เพื่อไทยขอทุกฝ่ายไม่สร้างชนวนขัดแย้งทางการเมือง

พรรคเพื่อไทย 3 ส.ค.- เพื่อไทย ย้ำกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยนัดชุมนุมสิทธิขั้นพื้นฐาน ขอ ทุกฝ่ายตระหนักไม่สร้างชนวนขัดแย้งทางการเมือง-ซ้ำเติมสถานการณ์เปราะบาง น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการนัดชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ว่า พรรคเพื่อไทยขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่าสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการชุมนุมโดยสงบนั้นเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคนในระบอบประชาธิปไตย และพรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะปกป้องหลักการดังกล่าวอย่างเต็มที่ แต่ขณะนี้ประเทศของเรากำลังเผชิญกับสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สังคมไทยต้องการความร่วมมือ ความเข้าใจ และความเป็นเอกภาพจากทุกภาคส่วน พรรคเพื่อไทยจึงขอความร่วมมือจากทุกกลุ่มทุกฝ่ายให้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการแสดงออกทางการเมือง โดยเฉพาะการแสดงออกที่เป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ หรือขยายความขัดแย้งของสังคมในช่วงเวลาที่เปราะบางนี้ “พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาลพร้อมฟังเสียงจากประชาชนทุกกลุ่ม แต่ขอให้ความเคลื่อนไหวตั้งอยู่บนฐานของความรับผิดชอบต่อส่วนรวม และไม่กลายเป็นชนวนของความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ ในช่วงเวลาที่ประเทศต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างสูงสุด” น.ส.ขัตติยา ระบุ .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ลงพื้นที่ชายแดนบ้านกรวด ให้กำลังใจทหาร-ชรบ.

บุรีรัมย์ 2 ส.ค.-“อนุทิน” ควง “ซาบีดา-สส.ภูมิใจไทย” ลงพื้นที่ชายแดนบ้านกรวด ให้กำลังใจ ทหาร-ชรบ. เผยคุยกับนายอำเภอในพื้นที่ แนะให้ชาวบ้านอยู่ศูนย์อพยพพ้นวันที่ 4 ส.ค.ไปก่อน แม้วันนี้สถานการณ์ดีขึ้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรมช.มหาดไทย และสส.ของพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่ชายแดนบริเวณ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ขณะนี้ยังได้รับคำแนะนำจากนายอำเภอ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่เป็นหลัก ว่าถ้าใครยังอยู่ที่ศูนย์อพยพขอให้อยู่เลยวันที่ 4 ส.ค. ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไปก่อน แม้สถานการณ์ในขณะนี้จะดีขึ้น แต่เรายังต้องเฝ้าระวังเรื่องโดรนกันอย่างเต็มที่ เพราะยังมีการบินเข้ามา ซึ่งมีวัตถุประสงค์อย่างไรต้องรอฝ่ายทหารเป็นผู้ประเมิน ในส่วนของเจ้าหน้าที่ไทยก็ต้องสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนเท่าที่จะทำได้ ขณะที่ สส.ในพื้นที่ก็ทำหน้าที่ดูแลชาวบ้าน ขอร้องให้อยู่ในที่ที่ปลอดภัย.-315.-สำนักข่าวไทย

สธ.จัดทีมเต็มที่ดูแลสุขภาพประชาชนชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 2 ก.ค.-สธ.รายงานรัฐบาล จัดทีมเต็มที่ดูแลสุขภาพประชาชนชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอดการปะทะจนถึงปัจจุบัน พร้อมส่งทีมแพทย์-จิตอาสาหนุนแนวหน้าเต็มกำลัง นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลรับรายงานจากกระทรวงสาธารณสุข ยังคงเดินหน้าดูแลประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชาอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ (ข้อมูล ณ วันศุกร์ที่ 1 สค. 68) เปิดศูนย์อพยพประชาชนใน 5 จังหวัด จำนวน 676 แห่ง รองรับประชาชนแล้วกว่า 395,000 คน และยังมีผู้พักอาศัยอยู่ในศูนย์ฯ 167,121 คน โดยกลุ่มเปราะบางที่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ได้แก่ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก ผู้ป่วยติดเตียง และผู้พิการ ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทีมปฏิบัติการแพทย์และฉุกเฉิน 1,161 ทีม และมีทีมแพทย์–จิตอาสา (STANDBY) พร้อมสนับสนุนอีกเกือบ 2,000 คน ครอบคลุมทั้งแพทย์ พยาบาล เภสัชกร และสหวิชาชีพอื่น ๆ สำหรับภารกิจเยียวยาใจประชาชน มีการให้คำปรึกษาด้านจิตใจไปแล้วกว่า 55,000 […]

รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final […]

“ประเสริฐ” ลงพื้นที่ศรีสะเกษ ร่วมไว้อาลัยผู้สูญเสีย

ศรีสะเกษ 2 ก.ค.-“ประเสริฐ” ลงพื้นที่ศรีสะเกษ ร่วมไว้อาลัยผู้สูญเสีย บริเวณปั๊มน้ำมันบ้านผือ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือและให้กำลังใจญาติผู้เสียชีวิต ย้ำรัฐบาลเร่งฟื้นฟูเยียวยาทุกมิติ มุ่งคืนสถานการณ์สู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษเพื่อติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายประเสริฐ ได้มอบเงินช่วยเหลือจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ให้แก่ญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบบริเวณชายแดน จำนวน 9 ราย จากนั้นนายประเสริฐ ได้นำคณะเยี่ยมให้กำลังใจและมอบสิ่งของจำเป็นที่ได้รับการบริจาคจากคนไทยทั้งประเทศที่ส่งผ่านน้ำใจร่วมกับทางไปรษณีย์ไทยให้แก่ผู้ประสบภัยที่ศูนย์อพยพ ในอำเภอกันทรลักษ์ พร้อมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางการดูแลและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเป็นระบบ นายประเสริฐ ได้สั่งการให้สํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดศรีสะเกษ เร่งรวบรวมเอกสารของผู้ประสบภัยที่เหลือให้ครบถ้วนโดยด่วน, ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษติดตามการเบิกจ่ายอย่างเร่งด่วน, ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานเร่งรัดการตรวจสอบผู้ประสบภัยที่เหลืออีก 24 ราย โดยเร็ว และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสํารวจโครงสร้างพื้นฐาน ถนนหนทาง โรงพยาบาล โรงเรียน วัดวาอาราม บ้านเรือนประชาชน แหล่งโบราณสถาน โบราณวัตถุ เพื่อขอรับการช่วยเหลือต่อไป จากนั้น นายประเสริฐและคณะเดินทางร่วมวางดอกไม้ไว้อาลัย ณ สถานเกิดเหตุความรุนแรงบริเวณสถานีบริการน้ำมันบ้านผือ อำเภอกันทรลักษณ์ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย อีกทั้งได้เดินทางตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ทำการไปรษณีย์ในอำเภอกันทรลักษ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานด่านหน้าที่มีบทบาทในการสนับสนุนการสื่อสารและช่วยเหลือประชาชนในช่วงวิกฤติ นายประเสริฐ กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนรัฐบาลและตัวแทนนางสาวแพทองธาร […]

รัฐบาล ชื่นชม ปภ.ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุปะทะ

ทำเนียบ 2 ก.ค.-รัฐบาล ชื่นชม ปภ.ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุปะทะ ทุกพื้นที่ทันเหตุการณ์ หลังจัดศูนย์พักพิง 759 แห่ง รองรับผู้ได้รับผลกระทบกว่า 8 แสนคน นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา และยังคงส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด รัฐบาลโดย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ได้จัดการประชุมติดตามสถานการณ์ภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยมีการเน้นย้ำให้ 7 จังหวัดชายแดน ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด เร่งบูรณาการความช่วยเหลือในทุกด้านอย่างทั่วถึงและทันท่วงที จากการติดตามสถานการณ์จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 พบว่าพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 45 อำเภอ 336 ตำบล 4,085 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 839,000 คน เสียชีวิต 17 […]

รัฐบาลให้ สปสช. สนับสนุนท้องถิ่น ใช้งบง่ายขึ้น เพื่อดูแลกลุ่มเปราะบาง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลให้ สปสช. สนับสนุนท้องถิ่น ให้ใช้งบผ่านกองทุนท้องถิ่นของ สปสช.ได้ง่ายขึ้น เพื่อดูแลกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ชายแดน นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และบุรีรัมย์ ทำให้มีประชาชนจำนวนหนึ่งต้องอพยพข้ามเขตพื้นที่เดิม และในกลุ่มนี้มีผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงซึ่งต้องการการดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการได้รับวัสดุทางการแพทย์ เช่น ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ เป็นต้น เพื่อรองรับความต้องการดังกล่าว รัฐบาล โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้อนุญาตให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่รับผิดชอบพื้นที่ที่มีผู้อพยพ สามารถใช้งบประมาณจาก “กองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่” (กปท.) ซึ่งเป็นงบสนับสนุนร่วมระหว่าง อปท. และ สปสช. จัดซื้อผ้าอ้อมผู้ใหญ่ให้กับผู้มีภาวะพึ่งพิงได้ แม้จะไม่ได้อยู่ในเขตรับผิดชอบเดิมของ อปท. นั้น ๆ หากเจ้าหน้าที่ รพ.สต. หรือเจ้าหน้าที่ อปท. ยังไม่ทราบรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 […]

กองทัพบก ยกระดับมาตรการรับมือภัยคุกคามจากโดรน

กทม. 2 ส.ค.-กองทัพบกบูรณาการทุกภาคส่วน ยกระดับมาตรการรับมือภัยคุกคามจากโดรน หลังพบมีความพยายามบินตรวจการณ์ที่ตั้งทางทหาร ตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2568 เรื่องห้ามมิให้ผู้ใดบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน หรือ “โดรน” ที่ควบคุมการบินจากภายนอก, ทุกวัตถุประสงค์การใช้งาน, และทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาในปัจจุบัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารหรือหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ได้รับมอบหมาย มีอำนาจในการใช้ระบบต่อต้านโดรน (Anti-Drone System) รวมถึงสามารถดำเนินการทำลายโดรนจากภาคพื้นดินได้ทันที ในการนี้ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ถึง 4 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 1 ถึง 4 ดำเนินมาตรการตามแนวทางดังต่อไปนี้ •ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด โดยมีรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ฝ่ายทหาร) เป็นผู้รับผิดชอบในการหารือและประสานการปฏิบัติกับส่วนราชการ หน่วยงาน และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยให้ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคเป็นผู้ทำหน้าที่ควบคุมและวางแผนภาพรวมในการป้องกันและต่อต้านการใช้โดรนไม่ทราบฝ่าย •ให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ จังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัด หน่วยงานความมั่นคง ภาคเอกชน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจัดตั้งชุดเคลื่อนที่เร็ว ประกอบด้วยกำลังจากฝ่ายพลเรือน ตลอดจนตำรวจจากสถานีตำรวจภูธร […]

ครม.นัดพิเศษ เคาะงบกลางเยียวยา 7 จังหวัดชายแดน

ทำเนียบ 1ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย ครม.นัดพิเศษ เคาะงบกลางเยียวยา 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา มอบหน่วยงานไปพิจารณาตัวเลขก่อนชงเข้า ครม. 5 ส.ค.นี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษวันนี้ว่า เรื่องแรก ที่ได้มีการหารือคือกรณี ภาษีสหรัฐฯ โดยมอบหมายให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้แถลงรายละเอียด ส่วนอีกเรื่องคือการปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์วิธีการ ในการใช้งบประมาณรายจ่าย จากงบกลางเพื่อจ่ายให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะรุนแรงที่ชายแดนไทยกัมพูชา 7 จังหวัด เพื่อจะดูเรื่องค่าใช้จ่ายจากการบาดเจ็บ เสียชีวิต ทุพพลภาพ รวมถึงความเสียหายของบ้านเรือน โดยจะใช้กรณีพิเศษในการดูแลเรื่องนี้ โดยยังไม่ได้พิจารณาเรื่องตัวเลข แต่จะมากกว่าที่เคยประกาศไว้ โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษได้รับมตินี้และมอบหมายให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักนายกรัฐมนตรีไปพิจารณาหารือ เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง วันอังคารที่ 5 สิงหาคมนี้ ซึ่งหากจะใช้งบกลางก็สามารถหยิบไปจ่ายได้ทันที.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลใช้ 5 กองทุนเร่งเยียวยาประชาชนจากชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 31 ก.ค.-รัฐบาลใช้ 5 กองทุนเร่งเยียวยาประชาชนจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ ผวจ.ศรีสะเกษ ให้พลังงานจังหวัด แรงงาน ลดขั้นตอนเร่งช่วย ธ.กรุงไทย ช่วยดูแลภาระหนี้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า มาตรการและแนวทางดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต จากกองทุนต่างๆ ดังนี้ 1.กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้ กรณีเสียชีวิต รายละ 1,000,000 บาท กรณีทุพพลภาพ รายละ 700,000 บาท กรณีบาดเจ็บสาหัส รายละ 200,000 บาท กรณีบาดเจ็บมาก รายละ 100,000 บาท กรณีบาดเจ็บเล็กน้อย รายละ 50,000 บาท2.กองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม3.เงินเยียวยาจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์4.เงินเยียวยาจากกระทรวงมหาดไทย (ปภ)5.การช่วยเหลือจากหน่วยงานตามสิทธิที่เกี่ยวข้องอื่นๆอาทิ กระทรวงพลังงาน กระทรวงแรงงาน เป็นต้น กรณีความคืบหน้าสถานีบริการน้ำมัน ปตท. […]

พรุ่งนี้ รัฐบาลพาคณะทูต ทูตทหาร ลงพื้นที่จริงชายแดน

ทำเนียบ 31 ก.ค.-พรุ่งนี้ รัฐบาลพาคณะทูต ทูตทหาร สื่อไทย-เทศ ลงพื้นที่จริงชายแดน ให้เห็นกับตาว่าไทยถูกถล่มบ้านเรือนประชาชน โรงเรียน และโรงพยาบาล อย่างโหดเหี้ยมขนาดไหนในเชิงประจักษ์ ไม่ต้องโกหกหรือหลอกลวงไปวันๆเหมือนกัมพูชา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่าในวันพรุ่งนี้ ศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2568 รัฐบาล โดยคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และ สำนักนายกรัฐมนตรี โดยกรมประชาสัมพันธ์ จะนำคณะทูต และผู้ช่วยทูตทหารประจำสถานเอกอัครราชทูตในประเทศไทย รวมทั้งสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ลงพื้นที่ชายแดนจังหวัดศรีสะเกษและอุบลราชธานี เพื่อสังเกตการณ์สถานที่ที่ที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตี พื้นที่พลเรือนจากสถานการณ์ ชายแดนไทย–กัมพูชา ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญคณะทูตานุทูต และผู้ช่วยทูตทหาร รวม 24 ประเทศ สื่อมวลชนไทย ประมาณ 110 คน จาก 18 หน่วยงาน/สำนักข่าวและสื่อต่างประเทศประมาณ 40 คนจาก 26 สำนักข่าวลงพื้นที่ เพื่อสื่อสารให้ประชาคมโลกทราบถึงข้อมูลหลักฐานที่เป็นข้อเท็จจริง […]

ธ.ก.ส. ช่วยครอบครัวทหาร และ ตชด. เสียชีวิตยกหนี้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยทุกสัญญาเงินกู้

กรุงเทพฯ 31 ก.ค.-บอร์ด ธ.ก.ส. เห็นชอบช่วยเหลือครอบครัวทหาร และ ตชด. วีรบุรุษผู้เสียสละชีวิต เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา กรณีญาติเป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ยกหนี้เงินต้น ดอกเบี้ย-ทุกสัญญา ใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. ให้ความช่วยเหลือและสงเคราะห์ลูกหนี้ นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา อันส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของเกษตรกรลูกค้าของธนาคาร โดยมีทั้งทหารและประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ตลอดจนที่อยู่อาศัยรวมถึงพื้นที่ทำกินได้รับความเสียหาย และเพื่อให้ความช่วยเหลือและสงเคราะห์ลูกหนี้ และลดภาระให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้อย่างมั่นคง ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร วันนี้ (31 กรกฎาคม 2568) โดยมีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธ.ก.ส. เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ กรณีบุตร คู่สมรส ของลูกค้า ธ.ก.ส. ที่เป็นทหาร หรือ ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา โดยธนาคารจะยกหนี้ในส่วนของต้นเงินกู้ทุกสัญญา และยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยค้างรับและดอกเบี้ยปรับ […]

1 13 14 15 16 17 38
...