ทำเนียบ 13 ส.ค.-รัฐบาล ระบุ “เพ็ญโบนา” โทรโข่งเขมรหลังออกแถลงการณ์ปฏิเสธแถว่ากับระเบิดไม่ใช่ของกัมพูชา ด้าน “จิรายุ” ย้อนถามเมื่อบอกว่าไม่ใช่ แล้วทำไมจึงไม่ยอมรับข้อตกลงหยุดยิง 7 ส.ค. เรื่องข้อตกลงเก็บกวาดทุ่นระเบิด พร้อมเรียกร้องให้รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา เร่งสอบเส้นทางการเงินผู้ซื้อและผู้ขาย รู้แน่เขมรมีกี่หมื่นลูก
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) กล่าวถึงกรณีนายเพ็ญ โบนา โฆษกรัฐบาลกัมพูชา แถลงในวันนี้ (13 สิงหาคม 2568) ตอบโต้กรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยยังปฏิเสธหน้าตายว่า กัมพูชาไม่เคยมีและวางทุ่นระเบิดใหม่ และปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวาอย่างเคร่งครัด นั้น
นายจิรายุ กล่าวว่า การที่รัฐบาลกัมพูชาออกมาโต้แย้งในประเด็นนี้ ก็ยิ่งทำให้เห็นถึงความไม่จริงใจและเป็นการโกหกรายวัน เพราะหากเป็นอย่างที่โฆษกรัฐบาลกัมพูชาพูดนั้น เหตุใดกัมพูชาจึงไม่รับข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่7สิงหาคม 2568 ประเทศมาเลเซีย ที่ไทยยื่นข้อเสนอสำคัญ 2 ข้อ คือ1.เรื่องการจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ค้ามนุษย์ และข้อที่2.ให้มีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพราะข้อที่ 2 นี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าขัดแย้งกับสิ่งที่รัฐบาลกัมพูชาพูดในวันนี้ อย่างสิ้นเชิงเพราะถ้าตนเองไม่ได้เป็นผู้วางกับระเบิด เหตุใดจึงไม่รับข้อตกลงนี้
นายจิรายุ กล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยังรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ขอให้เปิดประชุมเร่งด่วนเพื่อพิจารณากรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลงสนธิสัญญาดังกล่าวในเรื่องของกับระเบิดบุคคล เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียใดๆอีก และเป็นการสร้างสันติภาพอย่างจริงจังหลังข้อตกลงหยุดยิง 7 สิงหาคม2568 แต่ยังพบการวางกับระเบิดจำนวนมากในเขตอธิปไตยของประเทศไทย
“ขอเรียกร้องให้เปิดการสอบสวน เพื่อให้เปิดเผยแหล่งที่มาของผู้ผลิตและเส้นทางการเงินของการโอนซื้อ จากผู้ซื้อและผู้ขายกับระเบิดดังกล่าว ซึ่งในโลกมีอยู่ไม่กี่รายที่ผลิตขายให้กับประเทศต่างๆที่ไม่สนใจอนุสัญญาดังกล่าว หากตรวจสอบเส้นทางการเงิน ก็จะสามารถมองเห็นได้ว่าใครเป็นผู้สั่งกับระเบิดสังหารบุคคลจำนวนมากมาใช้ในภูมิภาคนี้” นายจิรายุ กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย