองทัพไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เมื่อวันที่ 16 กรกฎษคม พ.ศ.2568 และมีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารจากฝ่ายกัมพูชา ดังนี้ 1.ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นสำคัญว่า ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่พบบริเวณพื้นที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ในเขตอธิปไตยไทยนั้น เป็นชนิดที่มิได้มีใช้ ในกองทัพไทย และพิสูจน์ทราบแล้วว่าเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ถูกวางขึ้นใหม่ 2.มุ่งเน้นการขยายผลด้านการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางของสื่อที่หน่วยรับผิดชอบ ได้แก่ เพจเฟซบุ๊ก เว็บไซต์ ซึ่งสำนักข่าวต่างๆ ได้มีการนำเสนอและขยายผลอย่างต่อเนื่อง 3.ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ได้ดำเนินการส่งแถลงการณ์ฯ ให้กับหน่วยงาน/องค์กรต่างๆ ซึ่งเป็นภาคีเครือข่ายด้านการปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม เพื่อรับทราบข้อมูลและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง จำนวน 10 หน่วยงาน ได้แก่ เอกอัครราชทูตนอร์เวย์ ประจำประเทศไทย, เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิส ประจำประเทศไทย, เอกอัครราชทูตอาร์เซอร์ไบจาน ประจำประเทศไทย, โครงการวิจัยและพัฒนาการเก็บกู้ ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา (The Humanitarian Demining Research and Development: HD R&D), กองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกาภาคพื้นแปซิฟิก (U.S. […]

พบอีก 2 ทุ่นระเบิดสภาพใหม่ ในพื้นที่ช่องบก

กองทัพบก 21 ก.ค.-ทบ. เผยพบทุ่นระเบิดสภาพใหม่เพิ่มเติม จำนวน 2 ทุ่น ในพื้นที่ช่องบก ใกล้กับจุดเกิดเหตุเดิม ชี้ชัดขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ด้านกรมข่าวทหารบก เตรียมเชิญผู้ช่วยทูตทหารมารับทราบข้อเท็จจริง พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี จนได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 16 ก.ค.68 ล่าสุดวานนี้ (20 ก.ค.68) กองกำลังสุรนารี และหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยผลจากการตรวจพื้นที่พบการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN2 ในสภาพใหม่พร้อมทำงาน จำนวน 2 ทุ่น ห่างจากหลุมระเบิดเดิม 30 เซนติเมตร โดยปัจจุบันเจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) ได้ทำการรื้อถอนทุ่นระเบิดที่ตรวจพบใหม่ออกแล้วทั้ง 2 ทุ่น การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน และแสดงถึงเจตนาในการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารไทย ทั้งเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล […]

พล.อ.ณัฐพล วอนประชาชนเข้าใจการทำงาน

ทำเนียบ 21 ก.ค.-พล.อ.ณัฐพล เผย ศบ.ทก.เตรียมสรุปฟ้อง “กัมพูชา” วางทุ่นระเบิดใหม่ ต่อคณะกรรมการออตตาวา พร้อมแจ้งประเทศสมาชิกตัดงบฯ เก็บกู้ทุ่นระเบิด วอนประชาชนเข้าใจการทำงาน พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. เปิดเผยก่อนเป็นประธานการประชุม ศบ.ทก. ชุดใหญ่ ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่ามีความเข้าใจการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน แต่อยากให้เข้าใจการทำหน้าที่ของภาครัฐต้องทำงานตามขั้นตอน จะพูดสิ่งใดไปก่อนตามความคิดและความเชื่อ แต่มีเหตุผลที่เป็นความจริงในภายหลังแล้วทุกคนจะไม่เชื่อคำพูดของตนเอง ดังนั้นขอให้เห็นใจการทำหน้าที่ของภาครัฐ ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้น ได้มีการติดตามโซเซียลมาโดยตลอด และถูกสื่อมวลชน นักวิชาการ กล่าวหาว่าทำงานล่าช้า ไม่ทันใจเท่าสมเด็จฮุนเซน และนายฮุนมาเน็ต ซึ่งทั้งสองโพสต์โซเชียล และสามารถลบโพสต์ได้ แต่ไทยทำไม่ได้ เพราะหากทำเช่นนั้นก็จะศีลเสมอกัน ดังนั้น ตนเองพยายามจะสร้างมาตรฐานระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่ ว่าการจะพูดสิ่งใดต้องให้ถูกต้องมากที่สุด ส่วนความคืบหน้าเหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณช่องบก ยืนยันว่าได้ติดตามสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังสุรนารี ได้เข้าสำรวจพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อตอบคำถามสังคมให้ได้ว่าระเบิดเป็นชนิดใหม่ แม้หลายคนจะทราบว่าเป็นพื้นที่ที่ดำเนินการกวาดล้างทุ่นระเบิดไปแล้ว ฝ่ายไทยจะต้องตรวจสอบว่าจะพบเจอในจุดอื่นอีกหรือไม่ จุดที่วาง ประเทศไทยมีใช้ระเบิดชนิดนี้หรือไม่หรือมีใช้เฉพาะกัมพูชา จึงจำเป็นต้องตรวจสอบอย่างละเอียด […]

ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดฯ ประณามการลักลอบวางทุ่นระเบิดช่องบก

กทม. 21 ก.ค.-ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ออกแถลงการณ์ประณามการลักลอบวางทุ่นระเบิดบริเวณช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย ส่งผลทหารไทยบาดเจ็บ 3 นาย พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม และให้ฝ่ายกัมพูชาหยุดขัดขวาง การปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดของฝ่ายไทยตามแนวชายแดน ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอแสดงความห่วงกังวลอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2568 โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีการลักลอบเข้ามาดำเนินการวางทุ่นระเบิด สังหารบุคคลในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย เหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้กำลังพลของกองทัพไทยได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย โดยในจำนวนนี้ 1 นาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นสูญเสียอวัยวะและกลายเป็นผู้พิการถาวร จากการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด พบว่าทุ่นระเบิดที่ใช้ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิดใหม่ซึ่งเพิ่งถูกวางขึ้น โดยจัดวางในลักษณะสนามทุ่นระเบิด และกระจายตัวหลายจุดตามแนวชายแดนในเขตพื้นที่อธิปไตยไทย โดยทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิดดังกล่าวมิได้อยู่ในระบบยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทยอย่างชัดเจน และมีลักษณะมุ่งหมายเพื่อก่ออันตรายต่อกำลังพล รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ และยังส่งผลกระทบ ต่อความปลอดภัยของประชาชนในบริเวณใกล้เคียงอย่างมีนัยสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอประณามการกระทำดังกล่าวอย่างรุนแรง และขอแสดงการคัดค้านอย่างเด็ดขาดต่อการกระทำใด ๆ ที่อาจถือเป็นการละเมิดพันธกรณีและบรรทัดฐานของอนุสัญญา ว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิตและโอน และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Mine Ban Treaty หรือ […]

โต้เขมรบิดเบือน กล่าวหาไทยฝังทุ่นระเบิด

20 ก.ค. – โฆษก ทบ. โต้กัมพูชาบิดเบือนความจริง กล่าวหาทหารไทยเป็นผู้ฝังทุ่นระเบิดช่องบก ยืนยันทุ่นระเบิดที่พบไม่ใช่ของไทย ส่งทหารช่างเก็บหลักฐานในพื้นที่ เตรียมส่งฟ้องยูเอ็น .-สำนักข่าวไทย

ทบ.ยันทุ่นระเบิดไม่ใช่ของไทย ชี้กัมพูชาบิดเบือนข้อเท็จจริง

20 ก.ค.- โฆษก ทบ. ชี้แจงกรณีฝ่ายกัมพูชากล่าวหาว่าทหารไทยเป็นผู้ฝังทุ่นระเบิด ยืนยันทุ่นระเบิดที่พบไม่ใช่ของไทย ข้อมูลจากฝ่ายกัมพูชาเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง วันนี้ (20 ก.ค. 68) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสาธารณชน จากกรณีที่นาย แฮง รัตนา ผู้อำนวยการสำนักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (CMAA) ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวหาว่าทหารไทยเป็นผู้ฝังกับระเบิดใหม่บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมอ้างว่ามีภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่บ่งชี้พฤติกรรมดังกล่าว โดยมีข้อเท็จจริง ดังนี้ 1. ทุ่นระเบิดที่ตรวจพบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณช่องบกและพื้นที่อื่น ๆ เป็นระเบิดชนิด PMN-2 ซึ่งเป็นระเบิดสังหารบุคคล ผลิตจากประเทศรัสเซีย โดยกองทัพบกไทยไม่มีระเบิดชนิดนี้อยู่ในครอบครอง ไม่เคยมีอยู่ในสารบบ การจัดหาเข้ามาใช้ในหน่วยทหารของกองทัพไทย และไม่เคยมีการนำมาใช้ในการปฏิบัติงานในทุกพื้นที่แนวชายแดนแต่อย่างใด 2. ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยสื่อ Fresh News ของกัมพูชา ซึ่งถูกนำเสนอว่าเป็นหลักฐานการวางระเบิดของทหารไทยนั้น ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นภาพจากภารกิจของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม (T-MAC) ในช่วงการฝึกเก็บกู้ หรือช่วงเวลาพักของกำลังพล ไม่ใช่การวางกับระเบิดแต่อย่างใด การนำเสนอข้อมูลในลักษณะดังกล่าวถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และสร้างความเสียหายต่อประเทศไทยอย่างร้ายแรง 3. การที่นายแฮง รัตนา กล่าวว่าทุ่นระเบิดอยู่ในเขตไทย […]

โฆษกเพื่อไทย ย้ำ กต.เตรียมรายงาน UN ปมทุ่นระเบิดช่องบกเป็นของใหม่

กรุงเทพฯ 20 ก.ค. – โฆษกเพื่อไทย ย้ำกระทรวงการต่างประเทศ เตรียมรายงาน UN ปมทุ่นระเบิดช่องบกเป็นของใหม่ ยันแก้ปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบทุ่นระเบิด ที่เนิน 481 ช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่าพรรคเพื่อไทยขอแสดงความห่วงใยต่อเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ และขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ทุกท่าน สำหรับการตรวจสอบข้อเท็จจริง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เปิดเผยผลการตรวจสอบแล้วว่าทุ่นระเบิดที่พบเป็นระเบิดใหม่ ถูกวางอยู่เลยแนวกำลังของกัมพูชามาข้างหน้าประมาณ 100-150 เมตร หลังจากนี้กองกำลังสุรนารี จะเร่งดำเนินการเก็บกู้ทั้งหมด ซึ่งชุดเก็บกู้ต้องใช้ความระมัดระวัง และปรับสภาพให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ขณะนี้รัฐบาล โดยกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพ กำลังพิจารณาดำเนินการยื่นเรื่องไปยัง UN ในกรณีการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งเป็นขั้นตอนที่จะดำเนินการต่อไป ยืนยันว่าคู่กรณีเป็นคนวาง อย่างไรก็ตาม ทางพรรคยังคงยืนยันแนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งครั้งนี้ด้วยแนวทางสันติวิธี เพื่อสร้างสันติภาพอันยั่งยืน.-316-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาปฏิเสธเรื่องทุ่นเรื่องระเบิด

19 ก.ค. – กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาสื่อไทย ที่รายงานว่ากัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่บริเวณชายแดน ทำให้มีทหารไทยบาดเจ็บ ยืนยันปฏิบัติตามพันธกรณีอย่างเคร่งครัด หน่วยงานช่วยเหลือเหยื่อ และปฏิบัติการทุ่นระเบิดของกัมพูชา หรือ CMAA ออกข่าวประชาสัมพันธ์ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ระบุว่า กัมพูชาเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากทุ่นระเบิด และระเบิดที่หลงเหลือตกค้างจากสงคราม ดังนั้น กัมพูชาจึงขอประณามและคัดค้านอย่างรุนแรง ต่อการใช้ การผลิต และการมีทุ่นระเบิดไว้ในครอบครอง และขอแสดงความเสียใจต่อเหตุโศกนาฏกรรมทั้งหมด ที่เกิดจากทุ่นระเบิดและเศษระเบิดจากสงคราม โดยไม่คำนึงว่าจะเกิดขึ้นที่ไหน และกับบุคคลสัญชาติใด แถลงการณ์ระบุว่า กัมพูชา เป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวา และได้ปฏิบัติตามพันธกรณีอย่างเคร่งครัด ทั้งตามตัวอักษร และเจตนารมณ์ของอนุสัญญาดังกล่าว และกัมพูชายังได้รับการยอมรับ และการยกย่องอย่างสูง จากรัฐภาคีอื่นๆ ในอนุสัญญานี้จากความมุ่งมั่น และความสำเร็จในการกำจัด และทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทั้งหมดที่พบ สำหรับเหตุการณ์ทหารไทย ที่ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดเมื่อเร็วๆ นี้ CMAA ยืนยันความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ และคาดหวังว่าข้อสรุป หรือข้อกล่าวหาใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ จะต้องอยู่บนพื้นฐานของการสืบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วน มีหลักฐานเพียงพอ และถูกต้องตามข้อเท็จจริง โดยหลีกเลี่ยงการคาดเดา หรือการกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง กัมพูชาขอปฏิเสธข้อกล่าวหาของสื่อมวลชนไทย บางสำนักอย่างเด็ดขาด และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องงดเว้นการสรุป […]

มทภ.2 ยืนยันทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

ทภ.2 ยันมุ่งมั่นดูแลพื้นที่ชายแดน รอผลวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด”

17 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันมุ่งมั่นดูแลความปลอดภัยพื้นที่ชายแดน ขอให้รอผลวิเคราะห์รายละเอียด “ทุ่นระเบิด” อย่างเป็นทางการ คาดใช้เวลา 2-3 วัน เพื่อความถูกต้องและป้องกันการสับสน เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจงกรณี ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์กำลังพลประสบเหตุจากการเหยียบกับระเบิด ในพื้นที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีข้อสันนิษฐานว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ นั้น กองทัพภาคที่ 2 ขอชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา กำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ได้ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก และประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย หน่วยจึงได้ดำเนินการถอนกำลังออกจากพื้นที่เกิดเหตุทันที เพื่อเร่งนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งรักษาที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ โดยในขณะนั้นยังไม่ได้ทำการพิสูจน์ทราบพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตรายเพิ่มเติม ต่อมาในช่วงบ่ายของวันที่ 17 ก.ค.68 พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด เข้าดำเนินการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมเก็บรวบรวมหลักฐาน เพื่อส่งให้หน่วยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดทำการวิเคราะห์ว่า ทุ่นระเบิดดังกล่าวเป็นชนิดใด และมีแหล่งที่มาอย่างไร […]

1 2 3 4 5
...