ชาวกัมพูชา

สระแก้ว 20 ก.ค. – ทหารรวบชาวกัมพูชาลักลอบเดินเท้าผ่านช่องทางธรรมชาติเข้าไทย หวังหางานทำ ยอมจ่ายค่าจ้างให้ผู้นำพา รายละ 4,000 บาท ทหารกองกำลังบูรพา, กองร้อยเฉพาะกิจอรัญประเทศ (ฉก.อรัญประเทศ) และชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 รวบชาวกัมพูชา เป็นชาย 3 คน หญิง 2 คน และเด็กชาย 1 คน ลักลอบเดินเท้าผ่านทางช่องทางธรรมชาติเข้ามาในพื้นที่บ้านภูน้ำเกลี้ยง ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ระหว่างลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวขอตรวจสอบ พบว่ามีเพียงหนังสือผ่านแดน 1 เล่ม ไม่มีเอกสารทะเบียนแรงงานต่างด้าวตามกฎหมาย จากการสอบถามกลุ่มชาวกัมพูชาให้การตรงกันว่าเคยทำงานรับจ้างซักรองเท้าในตลาดโรงเกลือ แต่ภายหลังต้องเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากไม่มีรายได้ ปัจจุบันขาดแคลนปัจจัยดำรงชีพในกัมพูชา จึงต้องพยายามลักลอบกลับเข้ามาประเทศไทยอีกครั้งเพื่อหางานทำ โดยยอมจ่ายค่าจ้างให้ผู้นำพารายละ 4,000 บาท ซึ่งผู้นำพาจะพาลักลอบเดินเท้ามาตั้งแต่บ้านศิลาขะแมร์ ประเทศกัมพูชา ข้ามแดนมายังฝั่งไทย ทั้งนี้ หลังจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวแรงงานทั้งหมดให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และผลักดันกลับประเทศต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สระแก้ว 10 ก.ค.- รวบ 3 สาวชาวกัมพูชา ลักลอบทุบกำแพงห้องเช่าติดชายแดนเข้าประเทศไทย หลังตกงานขาดรายได้ หวังกลับมาทำงานที่เดิม ทหารลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา บ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบหญิงชาวกัมพูชาลักลอบเข้ามาในประเทศ บริเวณห้องเช่าที่ติดกับฝั่งกัมพูชา โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเดินตรวจความเรียบร้อย ได้ยินเสียงคล้ายคนทุบผนังภายในห้องเช่าที่ตลาดโรงเกลือ จึงเข้าไปตรวจสอบพบหญิงชาวกัมพูชา 3 คน กำลังหลบอยู่ในห้องน้ำ โดยพบรูกำแพงที่ถูกทุบขนาดใหญ่ จากการตรวจสอบเอกสาร พบว่า ทั้ง 3 คนถือหนังสือเดินทางแต่ไม่มีตราประทับเข้าเมืองอย่างถูกต้อง โดยเดินทางมาจากอำเภอปราสาทบางโกง จังหวัดบันเตียเมียนเจย โดยหญิงชาวกัมพูชา ให้การว่า ที่ต้องลักลอบเข้ามาเพื่อหวังจะกลับเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือเหมือนเมื่อก่อน เนื่องจากเคยทำงานในพื้นที่นี้มาก่อน แต่ภายหลังมีการปรับเวลาปิด-เปิดด่านบ้านคลองลึก จึงได้เดินทางกลับกัมพูชา พอกลับไปก็ไม่มีงานทำจึงตัดสินใจลักลอบเข้ามาโดยใช้วิธีทุบกำแพงห้องเช่า เพื่อหวังจะได้กลับมาทำงานอีกครั้ง แต่ถูกจับก่อน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้ง 3 คน ส่งให้ตำรวจ สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป -สำนักข่าวไทย

สระแก้ว 25 มิ.ย.-หน้าด่านคลองลึกวันนี้ เงียบเหงา ไม่คึกคักเหมือนปกติ ด้าน ตำรวจ สภ.คลองลึก เข้ามาพูดคุยกับชาวกัมพูชา ขอให้รอคำสั่งในที่พักก่อนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ บรรยากาศหน้าด่านคลองลึกวันนี้ หลังเมื่อวานอนุโลมให้ชาวไทยและชาวกัมพูชาที่ตกค้างอยู่ข้ามแดนกลับภูมิลำเนาได้ ทำให้เช้าวันนี้ที่หน้าด่านฝั่งไทยเงียบเหงาไม่คึกคักเหมือนปกติ แต่ยังมีชาวกัมพูชามารอ เนื่องจากเข้าใจว่ายังให้ข้ามแดนได้ โดยรายหนึ่งบอกว่า เมื่อวานทำงานไม่ได้ดูข่าว จึงไม่รู้ว่ามีการอนุโลมให้ข้ามแดนได้ วันนี้มาเพราะหวังว่าจะข้ามได้ แต่หากไม่ได้จริงๆ ก็คงต้องกลับไปอยู่ที่บ้านที่ตนทำงานอยู่ในอำเภอวัฒนาก่อน ด้าน ตำรวจ สภ.คลองลึก ก็เข้ามาพูดคุยทำความเข้าใจกับคนที่มารอว่า ตอนนี้ยังมีคำสั่งปิดอยู่ บางส่วนที่มาก็ขอให้รอคำสั่งว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ แต่ยังไม่รับปากว่าจะเปิด จึงอยากฝากให้คนที่มารอ ช่วยกระจายข่าวไปยังญาติพี่น้องที่ตั้งใจจะมาที่นี่ ว่าให้รอฟังข่าวอยู่ในที่พักก่อน เพราะยังไม่รู้ว่าจะมีการอนุโลมอีกหรือไม่ และอากาศค่อนข้างร้อน.-สำนักข่าวไทย

ตราด 24 มิ.ย. – ชายแดนบ้านหาดเล็กวุ่น รถบรรทุกสินค้าไทยและรถยนต์ส่วนบุคคลรวมกว่า 40 คัน ติดค้างอยู่ฝั่งกัมพูชา ก่อนสองฝ่ายเจรจากันและอนุญาตให้กลับเข้าประเทศได้ ส่วนแรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รอสถานการณ์ดีขึ้นจะกลับมาทำงานไทย เพราะรายได้ดีกว่า นายอำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ลงพื้นที่ตรวจตราและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ซึ่งเกิดความวุ่นวายขึ้น หลังรัฐบาลประกาศห้ามประชาชนและรถทุกชนิดข้ามแดน โดยฝั่งกัมพูชา ด่านบ้านจามเยี่ยม มีรถบรรทุกสินค้าไทยและรถยนต์ส่วนบุคคล รวมกว่า 40 คัน ติดค้างอยู่ฝั่งกัมพูชา เนื่องจากเจ้าหน้าที่กัมพูชาไม่อนุญาตให้นำรถเข้ามา แต่ให้ชาวไทยเดินกลับได้ ก่อนที่สองฝ่ายจะเจรจากัน และอนุญาตให้รถบรรทุกและรถยนต์ของไทยกลับเข้าประเทศได้ ด้านชาวกัมพูชามายืนรอทำเอกสารที่ฝั่งไทย เพื่อเตรียมกลับประเทศกันอย่างหนาแน่น แรงงานคนหนึ่งเล่าว่าทำงานที่ไทยมา 3 ปีแล้ว แต่กลัวสถานการณ์จะเลวร้ายลง จึงขอกลับประเทศก่อน ยืนยันหากสถานการณ์ดีขึ้นจะกลับมาทำงานที่ไทยอีก เพราะรายได้ดีกว่ามาก .-สำนักข่าวไทย