ยูเครนเผยเรือขนธัญพืชลำแรกออกจากท่าเรือโอเดสซาแล้ว

เคียฟ 1 ส.ค. – ทางการยูเครนระบุว่า เรือบรรทุกสินค้าธัญพืชได้เดินทางออกจากท่าเรือโอเดสซาของยูเครนในวันนี้ ซึ่งนับเป็นเรือลำแรกที่เดินทางออกจากท่าเรือดังกล่าวภายใต้ข้อตกลงส่งออกธัญพืชและปุ๋ยที่ทำขึ้นร่วมกันระหว่างรัสเซีย ยูเครน ตุรกี และองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ในเดือนกรกฎาคม นายโอเล็กซานเดอร์ คูบราคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน เผยผ่านทวิตเตอร์ว่า เรือบรรทุกสินค้าธัญพืชของยูเครนได้เดินทางออกจากท่าเรือในเมืองโอเดสซา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครน ซึ่งนับเป็นเรือลำแรกที่ออกเดินทางจากท่าเรือดังกล่าวนับตั้งแต่ที่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เขาขอขอบคุณชาติพันธมิตรของยูเครนและยูเอ็นที่ช่วยให้การลงนามในข้อตกลงส่งออกธัญพืชและปุ๋ยที่เมืองอิสตันบูลของตุรกีสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ด้านกระทรวงกลาโหมของตุรกี กล่าวว่า เรือบรรทุกสินค้าดังกล่าวเป็นเรือสัญชาติเซียร์ราลีโอนชื่อ ราโซนี (Razoni) บรรทุกข้าวโพดออกเดินทางจากท่าเรือโอเดสซาไปยังเลบานอน ทั้งยังระบุว่า มีการเตรียมเรือบรรทุกสินค้าลำอื่น ๆ เพื่อใช้เดินทางในเส้นทางเดินเรือดังกล่าวภายใต้ข้อตกลงที่ทำขึ้นในเดือนกรกฎาคมแล้ว ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ของยูเครนระบุว่า ขณะนี้มีเรือบรรทุกสินค้า 17 ลำที่บรรทุกสินค้าเกือบ 600,000 ตันจอดอยู่ที่ท่าเรือของยูเครนในทะเลดำ ในจำนวนนี้ มีเรือ 16 ลำที่บรรทุกธัญพืชของยูเครนราว 580,000 ตัน. -สำนักข่าวไทย

เปิดศูนย์ประสานงานร่วมส่งออกธัญพืชยูเครน

ตุรกีทำพิธีเปิดศูนย์ประสานงานร่วมเพื่อติดตามกระบวนการส่งออกธัญพืชจากยูเครน หลังจากที่ยูเครนและรัสเซียบรรลุข้อตกลงเรื่องการส่งออกธัญพืชจากท่าเรือริมฝั่งทะเลดำ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

รัสเซียยืนยันทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารท่าเรือยูเครน

กระทรวงต่างประเทศรัสเซียยืนยันวันนี้ว่า ขีปนาวุธของรัสเซียได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารในการโจมตีท่าเรือเมืองโอเดสซาของยูเครนเมื่อวันเสาร์

ยูเครนเดินหน้าฟื้นส่งออกธัญพืชแม้ถูกขีปนาวุธถล่มท่าเรือ

เคียฟ 24 ก.ค.- ยูเครนเดินหน้าฟื้นการส่งออกธัญพืชที่ท่าเรือเมืองโอเดสซาและท่าเรือริมทะเลดำแห่งอื่น ๆ หลังจากท่าเรือที่เมืองโอเดสซาถูกขีปนาวุธยิงถล่มเมื่อวันเสาร์ ด้านรัสเซียแจ้งผ่านตุรกีว่าไม่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนประณามการยิงขีปนาวุธดังกล่าวว่า เป็นความป่าเถื่อนอย่างชัดแจ้งที่แสดงให้เห็นว่า ไม่สามารถเชื่อใจรัสเซียได้ว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงรับประกันความปลอดภัยให้แก่การขนส่งธัญพืชที่ท่าเรือของยูเครน อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนเผยว่า การเตรียมการเพื่อฟื้นการส่งออกธัญพืชยังคงเดินหน้าต่อไป ขณะที่สถานีแพร่ภาพกระจายเสียงแห่งชาติของยูเครน (Suspilne) รายงานอ้างกองทัพยูเครนว่า พื้นที่เก็บธัญพืชที่ท่าเรือไม่ได้รับความเสียหายจากขีปนาวุธ ด้านผู้ว่าการแคว้นโอเดสซาแจ้งว่า มีผู้บาดเจ็บและโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือเสียหาย กองทัพยูเครนเผยแพร่คลิปนักดับเพลิงพยายามดับไฟบนเรือลำหนึ่งที่จอดข้างเรือลากจูงที่ท่าเรือในเมืองโอเดสซา โดยระบุว่าขีปนาวุธคาลิเบอร์ (Kalibr) 2 ลูกของรัสเซียยิงถูกสถานีบริการน้ำมันที่ท่าเรือแห่งนี้ และอีก 2 ลูกถูกกองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนยิงสกัดไว้ได้ ด้านกระทรวงกลาโหมตุรกีเผยว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รัสเซียไม่เกี่ยวข้องกับการยิงขีปนาวุธดังกล่าว ตุรกีและสหประชาชาติเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยให้รัสเซียและยูเครนลงนามข้อตกลงรับประกันความปลอดภัยให้แก่การขนส่งธัญพืชที่ท่าเรือของยูเครนเมื่อวันศุกร์ หวังช่วยควบคุมราคาอาหารโลกที่พุ่งขึ้นพราะสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ย่างเข้าสู่เดือนที่ 6 แล้วในวันนี้ และไม่มีท่าทีว่าจะบรรเทาลง เจ้าหน้าที่ยูเครนคาดว่า ข้อตกลงนี้จะช่วยให้การส่งออกธัญพืชที่ท่าเรือ 3 แห่งของยูเครนกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดสงครามที่เดือนละ 5 ล้านตัน.-สำนักข่าวไทย

ตุรกีเผยรัสเซียกับยูเครนจ่อทำข้อตกลงเปิดท่าเรือในทะเลดำ

เคียฟ 22 ก.ค. – ตุรกีเผยว่า รัสเซียกับยูเครนจะลงนามข้อตกลงร่วมกันในวันนี้เพื่อกลับไปเปิดท่าเรือของยูเครนในทะเลดำที่ยูเครนใช้ส่งออกธัญพืชอีกครั้ง ซึ่งทำให้เกิดความหวังครั้งใหม่ในการบรรเทาภาวะวิกฤตอาหารทั่วโลกที่เป็นผลมาจากการเปิดฉากบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย ทำเนียบประธานาธิบดีตุรกีประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่า รัสเซียกับยูเครนจะลงนามข้อตกลงในวันนี้เพื่อกลับไปเปิดท่าเรือของยูเครนในทะเลดำที่ใช้ส่งออกธัญพืชอีกครั้ง ขณะที่โฆษกขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดของข้อตกลงดังกล่าว แต่นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการของยูเอ็น จะเดินทางเยือนตุรกีในวันนี้ และคาดว่าจะมีการลงนามในข้อตกลงในเวลา 13.30 น. ของวันนี้ตามเวลามาตรฐานกรีนิช หรือตรงกับเวลา 20.30 น. ของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย อย่างไรก็ดี รัสเซียกับยูเครน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่ของโลก ยังไม่ได้ออกมายืนยันประกาศของทำเนียบประธานาธิบดีตุรกี แต่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวเป็นนัยผ่านคลิปวิดีโอเมื่อคืนวันพฤหัสบดีว่า รัสเซียอาจเลิกปิดกั้นท่าเรือของยูเครนในทะเลดำเร็ว ๆ นี้ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รัสเซียได้ใช้กองเรือปิดกั้นท่าเรือของยูเครนในทะเลดำจนทำให้ปริมาณอาหารในตลาดทั่วโลกลดลงอย่างมากและทำให้ราคาธัญพืชพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน สั่งเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์.-สำนักข่าวไทย

“ปูติน” อ้างยูเครนไม่ยอมทำตามเงื่อนไขข้อตกลงสันติภาพ

เตหะราน 20 ก.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เผยวันนี้ว่า รัฐบาลรัสเซียยังไม่เห็นว่ายูเครนต้องการที่จะทำตามเงื่อนไขในข้อตกลงสันติภาพเบื้องต้นตามที่ได้ตกลงกันไว้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีปูตินให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์หลังเสร็จสิ้นภารกิจเยือนอิหร่านในช่วงเช้ามืดวันนี้ว่า รัฐบาลรัสเซียยังไม่เห็นว่ายูเครนต้องการที่จะทำตามเงื่อนไขในข้อตกลงสันติภาพเบื้องต้นตามที่ได้ตกลงกันไว้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งยังระบุว่า ซาอุดีอาระเบียกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เสนอตัวเป็นคนกลางเพื่อช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขณะที่รัฐบาลยูเครนยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับคำพูดดังกล่าวของประธานาธิบดีปูติน ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีปูตินได้เดินทางเยือนอิหร่านเมื่อวันอังคาร และได้พบกับ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่ถูกชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีปูตินยังได้พบกับประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน ของตุรกี ในระหว่างเดินทางเยือนอิหร่าน เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงกลับมาเปิดการส่งออกธัญพืชของยูเครนจากท่าเรือในทะเลดำ ซึ่งถูกรัสเซียปิดล้อม ผู้นำรัสเซียระบุว่า รัสเซียพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกในการส่งออกธัญพืชของยูเครนจากท่าเรือในทะเลดำ แต่ก็ต้องการให้นานาชาติยกเลิกการใช้มาตรการจำกัดการส่งออกธัญพืชจากรัสเซียเช่นกัน. -สำนักข่าวไทย

“ปูติน” เดินทางเยือนอิหร่านในวันนี้

เตหะราน 19 ก.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะเดินทางเยือนอิหร่านในวันนี้ ซึ่งนับเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งที่สองของผู้นำรัสเซีย นับตั้งแต่รัสเซียสั่งเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีปูตินจะเดินทางเยือนรัสเซียเพื่อพบกับอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน และประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน ของตุรกี ขณะที่เจ้าหน้าที่ของทางการตุรกีระบุว่า ผู้นำทั้งสามจะหารือร่วมกันในประเด็นเกี่ยวกับการส่งออกธัญพืช สงครามซีเรีย และสงครามยูเครน บีบีซีมองว่า การเดินทางเยือนอิหร่านจะเปิดโอกาสให้ประธานาธิบดีปูตินเดินหน้าสานสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับอิหร่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในชาติพันธมิตรที่เหลืออยู่ไม่มากของรัสเซียและถูกชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกับรัสเซีย ทั้งนี้ การเดินทางเยือนอิหร่านของผู้นำรัสเซียมีขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่สหรัฐได้กล่าวหารัฐบาลอิหร่านเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า อิหร่านกำลังวางแผนส่งโดรนหลายร้อยลำให้แก่รัสเซียเพื่อนำไปใช้ในสงครามยูเครน ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีปูตินได้เดินทางเยือนทาจิกิสถานและเติร์กเมนิสถานในเดือนมิถุนายน ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดฉากบุกโจมตียูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ โดยที่ทั้งสองประเทศเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต. -สำนักข่าวไทย

วอลเลย์บอลหญิงไทย พร้อมพบ ตุรกี

นักตบลูกยางสาวไทย พร้อมลงทำศึกกับ เจ้าภาพ ตุรกี ในศึกวอลเลย์บอล เนชั่นส์ ลีก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย แม้สถิติเจอกันมา 5 นัดหลังสุด สาวไทยจะเป็นรอง

นักตบลูกยางสาวไทย ซ้อมสนามจริง ก่อนลุยเนชั่นส์ลีก รอบ 8 ทีม

ทีมวอลเลย์บอลสาวไทย ซ้อมสนามจริงทดสอบสภาพสนาม ก่อนลุยศึกเนชั่นส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย กับ ตุรกี เจ้าภาพ วันที่ 14 ก.ค.นี้

ตุรกีหนุนฟินแลนด์-สวีเดนเข้าร่วมสมาชิกนาโต

บรัสเซลส์ 29 มิ.ย. – ตุรกี ซึ่งเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ประกาศเห็นพ้องสนับสนุนให้สวีเดนและฟินแลนด์เข้าร่วมเป็นสมาชิกของนาโตแล้ว นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการของนาโต ระบุว่า สวีเดนยินยอมที่จะดำเนินการตามคำขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนของตุรกี นอกจากนี้ สวีเดนกับฟินแลนด์จะยกเลิกการใช้มาตรการจำกัดการขายอาวุธให้แก่ตุรกีอีกด้วย ขณะที่ประธานาธิบดีเซาลี นีนิสเตอ ของฟินแลนด์ เผยว่า สวีเดน ฟินแลนด์ และตุรกี ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันเพื่อขยายความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการต่อต้านภัยคุกคามต่อความมั่นคงของทั้งสามประเทศ ส่วนนายกรัฐมนตรีแมกดาลีนา แอนเดอร์สสัน ของสวีเดน กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นย่างก้าวที่สำคัญมากต่อนาโต ด้านทำเนียบประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน ของตุรกี ระบุว่า ตุรกีบรรลุข้อตกลงในสิ่งที่ต้องการจากสวีเดนและฟินแลนด์ ก่อนหน้านี้ ตุรกีได้ประกาศคัดค้านไม่ให้ฟินแลนด์และสวีเดนเข้าร่วมเป็นสมาชิกของนาโต เนื่องจากไม่พอใจจุดยืนของทั้งสองประเทศที่สนับสนุนกองกำลังติดอาวุธชาวเคิร์ด ซึ่งตุรกีมองว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายทางตอนใต้ของประเทศที่มีพรมแดนติดซีเรีย จนทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า ฟินแลนด์และสวีเดนอาจเข้าร่วมเป็นสมาชิกของนาโตไม่ได้ หากตุรกีไม่สนับสนุน ขณะที่รัสเซียยังคงยืนกรานคัดค้านไม่ให้ฟินแลนด์กับสวีเดนเข้าร่วมนาโต และอ้างว่าจำเป็นต้องทำสงครามในยูเครนเนื่องจากการขยายพันธมิตรทางทหารของชาติตะวันตก.-สำนักข่าวไทย

มกุฎราชกุมารซาอุฯ เยือนตุรกีเยียวยาสัมพันธ์

อังการา 22 มิ.ย.- เจ้าชายมุฮัมหมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซิซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียมีกำหนดเสด็จถึงกรุงอังการาในวันนี้ เพื่อเสด็จเยือนตุรกีเป็นครั้งแรกในช่วงที่ทั้งสองประเทศเดินหน้าเยียวยาความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานจากเหตุสังหารผู้สื่อข่าวซาอุดีอาระเบีย เจ้าชายมุฮัมหมัดเสด็จเยือนตุรกีเป็นประเทศสุดท้ายของการตระเวนเยือนตะวันออกกลาง หลังจากเสร็จสิ้นการเยือนอียิปต์และจอร์แดน และมีขึ้นก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐจะเยือนภูมิภาคนี้ในเดือนหน้า ด้านประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน ของตุรกีกล่าวถึงการพบหารือกับเจ้าชายว่า จะเน้นเรื่องการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก เขาเพิ่งไปเยือนซาอุดีอาระเบียเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีเมื่อเดือนเมษายน หลังเกิดเหตุนายจามาล คาชอกจี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุดีอาระเบียถูกสังหารในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในนครอิสตันบูลของตุรกีในปี 2561 ตุรกีเปิดการไต่สวนลับหลังผู้ต้องสงสัยชาวซาอุดีอาระเบีย 26 คนในคดีนี้ แต่ศาลมีคำสั่งเมื่อต้นปีนี้ให้ระงับการไต่สวนและส่งคดีกลับไปยังซาอุดีอาระเบีย เปิดทางให้สองประเทศสานความสัมพันธ์กันอีกครั้ง หน่วยข่าวกรองของสหรัฐระบุว่า มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียเป็นผู้อนุมัติให้สังหารหรือจับตัวนายคาชอกจี เจ้าชายปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง แต่ระบุว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ที่ขึ้นตรงกับเขา ขณะที่ผู้นำตุรกีไม่เคยเอ่ยชื่อเจ้าชาย แต่กล่าวว่าเป็นคำสั่งของบุคคลระดับสูงสุดของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย เอพีตั้งข้อสังเกตว่า ตุรกีพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียในช่วงตุรกีกำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษ และหาทางดึงดูดการลงทุนจากประเทศร่ำรวยริมอ่าวเปอร์เซีย นอกจากนี้ยังดำเนินมาตรการปรับปรุงความสัมพันธ์กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์ และอิสราเอลด้วย ขณะที่ซาอุดีอาระเบียพยายามขยายประเทศพันธมิตรให้กว้างขวางขึ้นในช่วงที่ความสัมพันธ์กับสหรัฐตึงเครียด.-สำนักข่าวไทย

คาดสหรัฐจะประกาศเรื่อง “ไบเดน” เตรียมเยือนซาอุฯ

วอชิงตัน 13 มิ.ย.- แหล่งข่าวเผยว่า ทำเนียบขาวจะประกาศในสัปดาห์นี้เรื่องประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะเยือนซาอุดีอาระเบียในเดือนหน้า และอาจจะต้องพบมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย ผู้ที่เขาเคยประณามเรื่องผู้สื่อข่าวถูกสังหารในตุรกี แหล่งข่าวเผยว่า การเยือนดังกล่าวน่าจะมีขึ้นราวกลางเดือนกรกฎาคม ขณะที่โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐยืนยันว่า กำลังมีการเตรียมการเรื่องประธานาธิบดีไบเดนเยือนซาอุดีอาระเบียและอิสราเอล ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันในรายละเอียดได้ แต่จะประกาศทันทีที่สามารถทำได้ รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า การเยือนดังกล่าวน่าจะมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียในช่วงที่ผู้นำสหรัฐกำลังหาทางทำให้น้ำมันเบนซินในประเทศมีราคาลดลง ทำเนียบขาวเคยแถลงว่า ประธานาธิบดีไบเดนคิดว่า เจ้าชายมุฮัมหมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียเป็นบุคคลน่ารังเกียจ เพราะมีส่วนร่วมในการสังหารนายจามาล คาชอกกี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุดีอาระเบียที่ต่อต้านรัฐบาลและทำงานให้กับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ของสหรัฐ นายคาชอกกีถูกสังหารในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในนครอิสตันบูลของตุรกีเมื่อปี 2561 โดยมีรายงานข่าวว่าเขาถูกฆ่าหั่นศพ ขณะที่สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐหรือซีไอเอ (CIA) สรุปว่า เจ้าชายซาอุดีอาระเบียเป็นผู้สั่งการสังหาร.-สำนักข่าวไทย

1 11 12 13 14 15 51
...