กต.ยันไทยไม่เคยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ผิดหวัง “กัมพูชา” ปล่อยเฟกนิวส์

ก.ต่างประเทศ 30 ก.ค.-กต.ยืนยันไทยไม่เคยละเมิดข้อตกลงหยุดยิงแม้แต่ครั้งเดียว ผิดหวัง “กัมพูชา” ปล่อยเฟกนิวส์ แจงไทยไม่เคยใช้อาวุธเคมี ขออย่าบิดเบือนคำพูดว่าที่ทูตสหรัฐฯ คนใหม่ จ่อพาทูตทหารลงพื้นที่ชายแดนภายในสัปดาห์นี้ ชี้ไม่ได้ล่าช้า แต่คำนึงถึงความปลอดภัย นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กระทรวงการต่างประเทศ ณ กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช เปิดเผยถึงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา นับตั้งแต่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้เวลา 24.00 น.ของวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมาจนถึงช่วงเช้ามืดของวันนี้ ฝ่ายความมั่นคงของไทยมีหลักฐานที่ชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงหลายครั้งหลายพื้นที่ เช่น การยิงปืนเล็ก และลูกระเบิดเข้ามาในเขตแดนของไทย ยืนยันว่าฝ่ายไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ ตั้งแต่พบการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ไทยได้ส่งหนังสือแจ้งเรื่องการละเมิดไปยังประเทศมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน รวมถึงสหรัฐอเมริกาและจีน ในฐานะสักขีพยานในการเจรจาหยุดยิง ทั้งยังมีหนังสือไปถึงเลขาธิการสหประชาชาติไปแล้วเมื่อวานนี้ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้จนถึงช่วงเช้าวันนี้ หน่วยงานความมั่นคงพบการละเมิดข้อตกลง กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์การละเมิดดังกล่าว ซึ่งการดำเนินการควบคู่ไปกับการแถลงการณ์ประณามกัมพูชาของกองทัพบกและกองทัพไทย โดยเมื่อวานนี้นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้พบกับนายบุ่ย แทงห์ เซิน รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ซึ่งเดินทางมาที่ไทยเพื่อหารือประเด็นดังกล่าว ในฐานะสมาชิกอาเซียนและประเทศเพื่อนบ้าน นายมาริษ ได้อธิบายถึงท่าทีของไทยและข้อเท็จจริงบนพื้นที่ว่าเกิดอะไรขึ้นและการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดจริงของฝ่ายกัมพูชา นายบุ่ย ได้สนับสนุนท่าทีของไทยในการหาข้อยุติอย่างสันติวิธีโดยกลไกทวิภาคี […]

“ภูมิธรรม” ไม่กังวล กัมพูชาชิงความได้เปรียบ

ก.มหาดไทย 30ก.ค.-“ภูมิธรรม” ไม่กังวล กัมพูชาชิงความได้เปรียบ พาทูตต่างชาติลงพื้นที่ชายแดนก่อนไทย กำชับ ผบ.ตร. เร่งเก็บหลักฐานความเสียหาย ไม่หวั่นข่าวเท็จปล่อยเรื่อยๆ ทุกอย่างว่าตามความจริง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กองทัพบกเตรียมพาผู้ช่วยผู้ทหารชาติต่างๆ ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อดูความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการปะทะ จะช้าไปหรือไม่ เพราะกัมพูชาพาผู้ช่วยทูตทหารและสื่อต่างชาติลงพื้นที่ไปแล้ววันนี้ ว่า ใครไปก่อนไปหลังไม่เป็นไร แต่ตนได้พูดกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไปแล้วว่า ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บหลักฐานทั้งหมดให้เร็ว ก่อนที่ประชาชนจะกลับเข้าบ้าน ส่วนที่ชาวบ้านอุบลราชธานี กังวลใจ เพราะกัมพูชาไปชี้จุดบริเวณช่องอานม้า ให้ต่างชาติเข้าใจว่าเป็นพื้นที่ของกัมพูชานั้น นายภูมิธรรม บอกว่า ไม่ต้องกลัว ไม่ใช่อยู่ๆ จะอ้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้จริง และไม่กังวลเรื่องข่าวเท็จที่ปล่อยออกมาเรื่อยๆ เพราะทุกอย่างต้องว่าไปตามสิ่งที่เป็นจริง.-319.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. ย้ำทหารกัมพูชาคุกคามไทยจนถึงวันนี้ หลังข้อตกลงหยุดยิง

ทำเนียบ 30 ก.ค.-ศบ.ทก. ย้ำทหารกัมพูชายังคุกคามไทยจนถึงวันนี้ หลังข้อตกลงหยุดยิง ยันฝ่ายไทยมีความพร้อมร่วมประชุม GBC 4 ส.ค.นี้ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม​ พร้อมด้วยนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และนพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ ประจำวันพุธที่ 30 กรกฎาคม​ 2568 ว่า จากที่มีการพูดคุยเจรจาหยุดยิง 2 ฝ่าย ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้ (30 ก.ค.) ยังคงปรากฏการณ์คุกคามของทหารกัมพูชา 4 เหตุการณ์ คือ 1.พื้นที่ช่องอานม้า จังหวัดศรีสะเกษในวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 21.30 น. กองทัพกัมพูชาใช้อาวุธปืนเล็กยิงเข้าใส่แนวกำลังฝ่ายไทย เป็นเหตุให้เกิดการปะทะจนถึงเวลา 22.00 น. จึงยุติ2.พื้นที่เขาพระวิหาร […]

“บิ๊กเล็ก” ทำงานเชื่อมกองทัพได้ดี ยังไม่คิดตั้ง รมว.กลาโหม

ก.มหาดไทย 30 ก.ค.-“ภูมิธรรม” บอก “บิ๊กเล็ก” ทำงานเชื่อมกองทัพ และป้องกันภัยคุกคามได้ดี ยังไม่คิดตั้ง รมว.กลาโหม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ กล่าวถึงในสถานการณ์ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาในขณะนี้จำเป็นที่รัฐบาลจะต้องตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือไม่ว่า วันนี้เรื่องสำคัญคือสู้กับประเทศกัมพูชา และขณะนี้ยังจับมือกันได้ดี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาการรมว.กลาโหม ยังทำงานได้ดี เป็นคนเชื่อมประสานกับกองทัพได้ดีอยู่แล้ว ตนคิดว่าไม่มีอะไรต้องคิดนอกลู่นอกทาง หรือนอกเส้นทาง สิ่งที่เราทำวันนี้ คือร่วมมือกันจับมือช่วยเหลือกันสู้กับภัยที่คุกคามประเทศอยู่.-319.-สำนักข่าวไทย

ประชาชนที่ศูนย์พักพิง เครียด 600 คน เสี่ยงฆ่าตัวตาย 142 คน

ทำเนียบ 30 ก.ค.-ศบ.ทก. เผยยอดพลเรือนเสียชีวิต 15 ราย จากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน สธ. ส่งทีมบุคลากรการแพทย์ เข้าดูแลสุขภาพจิตประชาชนที่ศูนย์พักพิง พบมีความเครียด 600 คน เสี่ยงฆ่าตัวตาย 142 คน นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย- กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า ข้อมูลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชา ณ วันที่ 30 กรกฎาคม เวลา 10:00 น. พลเรือนที่ได้รับผลกระทบ 53 ราย เสียชีวิต 15 ราย ที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์พลเรือนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสมีจำนวน 12 ราย บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 13 รายปัจจุบันมีพลเรือนกำลังแอดมิทในโรงพยาบาล 11 ราย เคสที่สาหัส 8 ราย และบาดเจ็บปานกลาง […]

SME D Bank ออกมาตรการช่วยเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 30 ก.ค.-SME D Bank ออกมาตรการช่วยเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา รองรับคลัง และ ธปท. ทั้ง พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย สูงสุด 12 เดือน ควบคู่เติมทุนฉุกเฉิน เพื่อซ่อมแซมฟื้นฟูกิจการ นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ความไม่สงบจากเหตุปะทะตามแนวพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชน รวมถึง การดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งทางตรงและทางอ้อม SME D Bank มีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม หลังจากมีมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนเบื้องต้นไปแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ต้องการให้สถาบันการของรัฐเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา สำหรับมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมดังกล่าว ครอบคลุมความช่วยเหลือในพื้นที่ 7 จังหวัด ประกอบด้วย ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี สระแก้ว จันทบุรี และตราด มุ่งเน้นช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี […]

มท.เคาะเงินเยียวยาช่วยชาวบ้านชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 29 ก.ค.-มหาดไทย เคาะเงินเยียวยาช่วยชาวบ้าน 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา เสียชีวิตรับเงินเยียวยารายละ 1 ล้าน บาดเจ็บรายละ 5 หมื่นถึง 2 แสนบาท พร้อมประสานไฟฟ้า-ประปา งดเก็บค่าน้ำค่าไฟศูนย์อพยพทุกจุด ย้ำชาวบ้านอย่าเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ ขอให้รอประกาศจากฝ่ายความมั่นคง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมผ่านระบบ Video Conference กับผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดชายแดน ประกอบด้วยบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี ตราด และสระแก้ว โดยวาระการประชุมวันนี้ เป็นการติดตามสถานการณ์ในพื้นที ทั้งการบริหารจัดการศูนย์อพยพ / การพิจารณาขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าฯ จังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง นางสาวธีรรัตน์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เชิญผู้ว่าฯ ทั้ง 7 จังหวัด ทำความเข้าใจให้ตรงกันหลัง ครม.อนุมัติงบประมาณ ว่าสามารถเบิกจ่าย นำไปใช้อะไรได้บ้าง ส่วนเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตรายละ […]

รัฐบาล ย้ำวอร์รูม ศบ.ทก. ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง

ทำเนียบ 29 ก.ค.-รัฐบาล ย้ำวอร์รูม ศบ.ทก. ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ยืนยันช่วงบ่ายถึงค่ำวันนี้ เสียงปืนเบาลง หลังจากกองทัพภาคที่ 1-2 รวมทัพเรือไทย ตั้งโต๊ะพูดคุยกับผู้บัญชาการภูมิภาค 4-5 ของกัมพูชา พร้อมสั่งการ ศบ.ทก. ประชุมประเมินสถานการณ์พรุ่งนี้อีกครั้ง ก่อนแจ้งส่งประชาชนคืนพื้นที่เมื่อสถานการณ์ปลอดภัย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลสั่งการให้วอร์รูมที่จัดตั้งขึ้นในนามของ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) โดยมีพลเอกณัฐพล นาคพานิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นหัวหน้าศูนย์เฉพาะกิจฯ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาและให้เป็น “วอร์รูม” ศูนย์รวมในการสั่งการและรับข้อมูลจากทุกภาคส่วนเพื่อประเมินสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะหลังจากการเจรจาหยุดยิงที่เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซียวานนี้ ศูนย์เฉพาะกิจฯ ได้ประชุมและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงโดยจะรับฟังข้อมูลจากพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 และกองทัพเรือที่ดูแลจังหวัดจันทบุรีและตราด ศบ.ทก. จะมอนิเตอร์ข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งสถานการณ์ชายแดน 7 จังหวัดอย่างต่อเนื่อง และหากมีเหตุการณ์สำคัญหรือภารกิจเร่งด่วน ก็ให้ดำเนินการประสานงานสั่งการกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง […]

SME D Bank เป็นกำลังใจประชาชน ทหาร ชายแดน

กรุงเทพฯ 29 ก.ค.-SME D Bank ร่วมเป็นกำลังใจสำคัญส่งมอบสิ่งของอำนวยความสะดวก ให้แก่ประชาชน ทหาร ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank โดยนายเจษฎา ช.เจริญยิ่ง รองกรรมการผู้จัดการ พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ เป็นตัวแทนเดินทางลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ เพื่อเป็นกำลังใจและส่งมอบสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันต่าง ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน ผู้บริหาร และพนักงาน SME D Bank แก่ผู้ประสบภัยจากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยส่งมอบแก่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ สถานที่รักษาผู้ป่วยจากเหตุการณ์ไม่สงบของชายแดน โดยมี นพ.ภูวดล กิตติวัฒนาสาร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุรีรัมย์ เป็นผู้รับมอบ และส่งมอบแก่ศูนย์พักพิงภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตสุรินทร์ ปัจจุบันมีประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนอาศัยอยู่ประมาณ 4,000 คน โดยมีตัวแทนจากอำเภอเมืองสุรินทร์ เป็นผู้รับมอบ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ SME D Bank สำนักงานใหญ่ ได้เปิดศูนย์รับกำลังใจร่วมสนับสนุนอาหาร […]

คลังออกมาตรการช่วยเหลือชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 29 ก.ค.-คลังออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ทั้งระดับพื้นที่และผ่านสถาบันการเงินของรัฐ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ มาตรการในระดับพื้นที่ และมาตรการของสถาบันการเงินของรัฐ 1.มาตรการในระดับพื้นที่1.ขยายวงเงินทดรองราชการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดละ 100 ล้านบาท และพร้อมพิจารณาขยายเพิ่มหากไม่เพียงพอ เพื่อให้จังหวัดสามารถบริหารจัดการได้อย่างคล่องตัวและตอบโจทย์ความต้องการในพื้นที่2.อำนวยความสะดวกในการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่เกี่ยวข้องกับภารกิจด้านความมั่นคงให้สามารถดำเนินการได้อย่างเร่งด่วน ผ่านวิธีเฉพาะเจาะจง3.เตรียมมาตรการด้านสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือประชาชนผ่านธนาคารของรัฐ เช่น ธ.ก.ส. โดยจะให้สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องแก่เกษตรกร รวมถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ (soft loan) สำหรับผู้ได้รับความเสียหาย 2.มาตรการด้านภาษีเลื่อนเวลาการยื่นแบบและการชำระภาษี ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ จากเดิมระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม 2568 เป็นภายในวันที่ 30 กันยายน 2568 นอกจากนี้ ประชาชนสามารถหักลดหย่อนค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัยจากเหตุการณ์ความเสียหายได้ตามจริงไม่เกิน 100,000 บาท และสำหรับยานพาหนะไม่เกิน […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]

รัฐบาลไทยย้ำ ไม่มีทางที่จะใช้อาวุธชีวภาพในกัมพูชา

ทำเนียบ 29 ก.ค.-รัฐบาลไทยย้ำ ไม่มีทางที่จะใช้อาวุธชีวภาพในกัมพูชา เพราะเป็นการปะทะชายแดนเท่านั้น ชี้ข่าวจากเฟซบุ๊กปลอมเป็นความพยายามบิดเบือน สร้างความแตกแยกในภูมิภาค นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า จากกรณีสื่อมวลชนกัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลโดยอ้างอิงจาก “เฟซบุ๊กแฟนเพจ” ซึ่งระบุว่าเป็นของกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และมีการกล่าวหาอย่างร้ายแรง ว่าไทยใช้อาวุธชีวภาพในการโจมตีในพื้นที่ชายแดนนั้น รัฐบาลขอปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวโดยสิ้นเชิง และคาดว่า เฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นบัญชีปลอม และเป็นความพยายามอย่างชัดแจ้งในการบิดเบือนข้อเท็จจริง รัฐบาลยืนยันว่า การปฏิบัติการของกองทัพไทยอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention: CWC) และองค์การห้ามอาวุธเคมี (Organisation for the Prohibition of Chemical Weapons: OPCW) ประเทศไทยไม่มีนโยบายหรือแนวปฏิบัติในการใช้หรือพัฒนาอาวุธชีวภาพหรืออาวุธต้องห้ามใดๆ ทั้งสิ้น การปะทะที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการป้องกันอธิปไตยตามแนวชายแดน มิใช่สงครามเต็มรูปแบบ และกองทัพไทยยังคงดำรงจริยธรรมทางการทหารอย่างสุภาพบุรุษเสมอมา ทั้งนี้ ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีสามารถตรวจจับสารพิษตกค้างหรือการใช้อาวุธต้องห้ามได้อย่างแม่นยำ ไม่สามารถปกปิดได้ในเวทีระหว่างประเทศ หากไทยใช้อาวุธชีวภาพจริง ย่อมมีการตรวจพบโดยองค์การสหประชาชาติและหน่วยงานด้านความมั่นคงทั่วโลกแล้ว รัฐบาลไทยขอเตือนประชาชนและสื่อมวลชนให้ใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบในการรับข้อมูลจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจที่ไม่มีการยืนยันตัวตนอย่างเป็นทางการ และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือบิดเบือนที่อาจบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมเน้นย้ำจุดยืนของไทยในการลดความตึงเครียดและผลักดันการเจรจาสันติภาพอย่างยั่งยืนในภูมิภาค.-314.-สำนักข่าวไทย

1 10 11 12 13 14 32
...