เจ้าชายฟูมิฮิโตะเสด็จเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
เจ้าชายฟูมิฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่นและเจ้าหญิงคิโกะ พระชายา เสด็จไปยังประเทศอังกฤษในวันนี้เพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ในกรุงลอนดอน ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
เจ้าชายฟูมิฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่นและเจ้าหญิงคิโกะ พระชายา เสด็จไปยังประเทศอังกฤษในวันนี้เพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ในกรุงลอนดอน ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
โตเกียว 2 พ.ค. – นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น เผยว่า เขามีแผนการเยือนเกาหลีใต้ในสัปดาห์หน้า เพื่อพบสนทนากับประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ ถือเป็นครั้งแรกนับจากปี 2561 ที่ผู้นำญี่ปุ่นไปเยือนเกาหลีใต้ นายกรัฐมนตรีคิชิดะกล่าวขณะเยือนกานา ซึ่งเป็นจุดหมายแห่งที่ 2 ของการตระเวนเยือน 4 ประเทศในแอฟริกาและสิงคโปร์ว่า เจ้าหน้าที่กำลังประสานงานให้เขาไปเยือนเกาหลีใต้ ในวันที่ 7-8 พฤษภาคม หากไม่ติดขัดประการใด การเยือนนี้จะเป็นโอกาสดีในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างตรงไปตรงมา เรื่องเร่งเดินหน้าความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ และเรื่องสถานการณ์โลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เขาหวังว่า การเยือนครั้งนี้จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการทูตแบบกระสวย (shuttle diplomacy) ที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีการเดินทางไปมาเพื่อเจรจาหาทางคลี่คลายปัญหา การเยือนดังกล่าวจะมีขึ้นก่อนที่ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดกลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือจี 7 (G7) ที่เมืองฮิโรชิมะ ระหว่างวันที่ 19-21 พฤษภาคม และจะมีขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีคิชิดะและประธานาธิบดียุนเห็นพ้องกันในการประชุมสุดยอดที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่น เมื่อเดือนมีนาคมว่าจะยุติการใช้มาตรการจำกัดทางการค้าตอบโต้กัน หลังจากทั้ง 2 ประเทศมีข้อพิพาทกันมานานหลายปีเรื่องญี่ปุ่นบังคับใช้แรงงานชาวเกาหลีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2.-สำนักข่าวไทย
โตเกียว 1 พ.ค.- ญี่ปุ่นเข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) ที่เมืองฮิโรชิมะระหว่างวันที่ 19-21 พฤษภาคมนี้ หลังจากเกิดเหตุปองร้ายอดีตนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีในเวลาห่างกันไม่ถึง 1 ปี รัฐบาลญี่ปุ่นเผยว่า กำลังพิจารณาเรื่องนำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น โดรนติดกล้องและปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) เพื่อให้สามารถตรวจจับพฤติกรรมต้องสงสัยได้อย่างรวดเร็ว การประชุมสุดยอดจี 7 จะจัดขึ้นที่โรงแรมบนเกาะอูจินะ ห่างจากใจกลางเมืองฮิโรชิมะประมาณ 6 กิโลเมตร และมีทางเข้าออกทางเดียวผ่านสะพานที่เชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ ตำรวจจะขอตรวจตรายวดยานที่ผ่านเข้าออกเกาะ และประสานกับหน่วยยามฝั่งตรวจสอบเรือและโดรนที่เข้ามาใกล้สถานที่จัดการประชุม นอกจากนี้ยังจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในช่วงที่ผู้นำอาจจะเดินทางไปยังอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ แม้ว่าผู้นำแต่ละคนจะมีทีมรักษาความปลอดภัยประจำตัวอยู่แล้วก็ตาม ขณะเดียวกันตำรวจในกรุงโตเกียวกำลังเพิ่มการตรวจตราเช่นกัน เนื่องจากเคยเกิดเหตุก่อการร้ายในกรุงลอนดอนของอังกฤษเมื่อปี 2548 ในขณะที่สกอตแลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสหราชอาณาจักรกำลังเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดกลุ่มจี 8 (G8) ซึ่งเป็นจี 7 ที่รวมรัสเซีย ผลสำรวจความเห็นชาวญี่ปุ่นเมื่อเดือนตุลาคม 2565 พบว่า ผู้ตอบเกือบร้อยละ 70 รู้สึกว่าญี่ปุ่นมีความปลอดภัยลดลงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุร้ายหลายครั้ง เช่น เหตุชายไล่แทงคนในบ้านพักผู้พิการทางสมองในปี 2549 เหตุวางเพลิงสตูดิโอแอนิเมชั่นในปี […]
ทำเนียนประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าววานนี้ว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป หรือ การตัดสินใจใด ๆ เกี่ยวกับแผนการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้กับนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นที่จะจัดขึ้นที่กรุงโซลของกาหลีใต้ในเดือนหน้า
โตเกียว 28 เม.ย.- ญี่ปุ่นแสดงออกถึงการเฝ้าระวังการฝึกซ้อมทางทหารของจีนและรัสเซียในน่านน้ำในภูมิภาค โดยระบุในนโยบายมหาสมุทรฉบับใหม่ว่า ผลประโยชน์ประเทศของญี่ปุ่นกำลังถูกคุกคามครั้งใหญ่มากกว่าที่เคยมีมา แผนพื้นฐานว่าด้วยนโยบายมหาสมุทร (Basic Plan on Ocean Policy) ระยะ 5 ปีฉบับปรับปรุงใหม่ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นในวันนี้ยกตัวอย่างภัยคุกคามญี่ปุ่นหลายประการ เช่น เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธทิ้งตัว กองเรือยามฝั่งของจีนล่วงล้ำน่านน้ำญี่ปุ่นหลายครั้ง กองทัพจีนและรัสเซียฝึกซ้อมทางทะเลร่วมกัน แผนพื้นฐานฯ ระบุว่า การที่จีนผงาดขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้สมดุลทางทหารในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเกิดการเปลี่ยนแปลง ความสัมพันธ์ของจีนและญี่ปุ่นกระทบกระทั่งกันบ่อยครั้งในเรื่องหมู่เกาะเซนกากุในทะเลจีนตะวันออกที่อยู่ในความควบคุมของญี่ปุ่น แต่จีนอ้างกรรมสิทธิ์เช่นเดียวกันและเรียกว่าหมู่เกาะเตียวหยู ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ของญี่ปุ่นกับรัสเซียก็เสื่อมถอยลงนับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 และญี่ปุ่นได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจรัสเซียเช่นเดียวกับหลายประเทศใหญ่ แผนพื้นฐานฯ รับปากว่า จะเพิ่มความร่วมมือระหว่างกองกำลังป้องกันตนเองและหน่วยยามฝั่งเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉิน จะส่งเสริมความมั่นคงทางทะเลด้วยการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนายานยนต์ใต้น้ำอัตโนมัติและยานยนต์ควบคุมระยะไกลสำหรับภารกิจด้านการลาดตระเวนและสำรวจทรัพยากร แผนพื้นฐานฯ ซึ่งมีการปรับปรุงทุก 5 ปีมาตั้งแต่ปี 2551 ย้ำด้วยว่า หมู่เกาะห่างไกลของญี่ปุ่นมีความสำคัญต่อการปกป้องเขตเศรษฐกิจจำเพาะที่กว้างขวางของประเทศ และต่อการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเล.-สำนักข่าวไทย
ลอนดอน 28 เม.ย.- สื่อต่างชาติรายใหญ่หลายแห่งรายงานข่าวคดีอาชญากรรมที่กำลังเป็นข่าวใหญ่ในไทยเรื่อง “แอม” ที่ต้องหาว่าฆาตกรรมคนรู้จักสิบกว่าคนด้วยการใช้สารไซยาไนด์ที่เป็นพิษ เว็บไซต์บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) รายงานเมื่อวันพฤหัสดีตามเวลาท้องถิ่น ลงชื่อและนามสกุลจริงของแอมที่ถูกจับกุมเมื่อวันอังคารตามเวลาในไทย หลังจากครอบครัวของสตรีรายหนึ่งในจังหวัดราชบุรีตั้งข้อสงสัยเรื่องเธอเสียชีวิตที่ริมแม่น้ำเมื่อต้นเดือนขณะไปปล่อยปลากับผู้ต้องหา ตำรวจพบร่องรอยของไซยาไนด์ที่ศพ ส่วนโทรศัพท์มือถือ เงินสดและกระเป๋าของผู้เสียชีวิตหายไป ผลการสืบสวนของตำรวจเชื่อว่า ผู้ต้องหาได้ฆาตกรรมคนอีก 11 คน หนึ่งในนั้นเป็นอดีตสามี ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาว่าเธอก่อเหตุด้วยเหตุผลเรื่องเงิน แต่เธอให้การปฏิเสธทุกข้อหา และไม่ได้รับการประกันตัว ตำรวจเผยว่า เหยื่อรายอื่นๆ เสียชีวิตในลักษณะเดียวกัน เริ่มจากเหยื่อรายแรกในปี 2563 แต่ครอบครัวไม่ได้ติดใจสงสัยและทำพิธีศพไปแล้ว ทำให้มีปัญหาในการตามเก็บหลักฐาน บีบีซีระบุว่า ไซยาไนด์จะยังคงตกค้างในศพอยู่นานหลายเดือนหากถูกใช้ปริมาณมาก สารนี้ออกฤทธิ์ด้วยการทำให้เซลล์ในร่างกายขาดออกซิเจน ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย ทางการไทยมีระเบียบกำหนดการใช้อย่างเคร่งครัด ผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี ด้านเว็บไซต์บรรษัทแพร่ภาพกระจายออสเตรเลีย หรือเอบีซี ของออสเตรเลีย สำนักข่าวเอเอฟพีของฝรั่งเศส และเว็บไซต์ซีบีเอสนิวส์ของสหรัฐรายงานว่า ตำรวจไทยได้ขยายผลการสอบสวนคดีสตรีที่ถูกกล่าวหาว่าใช้ไซยาไนด์ก่อเหตุฆาตกรรม และได้เพิ่มจำนวนเหยื่อเป็น 13 คน โดยตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อนกับผู้ต้องหา รายงานข่าวซึ่งลงชื่อและนามสกุลจริงของผู้ต้องหาระบุว่า เธอถูกจับกุมเมื่อวันอังคารเนื่องจากต้องหาก่อคดีฆาตกรรม 9 คดีในช่วงหลายปีย้อนไปตั้งแต่ปี 2563 ตำรวจเชื่อว่า ผู้ต้องหาซึ่งแต่งงานกับตำรวจและกำลังตั้งครรภ์ 4 […]
โตเกียว 28 เม.ย.- ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ชี้ว่า ญี่ปุ่นควรคว่ำบาตรเมียนมาเช่นเดียวกับที่คว่ำบาตรรัสเซียเรื่องรุกรานยูเครน และได้ประณามเมียนมาว่าป่าเถื่อนและกดขี่ประชาชน นายโทมัส แอนดรูว์ส ผู้รายงานพิเศษยูเอ็นเรื่องสิทธิมนุษยชนในเมียนมากล่าวกับผู้สื่อข่าว หลังจากเสร็จสิ้นการตระเวนพบกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐและเอกชนของญี่ปุ่นว่า สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมาน่ากลัวและเลวร้ายลง ขอเรียกร้องให้ญี่ปุ่นพิจารณาเรื่องร่วมกับประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) ใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างเจาะจงกับกองทัพเมียนมาและแหล่งรายได้หลักของเมียนมา ดังที่ญี่ปุ่นกำลังใช้กับรัสเซียในวิกฤตยูเครน เพราะการคว่ำบาตรจะทำให้รัฐบาลทหารเมียนมาถูกลดทอดศักยภาพในการทำร้ายประชาชน ญี่ปุ่นได้ระงับโครงการความช่วยเหลือโครงการใหม่ ๆ หลังจากกองทัพเมียนมารัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลนางออง ซาน ซู จี ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 แต่ไม่มีผลต่อโครงการที่ยังดำเนินอยู่ กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นแถลงเมื่อเดือนกันยายน 2565 ว่า ได้ยุติการรับสมัครคนเข้าโครงการฝึกฝนทหารเมียนมาแล้ว แต่นายแอนดรูว์สได้ขอให้ญี่ปุ่นยุติโครงการโดยทันที ไม่เช่นนั้นกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นจะถูกโยงกับระบอบทหารที่โหดร้าย เพราะทหารเมียนมาที่รับการฝึกสู้รบและเรียนรู้การเป็นทหารและผู้บังคับบัญชาที่มีประสิทธิภาพจะกลับไปรับใช้กองทัพที่ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติและอาชญากรรมสงคราม ผู้รายงานพิเศษยูเอ็นฯ ขอให้ญี่ปุ่นนำงบประมาณสำหรับโครงการช่วยเหลือโครงการใหม่ ๆ ที่ถูกระงับไปแล้ว ไปใช้สนับสนุนโครงการปันส่วนอาหารให้แก่ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาที่อาศัยอยู่ในบังกลาเทศราว 1 ล้านคน ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ส่วนใหญ่อพยพมาหลังจากกองทัพเมียนมายกกำลังไปปราบปรามในปี 2560 โครงการปันส่วนอาหารถูกตัดลดงบประมาณไปแล้วร้อยละ 17 ในเดือนมีนาคม และกำลังจะถูกลดลงอีกร้อยละ 20 ซึ่งจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเด็ก ๆ […]
นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นสั่งการให้รัฐบาลของเขาในวันนี้ให้เริ่มการทำงานเรื่องการเพิ่มจำนวนผู้บริหารที่เป็นสตรีในบริษัทขนาดใหญ่ของประเทศให้ได้ร้อยละ 30 หรือ มากกว่านี้ภายในปี 2030
กรุงเทพฯ 26 เม.ย.- ไทย-ญี่ปุ่น โดย ฮิตาชิ – กฟผ. ร่วมเดินหน้าประเทศไทยสู่ Carbon Neutrality นำเทคโนโลยีOPENVQ ใช้ควบคุมแรงดันไฟฟ้า ในระบบส่งไฟฟ้า รองรับพลังงานหมุนเวียน (RE) ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดความสูญเสียพลังงาน
โตเกียว 26 เม.ย. – รัฐบาลญี่ปุ่นประเมินว่า ประชากรของญี่ปุ่นจะลดลงร้อยละ 30 จากปี 2563 เหลือ 87 ล้านคน ในปี 2613 เพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลที่จะต้องยกเครื่องระบบสวัสดิการสังคมในการดูแลประชากรสูงวัยที่มีสัดส่วนสูงขึ้น สถาบันวิจัยประชากรและความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่น คาดว่าญี่ปุ่นจะมีประชากรลดลงเหลือไม่ถึง 100 ล้านคน ในปี 2599 และลดลงเหลือ 87 ล้านคน ในปี 2613 ในจำนวนนี้ 9,390,000 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 10.8 จะเป็นนักศึกษาและคนทำงานชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นนานกว่า 3 เดือน เป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.2 ในปี 2563 สถาบันฯ คาดว่าประชากรวัย 65 ปีขึ้นไป จะมีจำนวน 33,670,000 คน ในปี 2613 คิดเป็นร้อยละ 38.7 ของประชากรในปีนั้น ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการสังคมเพิ่มสูงขึ้นมาก ขณะที่ประชากรวัยทำงาน 15-64 ปี […]
ญี่ปุ่นอพยพพลเรือนออกจากซูดานเรียบร้อยแล้ว ด้วยความช่วยเหลือจากฝรั่งเศส เกาหลีใต้ และยูเออี
บริษัทไอสเปซ สตาร์ทอัพด้านอวกาศของญี่ปุ่นจะพยายามในวันนี้ที่จะเป็นบริษัทเอกชนบริษัทแรกที่ส่งยานลงไปสำรวจบนดวงจันทร์