เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]

“มทภ.2” ยันเกษียณ 30 ก.ย.นี้ ขอบคุณเสียงเชียร์ต่ออายุ

สาธิตเกษตร 14 ส.ค.- “มทภ.2” ย้ำไร้ขัดแย้งรัฐบาล ต่างฝ่ายทำหน้าที่ ยันเกษียณ 30 ก.ย.นี้ ขอบคุณเสียงเชียร์ต่ออายุ แจงสร้างตาข่ายชายแดน ป้องกันโดรนสังหาร พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่2 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี กัมพูชา นำตาข่ายกั้นโดรนว่า ถือเป็นยุทธวิธีที่ต่างฝ่ายต่างดำเนินการเพราะเราไม่รู้ว่า โดรน จะมาจากทิศทางไหน ฝ่ายเราก็กั้นเช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันโดนสังหาร โดยทางฝ่ายกัมพูชากั้นในที่ตั้งฐานของเขา ในส่วนของเราก็ดำเนินการ และต้องขอบคุณประชาชนที่เราตาข่ายมามอบให้ เพื่อป้องกันโดยสังหาร พลโทบุญสิน ยังระบุว่าแม้ปัจจุบันกองทัพภาคที่ 2 ไม่ได้โพสต์รับบริจาคแล้ว แต่หากประชาชน นำสิ่งของมาให้ก็พร้อมที่จะรับไว้ พร้อมยืนยันว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ไม่ได้โทรศัพท์มาหา และลวดหนามหีบเพลงกองทัพก็ได้ครบแล้วขณะที่รัฐบาลก็สนับสนุนให้ ยังเป็นที่รู้กันว่า การจัดซื้อหากรอระเบียบราชการ มีความล่าช้า และในการสู้รบที่ผ่านมาเราสามารถยึดพื้นที่ได้ 11จุด จึงมีความจำเป็นต้องใช้และลวดหนามหีบเพลง จำนวนมาก เพื่อลดการลาดตระเวน แต่บางจุดก็จำเป็นต้องลาดตระเวน ป้องกันทหารกัมพูชารุกคืบยึดพื้นที่คืน อาจใช้โดรน รถกวาดทุ่นระเบิด ทั้งนี้หากประชาชนยังสนับสนุน นำมาให้เราก็ยินดี เพียงแต่ไม่ได้โพสต์ […]

ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังปกติ ย้ำอย่าเชื่อข่าวปลอม หลอกอพยพ

ทำเนียบ 14 ส.ค.- สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา 7 จังหวัด เช้านี้ เหตุการณ์ปกติ อย่าเชื่อข่าวปลอมให้อพยพออกจากพื้นที่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า กองทัพไทยยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นทั้ง 11 พื้นที่ 7 จังหวัด และวางรั้วลวดหนามอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาอธิปไตยของไทยไม่ให้ใครล่วงล้ำเข้ามา แม้แต่ตารางนิ้วเดียว และพร้อมตอบโต้ทันทีหากถูกรุกล้ำอธิปไตยของไทย ขณะที่หน่วยเก็บกู้ระเบิดยังตรวจพบกับระเบิดที่ลักลอบเข้ามาวางในพื้นที่อธิปไตยของไทยอย่างต่อเนื่อง หลังจากทหารไทยเหยียบกับระเบิดที่กัมพูชานำมาวางไว้ ซึ่งเป็นการผิดข้อตกลงหยุดยิงและขัดต่อสนธิสัญญาออตตาวาที่ห้ามใช้กับระเบิดบุคคล ซึ่งถือเป็นการละเมิดระดับโลกอย่างร้ายแรง และรัฐบาลไทยจะดำเนินการต่อคณะกรรมการสนธิสัญญาออตตาวา เพื่อให้ดำเนินการกับกัมพูชาต่อไป ขอเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชา รับข้อตกลงหยุดยิง 2 ข้อที่รัฐบาลไทยเคยเสนอไว้ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่ประเทศมาเลเซียคือ 1.การแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์รวมทั้งยาเสพติด และ 2.การเก็บกู้ทุนระเบิดที่วางไว้ ส่วนการเดินทางกลับภูมิลำเนาของพี่น้องประชาชนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หากมีเหตุการณ์ใด ๆ รัฐบาลจะดำเนินการแจ้งให้ทราบ ผ่านเครือข่ายองค์กรปกครองท้องถิ่นและกองทัพทันที ทั้งนี้ ขอให้ตรวจสอบข่าวอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล เนื่องจากวานนี้ มีการปล่อยข่าวปลอมออกมาอย่างต่อเนื่องว่า […]

สถานการณ์ชายแดน 7 จังหวัดคลี่คลายแล้ว เตือนอย่าเชื่อข่าวปลอม

ทำเนียบ 13 ส.ค.-สถานการณ์ชายแดน 7 จังหวัดคลี่คลายแล้ว เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม หลอกให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อ้างว่ากองทัพบกประกาศเตือนให้ประชาชนเร่งอพยพออกจากพื้นที่เนื่องจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ว่า เป็นข่าวปลอม และไม่มีมูลความจริง ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับเพจกองทัพภาคที่ 2 แล้ว ยืนยันว่า กองทัพบกไม่เคยออกประกาศดังกล่าว และสถานการณ์ชายแดนตลอดแนวกองกำลังสุรนารีอยู่ในภาวะปกติ มีเพียงการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตามปกติ ยังไม่มีการปะทะหรือสู้รบในพื้นที่ รัฐบาลขอให้ประชาชน อย่าได้หลงเชื่อหรือส่งต่อข้อมูลเท็จ และให้ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐหรือสื่อทางการเท่านั้น พร้อมย้ำว่ารัฐบาลและกองทัพบกให้ความสำคัญสูงสุดต่อความมั่นคงของประเทศ และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนทุกคน.-314.-สำนักข่าวไทย

“สุรเดช” แนะรัฐยกเลิกข้อตกลง GBC หลังกัมพูชาละเมิดทำทหารไทยขาขาด

กทม.13 ส.ค.-“สุรเดช” แนะรัฐบาลยกเลิกข้อตกลงเวที GBC หลังเขมรละเมิดข้อตกลง ทำทหารไทยต้องขาขาดอีก บอกจากนี้ต้อง ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’ ไล่บี้ ก.ต่างประเทศ ต้องแอ๊คชั่นฟ้องนานาประเทศให้เร็วกว่านี้ นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ให้สัมภาษณ์กรณีมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดซ้ำอีกนายขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสูญเสียขา 1 นายว่า ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำซาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความจริงใจของกัมพูชาไม่มีแล้ว เขาพยายามที่จะละเมิดข้อตกลงมาโดยตลอด ดังนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้สิ่งที่เราไปตกลงมาในการประชุม GBC ก็ควรจะยกเลิก เพราะคุยมาก็ไม่มีประโยชน์อะไร ไม่ได้มีผลอะไรเลย และเรื่องนี้กระทรวงการต่างประเทศควรจะมีแอ็คชั่น โดยเร็ว ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศดำเนินการช้ามาโดยตลอด ดังนั้นต้องรีบแจ้งไปยังนานาประเทศโดยเร็วถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่ากัมพูชาละเมิดข้อตกลงอีกแล้ว และถือว่าเรามีความชอบธรรมที่จะต้องปกป้องตัวเอง และปกป้องอธิปไตยของเรา ดังนั้นข้อตกลงต่างๆ ก็จะต้องยกเลิกไป เพราะกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ทางกองทัพประกาศรับบริจาคลวดหนามหีบเพลงผ่านเพจกองทัพ นายสุรเดช กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่ากรณีดังกล่าว เป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาล ล่าช้าและไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร ตนไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลต้องรอให้ทหารมาเปิดรับบริจาคเอง เพราะรัฐบาลมีงบฉุกเฉิน และสามารถอนุมัติได้อยู่แล้ว ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเพราะรัฐบาลล่าช้า ทางกองทัพก็เลยต้องมาขอรับบริจาค “ส่วนตัวคิดว่าการเจรจา เราต้องยกเลิกทั้งหมด ข้อตกลง 13 ข้อเราไม่ต้องคุยแล้ว ต่อไปนี้ต้องตาต่อตา […]

กต. จ่อเชิญทูต 50 ประเทศผู้บริจาคกรอบออตตาวาพิสูจน์ข้อเท็จจริงทุ่นระเบิด

กทม. 13 ส.ค.- ผู้ช่วย รมต.กต. เผยเตรียมเชิญทูต 50 ประเทศผู้บริจาคในกรอบอนุสัญญาออตตาวา ชี้แจง 15 ส.ค.นี้ ก่อนพาลงพื้นที่ 16 ส.ค. พิสูจน์ข้อเท็จจริง ชี้เหตุทุ่นระเบิดเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า สะท้อนกัมพูชาไม่จริงใจแก้ปัญหา ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ลั่น กต.จะดำเนินการทูตอย่างถึงที่สุด นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่พลกองร้อยทหารพรานรวม 7 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องจุบตะโมก ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประท้วงไปยังฝั่งกัมพูชา และเร่งดำเนินการประท้วงตามช่องทางทางการทูตที่เกี่ยวข้องแล้ว และในวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคมนี้ กระทรวงการต่างประเทศ จะเชิญผู้แทนทางการทูตจากกว่า 50 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วยประเทศผู้บริจาคในกรอบอนุสัญญาออตตาวา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มารับฟังการบรรยายสรุปในเรื่องดังกล่าว จากนั้นในวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะนำคณะผู้แทนทางการทูตดังกล่าว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้รับทราบข้อเท็จจริงจากผู้ปฏิบัติในพื้นที่โดยตรง ซึ่งที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ […]

กองทัพภาค 2 ปิดรับ “ลวดหนามหีบเพลง” หลังได้รับเพียงพอ

กทม. 13 ส.ค.-กองทัพภาคที่ 2 ปิดรับการสนับสนุน “ลวดหนามหีบเพลง” หลังได้รับเพียงพอ ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมเสริมความมั่นคงชายแดน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่เมื่อวานนี้ กองทัพภาคที่ 2 ได้มีการเปิดรับการสนับสนุนลวดหนามหีบเพลงจากทุกภาคส่วน เพื่อใช้ในการเสริมมาตรการป้องกันพื้นที่สำคัญ และเป็นอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัยให้กำลังพลแบบเร่งด่วน ปรากฏว่าได้รับการตอบรับและสนับสนุนจากรัฐบาล หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการสนับสนุนดังกล่าวถือเป็นกำลังใจสำคัญและมีส่วนอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างความพร้อมด้านการป้องกันพื้นที่ชายแดน โฆษกกองทัพบกกล่าวว่า ขณะนี้กองทัพภาคที่ 2 มีลวดหนามหีบเพลงเพียงพอต่อความต้องการใช้งานแล้ว เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เกิดการรับเกินความจำเป็น กองทัพภาคที่ 2 จึงขอปิดการรับการสนับสนุนลวดหนามหีบเพลงไว้แต่เพียงเท่านี้ พร้อมกันนี้ โฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า กองทัพภาคที่ 2 ขอขอบคุณทุกความร่วมมือและน้ำใจจากทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันสนับสนุนภารกิจปกป้องอธิปไตยของชาติ รวมถึงทางรัฐบาลและกระทรวงกลาโหมที่ได้ติดต่อให้การช่วยเหลือมาโดยตลอด ขอให้ทุกท่านมั่นใจว่าทรัพยากรที่ได้รับจะถูกนำไปใช้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศ.-313.-สำนักข่าวไทย

7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอดคืน “ไม่มีการปะทะ”

ทำเนียบ 13 ส.ค.- สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัด ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึงเช้าวันนี้ “ไม่มีการปะทะ” วันนี้ (13 สิงหาคม 2568) เวลา 07.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันอังคารที่ 12 สิงหาคม 2568 จนถึงเช้าวันนี้ (วันพุธที่ 13 สิงหาคม 2568 เวลา07.00 น.) เหตุการณ์บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา 7 จังหวัด ไม่มีการปะทะ      โดยกองทัพไทย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นอย่างแข็งขันใน 11 พื้นที่ใน 7 จังหวัด และพร้อมตอบโต้หากถูกรุกล้ำอธิปไตยทันที โดยฝ่ายไทย ยังยึดมั่นปฏิบัติตามข้อตกลงของการประชุม GBC ที่ผ่านมา […]

ชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอดคืนยังสงบ ปชช.ทยอยกลับบ้าน

ทำเนียบรัฐบาล 11 ส.ค.- “ไทยคู่ฟ้า” รายงานชายแดนไทย – กัมพูชา สงบ หลายพื้นที่ปลอดภัย ประชาชนทยอยกลับบ้าน ขณะที่ หน่วยงานเร่งเก็บกู้วัตถุระเบิดตกค้างเพื่อความปลอดภัยสูงสุด นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม 2568 จนถึงเช้าวันนี้ (วันจันทร์ ที่ 11สิงหาคม 2568) เหตุการณ์บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา 7 จังหวัด ไม่มีเหตุปะทะหรือความรุนแรงเกิดขึ้น ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา หลังการประชุม GBC มีแนวโน้มคลี่คลายลงอย่างต่อเนื่อง และหลายพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาภายใต้การดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานความมั่นคง อย่างไรก็ตาม บางพื้นที่ยังพบวัตถุระเบิดหรือวัตถุต้องสงสัยตกค้าง ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบและเก็บกู้เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ทั้งนี้ หากประชาชนพบพื้นที่ที่ยังไม่ปลอดภัยหรือพบวัตถุต้องสงสัย ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ หมายเลข 191 เพื่อประสานหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าดำเนินการ “รัฐบาลให้ความสำคัญทั้งการรักษาความสงบและการฟื้นฟูพื้นที่ชายแดนให้ปลอดภัยจากวัตถุระเบิดตกค้าง […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

1 6 7 8 9 10 37
...