ไทยโต้กัมพูชา เรียกร้องหยุดละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-หยุดใช้ทุ่นระเบิด

กทม. 14 ส.ค.-ไทยโต้กัมพูชา เรียกร้องหยุดละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และหยุดใช้ทุ่นระเบิด พร้อมย้ำปฏิบัติต่อเชลยศึกตามหลักสากล จากกรณีมื่อวันที่ 14 สิงหาคม เว็บไซต์ Fresh News รายงานว่า พลโท มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้ออกมาแถลง เรียกร้องให้ไทยเคารพข้อตกลง 13 ข้อ และปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 คน ที่ถูกไทยควบคุมตัวอยู่นั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ฝ่ายไทยขอเรียกร้องกลับไปยังกัมพูชาให้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดด้วย โดยเฉพาะหยุดการใช้อาวุธทุ่นระเบิดสังหารบุคคลต่อฝ่ายไทย และหยุดการเผยแพร่ข่าวสารที่บิดเบือน รวมถึงหยุดการเพิ่มเติมกำลังทหารบริเวณแนวชายแดน ซึ่งขณะนี้ผ่านไปแล้ว 15 วันเช่นกัน ส่วนกรณีเรื่องการควบคุมเชลยศึก ฝ่ายกัมพูชาอาจไม่เข้าใจหลักปฏิบัติในระบบสากล ยืนยันว่าการปฏิบัติของฝ่ายไทยเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นไปตามหลักกฎหมายและหลักมนุษยธรรมสากล อีกทั้งก่อนหน้านี้คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ได้เข้าเยี่ยมเชลยศึกทหารกัมพูชา 18 นาย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีความน่ากังวลใด ๆ จึงขอเรียกร้องให้กัมพูชาเคารพข้อตกลงหยุดยิง และปฏิบัติตามแนวทางทั้ง 13 ข้อให้ครบถ้วน รวมทั้งยึดมั่นในหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา […]

คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนลงพื้นที่กัมพูชา

พนมเปญ 14 ส.ค. – คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนในฝั่งกัมพูชาเป็นเวลา 3 วัน ขณะที่รัฐบาลกัมพูชายังคงเดินหน้ากล่าวหาว่าไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง วันนี้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวของอาเซียน ซึ่งประกอบด้วยทูตทหารของ 7 ชาติอาเซียนนำโดยมาเลเซียได้เดินทางลงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในฝั่งกัมพูชาเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 16 สิงหาคมเพื่อติดตามสถานการณ์หลังมีข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม และความตกลงจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา พื้นที่ที่คณะผู้สังเกตการณ์ลงไปสำรวจได้แก่จังหวัดพระตะบอง จังหวัดบันเตียเมียนเจย และจังหวัดพระวิหาร และในวันเดียวกันนี้นายเพ็ญ โบนา หัวหน้าทีมโฆษกรัฐบาลกัมพูชาแถลงว่าเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดจะไม่เกิดขึ้นถ้าฝ่ายไทยเคารพข้อตกลงหยุดยิงอย่างครบถ้วนด้วยการคงกำลังทหารเอาไว้เท่าเดิมและยุติการเคลื่อนไหวของกำลังพลทั้งหมด รวมทั้งหยุดการลาดตระเวน นอกจากนี้ยังกล่าวหาว่าไทยใช้เหตุการณ์เรื่องทุ่นระเบิดมาหลอกลวงประชาคมโลกเพื่อปกปิดเรื่องการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง หลังจากเมื่อวานนี้นายเพ็ญ โบนา บอกว่ากัมพูชากำลังดำเนินการเก็บกู้และทำลายทุ่นระเบิดซึ่งเป็นของเก่าตกค้างตั้งแต่สมัยสงครามในอดีต และไม่มีการฝังทุ่นระเบิดใหม่เพิ่มเติม.-816.-สำนักข่าวไทย

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]

เปิดภาพแฉทหารเขมรวางทุ่นระเบิดฝั่งไทย คาดเป็นระเบิด PMN-2

14 ส.ค. – เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมข้อความ “ถ้าคิดว่ามันใช่ อย่าปล่อยผ่าน ช่วยแชร์ ช่วยโพสต์ให้โลกรู้” โดยในคลิปปรากฏภาพทหารกัมพูชาสวมกางเกงลายพราง เสื้อยืดคอกลมสีเขียว รองเท้าแตะ กำลังวางทุ่นระเบิดและเอาดินกลบ ในพื้นที่ที่ทหารไทยลาดตระเวน คาดว่าเป็นระเบิด PMN-2 โดยมีเพื่อนทหารกัมพูชาถ่ายคลิปไว้ ซึ่งคลิปนี้ลงวันที่ 21 ก.ค. 68 .-สำนักข่าวไทย

กต. จ่อเชิญทูต 50 ประเทศผู้บริจาคกรอบออตตาวาพิสูจน์ข้อเท็จจริงทุ่นระเบิด

กทม. 13 ส.ค.- ผู้ช่วย รมต.กต. เผยเตรียมเชิญทูต 50 ประเทศผู้บริจาคในกรอบอนุสัญญาออตตาวา ชี้แจง 15 ส.ค.นี้ ก่อนพาลงพื้นที่ 16 ส.ค. พิสูจน์ข้อเท็จจริง ชี้เหตุทุ่นระเบิดเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า สะท้อนกัมพูชาไม่จริงใจแก้ปัญหา ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ลั่น กต.จะดำเนินการทูตอย่างถึงที่สุด นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่พลกองร้อยทหารพรานรวม 7 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องจุบตะโมก ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประท้วงไปยังฝั่งกัมพูชา และเร่งดำเนินการประท้วงตามช่องทางทางการทูตที่เกี่ยวข้องแล้ว และในวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคมนี้ กระทรวงการต่างประเทศ จะเชิญผู้แทนทางการทูตจากกว่า 50 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วยประเทศผู้บริจาคในกรอบอนุสัญญาออตตาวา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มารับฟังการบรรยายสรุปในเรื่องดังกล่าว จากนั้นในวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะนำคณะผู้แทนทางการทูตดังกล่าว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้รับทราบข้อเท็จจริงจากผู้ปฏิบัติในพื้นที่โดยตรง ซึ่งที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ […]

“จิรายุ” เรียกร้องรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา เร่งสอบกัมพูชาละเมิดข้อตกลง

ทำเนียบ 13 ส.ค.-รัฐบาล ระบุ “เพ็ญโบนา” โทรโข่งเขมรหลังออกแถลงการณ์ปฏิเสธแถว่ากับระเบิดไม่ใช่ของกัมพูชา ด้าน “จิรายุ” ย้อนถามเมื่อบอกว่าไม่ใช่ แล้วทำไมจึงไม่ยอมรับข้อตกลงหยุดยิง 7 ส.ค. เรื่องข้อตกลงเก็บกวาดทุ่นระเบิด พร้อมเรียกร้องให้รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา เร่งสอบเส้นทางการเงินผู้ซื้อและผู้ขาย รู้แน่เขมรมีกี่หมื่นลูก นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) กล่าวถึงกรณีนายเพ็ญ โบนา โฆษกรัฐบาลกัมพูชา แถลงในวันนี้ (13 สิงหาคม 2568) ตอบโต้กรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยยังปฏิเสธหน้าตายว่า กัมพูชาไม่เคยมีและวางทุ่นระเบิดใหม่ และปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวาอย่างเคร่งครัด นั้น นายจิรายุ กล่าวว่า การที่รัฐบาลกัมพูชาออกมาโต้แย้งในประเด็นนี้ ก็ยิ่งทำให้เห็นถึงความไม่จริงใจและเป็นการโกหกรายวัน เพราะหากเป็นอย่างที่โฆษกรัฐบาลกัมพูชาพูดนั้น เหตุใดกัมพูชาจึงไม่รับข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่7สิงหาคม 2568 ประเทศมาเลเซีย ที่ไทยยื่นข้อเสนอสำคัญ 2 ข้อ คือ1.เรื่องการจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ค้ามนุษย์ และข้อที่2.ให้มีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพราะข้อที่ 2 นี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าขัดแย้งกับสิ่งที่รัฐบาลกัมพูชาพูดในวันนี้ อย่างสิ้นเชิงเพราะถ้าตนเองไม่ได้เป็นผู้วางกับระเบิด เหตุใดจึงไม่รับข้อตกลงนี้ นายจิรายุ กล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยังรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ขอให้เปิดประชุมเร่งด่วนเพื่อพิจารณากรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลงสนธิสัญญาดังกล่าวในเรื่องของกับระเบิดบุคคล เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียใดๆอีก […]

รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจปมทุ่นระเบิด ร้องประชาคมโลกกดดันกัมพูชา

13 ส.ค.- รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจกรณีกัมพูชาใช้กับระเบิดต่อทหารไทยอย่างไร้มนุษยธรรม พร้อมร้องประชาคมโลกกดดันกัมพูชาให้ถึงที่สุด นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลขอแสดงความเสียใจและห่วงใยอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่พี่น้องทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของฝ่ายกัมพูชา ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในเขตแดนไทย เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นการละเมิดอธิปไตยไทยอย่างชัดเจน ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา และเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม นายจิรายุ กล่าวว่า พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบ.ทก. ยืนยันว่า รัฐบาลจะดูแลและเยียวยากำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บทุกนายอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้รับการรักษาและสวัสดิการอย่างสมเกียรติและเหมาะสม พร้อมย้ำว่าฝ่ายความมั่นคงไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์นี้ และจะดำเนินมาตรการทุกวิถีทางเพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของแผ่นดินไทย นอกจากนี้ รัฐบาลขอเรียกร้องต่อประชาคมโลกให้ร่วมกันกดดันรัฐบาลกัมพูชา เพื่อเร่งรัดความร่วมมือในการเก็บกู้กับระเบิดโดยทันที และขอให้รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาทบทวนการให้ความช่วยเหลือที่ไม่ก่อให้เกิดผลรูปธรรม พร้อมพิจารณามาตรการอื่นที่จำเป็นเพื่อยุติการสูญเสียครั้งใหม่จากการกระทำที่ไร้ความปรานี -สำนักข่าวไทย

แม่แทบช็อก ไม่ได้คุยลูกชายวันเดียว รู้ข่าวเหยียบทุ่นระเบิด

13 ส.ค. – แม่แทบช็อก เผยไม่ได้คุยกับลูกชายวันเดียว รู้ข่าวเหยียบทุ่นระเบิดบาดเจ็บสาหัสที่ข้อเท้าซ้าย ขณะลาดตระเวนบริเวณปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ เหตุการณ์ทหาร 7 นาย ลาดตระเวนบริเวณปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ แล้วเหยียบทุ่นระเบิดของกัมพูชา ที่ลอบวางไว้ จนทำให้ สิบเอก ธีรพล เพียขันที ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 บาดเจ็บสาหัสที่ข้อเท้าซ้าย รักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ได้ไปตรวจสอบตามแนววางลวดหนามบริเวณปราสาทตาเมือนธม ซึ่งจุดที่ทหารลาดตระเวนอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำ ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้ากัมพูชาจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่า ช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่ากัมพูชาสลักลอบมาวางกับระเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิงเพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอน หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล ซึ่ง พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ขอข้อมูลเร่งด่วนเพื่อทำการประท้วงฝ่ายกัมพูชาต่อไป และจะนำเรื่องนี้ พูดในที่ประชุม RBC ไทย-กัมพูชาครั้งต่อไปด้วย […]

กต.ประณามกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชี้ละเมิดอธิปไตย

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – กระทรวงการต่างประเทศ ประณามกัมพูชา ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชี้เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ เมื่อเวลา 16.32 น. กระทรวงการต่างประเทศ โพสต์เฟซบุ๊ก แถลงการณ์เรื่องการประท้วงต่อเหตุการณ์ครั้งที่ 3 ในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ของทางฝ่ายกัมพูชา โดยมีเนื้อหาระบุว่า ไทยประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ไทยเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดการกระทำที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาโดยทันที และให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เพื่อมนุษยธรรมตามแนวชายแดน ตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกัน ภายในกรอบทวิภาคี และตามที่ฝ่ายไทยได้เสนอต่อที่ประชุม GBC ที่ผ่านมา แต่ฝ่ายกัมพูชาไม่ตอบสนอง.-สำนักข่าวไทย

“สุรเดช” แนะใช้เทคโนโลยีจากออสเตรเลียช่วยเก็บทุ่นระเบิดแนวชายแดน

กทม. 9 ส.ค.-“สุรเดช” แสดงความเสียใจ 3 นายทหารเหยียบทุ่นระเบิดซ้ำอีก ร้องรัฐบาลอย่าเอาชีวิตทหารแขวนบนเส้นด้าย แนะนำเทคโนโลยีทันสมัยจากออสเตรเลียมาช่วยเก็บทุ่นระเบิดแนวชายแดน ยุฟ้องต่างประเทศให้เห็นความไม่จริงใจของเขมร จี้อย่ายอมเจรจาหากไม่ร่วมมือปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐให้สัมภาษณ์ถึงเจ้าหน้าที่ทหารเหยียบกับระเบิดที่บริเวณรอยต่อช่องโดเอาว์-กฤษณา จังหวัดศรีสะเกษเมื่อช่วงเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมาว่า ส่วนตัวตนต้องขอแสดงความเสียใจกับทหารทั้ง 3 นายที่เหยียบกับระเบิดจนได้รับบาดเจ็บ และขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศให้สื่อสารไปยังประเทศต่างๆ ทั้งประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นประเทศตัวกลางในการประสานให้ไทยและกัมพูชาได้พูดคุยเพื่อทำข้อตกลงในการหยุดยิงกัน รวมถึงประเทศสหรัฐอเมริกาและจีนที่เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ในการทำข้อตกลง13 ข้อเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมาด้วย นายสุรเดช กล่าวว่าข้อตกลง 13 ข้อแต่มี 2 ข้อที่ทางกัมพูชาไม่ยอมรับคือการร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิดและการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งในเรื่องของทุ่นระเบิดที่ยังคงฝังอยู่นั้น ในเมื่อเราไม่สามารถไว้วางใจกัมพูชาได้ เราก็ต้องมาเก็บกู้ของเราเองก่อน และในสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจอย่างนี้เราควรจะต้องมีอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งในหลายประเทศก็มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย เท่าที่ตนติดตามข่าวประเทศที่มีเทคโนโลยีที่น่าสนใจคือประเทศออสเตรเลีย ซึ่งในทางทหารเราก็มีสัมพันธ์ที่ดีกับทางออสเตรเลียอยู่แล้ว สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยเราก็มีอยู่ ดังนั้นเราก็สามารถประสานกับทางสถานทูตได้เลย โดยอาจจะขอให้ผู้เชี่ยวชาญของเขามาดูสถานที่พร้อมนำอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีตรวจจับทุ่นระเบิดมาแสดงให้เราดูก่อนก็ได้ ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะเป็นลักษณะเหมือนกับสนามแม่เหล็กที่สามารถจะเช็คสิ่งที่เป็นโลหะได้ว่า อยู่จุดไหนและพื้นที่ไหนที่มีทุ่นแม่เหล็กอยู่จำนวนมากหรือน้อย นอกจากนี้ยังมีวิธีการใช้โดรนเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่ที่เป็นภูเขาที่จำเป็นต้องใช้โดนเข้าไปตรวจสอบด้วย ตนคิดว่า เราต้องรีบทำเพราะไม่เช่นนั้นทหารเราจะอันตราย “เรื่องนี้เป็นเรื่องของชีวิตคน ชีวิตทหาร เครื่องไม้เครื่องมือที่เรามีอยู่ในปัจจุบันอาจจะยังไม่ทันสมัยพอ ผมจึงอยากเสนอให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพราะเราไม่สามารถที่จะเอาชีวิตทหารไปแขวนอยู่บนเส้นด้ายที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไหร่ ได้อีกแล้ว เราต้องระมัดระวังความปลอดภัยให้กับทหารของเรา ด้วยการมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยด้วย” […]

ทหารเหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน เจ็บ 3 นาย

ศรีสะเกษ 9 ส.ค. – กำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน บาดเจ็บ 3 นาย โดย “จ.ส.อ.ธานี” หัวหน้าชุด ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำวันที่วันที่ 9 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 11.00 น. โดยมีรายละเอียด ดังนี้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ร้อย.ร.111 ได้นำกำลังพลลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อวางลวดหนามป้องกันพื้นที่ บริเวณรอยต่อ โดนเอาว์-กฤษณา จ.ศรีสะเกษ โดยมี จ.ส.อ.ธานี พาหา เป็นหัวหน้าชุด และกำลังพล 2 นาย โดยระหว่างตรวจสอบเส้นทางได้เหยียบกับระเบิด เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย (ส.1 […]

Thai military convoy in Surin

ชี้สถานการณ์ไทย-กัมพูชาเป็นมากกว่าเรื่องดินแดน

นิวยอร์ก 27 ก.ค.- นิตยสารไทม์ของสหรัฐลงบทความวิเคราะห์สถานการณ์ไทยกับกัมพูชาในขณะนี้ว่า เป็นเรื่องอื่นที่มีความสำคัญมากกว่าเรื่องดินแดน บทความของชาร์ลี แคมป์เบลล์ บรรณาธิการอาวุโสระบุว่า เหตุทะเลาะเบาะแว้งเรื่องดินแดนที่เกิดขึ้นทั่วโลก เห็นได้ชัดว่ามีเหตุจำนวนมากที่เป็นการเบี่ยงเบนด้วยกระแสคลั่งชาติ (jingoistic distraction) แม้เหตุเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ แต่การปะทะที่ยืดเยื้อมักเกิดขึ้นจากจุดประสงค์ที่ชัดเจน บทความเล่าถึงการปะทะที่เกิดขึ้นใกล้ปราสาทตาเมือนธมเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ทำให้พลเรือนในไทยเสียชีวิต 1 คน ทหารเสียชีวิต 1 นาย เป็นเหตุให้มีการตอบโต้กันทั้งทางการทหารและทางการทูตจนถึงขณะนี้ นายแคมป์เบลล์ระบุว่า ปัญหาบริเวณชายแดนที่ทั้ง 2 ประเทศมีพรมแดนติดกันยาว 817 กิโลเมตรไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนงุนงงกับการปะทะล่าสุด คือ การที่สองตระกูลทรงอิทธิพลทางการเมืองของสองประเทศกลับกลายมาเป็นปรปักษ์กัน ทั้งที่เคยสนิทสนมกันมาก่อน ผู้เขียนชี้ว่า มีปัจจัยไม่กี่อย่างที่จูงใจอย่างชัดเจนให้นายฮุน เซน อดีตผู้นำกัมพูชาทำให้เหตุทะเลาะครั้งนี้ยืดเยื้อ หนึ่งในนั้น คือ สภาพเศรษฐกิจกัมพูชาขณะนี้ไม่ดีนัก เขาอาจใช้โอกาสนี้เปิดทางให้นายฮุน มาเนต บุตรชายได้แสดงความเป็นผู้นำในฐานะนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้นายฮุน เซนยังอาจต้องการเบี่ยงเบนเรื่องที่บุตรชายล้มเหลวในการแก้ปัญหา “โรคหลอกลวงระบาด” (scamdemic) ตามที่สหประชาชาติเรียกขาน ประเมินกันว่า ธุรกิจผิดกฎหมายในกัมพูชา ทั้งบ่อนกาสิโน การค้ามนุษย์ และแก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ครองสัดส่วนถึงร้อยละ […]

1 2 3 4 5 6
...