To Lam Secretary of Vietnam's Communist Party

ผู้นำเวียดนามหารือความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับทรัมป์

ฮานอย 12 พ.ย.- นายโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสนทนาทางโทรศัพท์กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความยินดีที่ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และหารือหนทางกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกัน พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเผยแพร่แถลงการณ์ในเว็บไซต์วันนี้ว่า นายโต เลิมได้กล่าวระหว่างสนทนาทางโทรศัพท์กับนายทรัมป์เมื่อวานนี้ว่า เวียดนามพร้อมส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีระยะยาวและยั่งยืน เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ขณะที่นายทรัมป์แสดงความชื่นชมความสัมพันธ์กับเวียดนามและความร่วมมือระหว่างกัน และต้องการเดินหน้าส่งเสริมต่อไป นอกจากนี้ผู้นำทั้ง 2 คนยังได้เชิญอีกฝ่ายเยือนประเทศตนเองด้วย ทรัมป์เคยเยือนเวียดนาม 2 ครั้งขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรก ครั้งแรกเป็นการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเปคปี 2560 ที่เมืองดานัง และครั้งที่ 2 เป็นการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 กับนายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือที่กรุงฮานอยปี 2562 สหรัฐเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของเวียดนาม และเมื่อเดือนกันยายน ปี 2566 ทั้ง 2 ประเทศได้ยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุม ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ระดับสูงสุดของเวียดนาม เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญด้านห่วงโซ่อุปทานเผยกับรอยเตอร์เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เวียดนามอาจเผชิญกับความผันผวนทางการค้าภายใต้รัฐบาลทรัมป์ เพราะในขณะที่เวียดนามอาจได้ประโยชน์จากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่เพิ่มขึ้น แต่ก็เสี่ยงได้รับผลกระทบทางอ้อมจากมาตรการปกป้องทางการค้าของทรัมป์.-814.-สำนักข่าวไทย  

Thousands of bike riders clog roads in China’s Zhengzhou in pursuit of dumpling soup

นักศึกษาจีนแห่ปั่นจักรยานไปกิน “กวนทังเปา” จนรถติด

เจิ้งโจว 11 พ.ย.- กลุ่มนักศึกษาหลายหมื่นคนในจีนรวมตัวกันปั่นจักรยานไปรับประทาน “กวนทังเปา” ต่างเมืองตั้งแต่เช้ามืด เป็นเหตุให้การจราจรติดขัด  โดยเป็นหนึ่งในกระแสใช้จ่ายอย่างประหยัดที่หนุ่มสาวชาวจีนกำลังนิยมอยู่ในขณะนี้ ผู้คนในมณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางค่อนไปทางใต้ของจีน และเป็นมณฑลที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศตื่นมาพบกับช่วงเช้ามืดเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ไม่เหมือนทุกเช้าที่ผ่านมา เมื่อกลุ่มนักศึกษาหลายหมื่นคนพากันขี่จักรยานไปตามถนนในเมืองเจิ้งโจวที่เป็นเมืองเอกของมณฑล ไปยังเมืองไคเฟิง ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่มี “กวนทังเปา” เป็นอาหารขึ้นชื่อ เป็นซาลาเปาที่มีน้ำซุปอยู่ข้างในคล้ายเสี่ยวหลงเปา โดยขี่ไปตามถนนเลียบแม่น้ำเหลืองเป็นระยะทางยาวกว่า 60 กิโลโมตร สร้างความโกลาหลให้กับเจ้าหน้าที่และตำรวจที่ต้องจัดการดูแลการจราจรและความปลอดภัย ผู้ร่วมขี่จักรยานเรียกกิจกรรมนี้ว่า “กองทัพนักขี่กลางคืน” เป็นส่วนหนึ่งของกระแสนิยมในหมู่หนุ่มสาวชาวจีนที่จะทำตัวเป็นกองกำลังพิเศษเสาะแสวงหาของราคาถูก และจะใช้จ่ายเงินให้น้อยเท่าที่จะเป็นไปได้ ในช่วงเวลาที่หางานยากและค่าจ้างแรงงานต่ำลง .-812(814).-สำนักข่าวไทย

ครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน

ในปี 2568 เป็นอีกหนึ่งวาระสำคัญแห่งการเฉลิมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ซึ่งจะครบรอบ 50 ปี รัฐบาลทั้งสองประเทศจะจัดกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์เชิงวัฒนธรรมการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี

จีนเปิดตัวเครื่องบินขับไล่ล่องหนรุ่นใหม่ในนิทรรศการอากาศยาน

เครื่องบินขับไล่ตระกูลสเตลท์ (Stealt) หรือเครื่องบินขับไล่ล่องหน รุ่นเจ-35เอ (J-35A) ของจีนเผยโฉมต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในวันนี้ในนิทรรศการการบินและอวกาศนานาชาติจีน ครั้งที่ 15

จีนเรียกร้องยกระดับความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ครั้งที่ 8 ในวันพฤหัสบดี โดยเรียกร้องให้สมาชิกอนุภูมิภาคฯ ทั้ง 6 ประเทศ

“สี จิ้นผิง” พบหารือนายกฯ มาเลเซีย

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พบปะหารือกับอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ณ กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน เมื่อวันพฤหัสบดี (7 พ.ย.) โดยเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้โอกาสในวาระครบรอบ 50 ปี

จีนให้ความสำคัญกับเมียนมาในการทูตกับประเทศเพื่อนบ้าน

นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน ระบุในวันพุธว่า ในการสานสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศเพื่อนบ้านของจีนนั้น จีนได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์กับเมียนมาโดยเสมอมา

นายกฯ เสร็จสิ้นการประชุมผู้นำ GMS และ ACMECS SUMMIT

นายกรัฐมนตรี เสร็จสิ้นการประชุมผู้นำ GMS และ ACMECS SUMMIT ยืนยัน ไทยพร้อมร่วมสร้างอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงให้เป็นประชาคมที่เข้มแข็ง โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

Trump and Nguyen Phu Trong in Vietnam in 2019

เวียดนามเสี่ยงถูกลูกหลงจากนโยบาย “ทรัมป์”

ฮานอย 7 พ.ย.- เจ้าหน้าที่เวียดนามและผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า เวียดนามกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนทางการค้าภายใต้รัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ เพราะอาจได้รับลูกหลงจากนโยบายปกป้องทางการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ที่ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี เตรียมเป็นผู้นำสหรัฐคนที่ 47 เวียดนามเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ไปสหรัฐ และมีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐ 90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3 ล้านล้านบาท) นับจนถึงเดือนกันยายน เป็นคู่ค้าที่เกินดุลกับสหรัฐมากเป็นอันดับ 4 รองจากจีน สหภาพยุโรป และเม็กซิโก และเป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการที่สหรัฐขึ้นภาษีสินค้าจีน ซึ่งเป็นนโยบายที่เริ่มมาใช้มาตั้งแต่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรกในปี 2560-2564 เจ้าหน้าที่เวียดนามระบุว่า การที่ทรัมป์ขู่ว่าจะขึ้นภาษีสินค้าจีนสูงถึงร้อยละ 60 หากได้รับเลือกตั้งอีกสมัย เป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะที่ผ่านมาเวียดนามเกินดุลการค้าสหรัฐ ส่วนหนึ่งเพราะเป็นสถานที่ประกอบชิ้นส่วนที่ส่วนใหญ่ผลิตในจีน นอกจากนี้ทรัมป์ยังขู่จะขึ้นภาษีสูงสุดร้อยละ 20 กับสินค้านำเข้าจากทุกประเทศด้วย บริษัทกฎหมายสากลแห่งหนึ่งในเวียดนามชี้ว่า เวียดนามมีความเสี่ยงสูงที่จะตกเป็นเป้าหมายของมาตรการปกป้องทางการค้าและได้รับลูกหลง แต่ในขณะเดียวกันมาตรการปกป้องทางการค้าของทรัมป์อาจเร่งให้เกิดการย้ายห่วงโซ่อุปทานจากจีนไปยังตลาดอื่น ๆ ซึ่งเวียดนามน่าจะเป็นจุดหมายแรก ๆ ของบริษัทที่คิดย้ายฐานการผลิตออกจากจีน นักการทูตในเวียดนามคนหนึ่งแนะว่า เวียดนามอาจลดยอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐได้ด้วยการสั่งซื้อสินค้าราคาสูงจากสหรัฐ เช่น ก๊าซธรรมชาติเหลวหรือแอลเอ็นจี (LNG) และเครื่องบินลำเลียงซี-130 ขณะที่นักลงทุนคนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า เวียดนามอาจได้ประโยชน์ เพราะองค์กรทรัมป์ที่เป็นกลุ่มธุรกิจของเขา เพิ่งเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทเวียดนามเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อพัฒนาโครงการสนามกอล์ฟและโรงแรมมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ […]

Trump and family on victory claiming stage

ชี้จีนเตรียมเผชิญกับ 4 ปีแห่งความขัดแย้งกับสหรัฐ

ปักกิ่ง 6 พ.ย.- นักวิเคราะห์แสดงความเห็นหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐว่า จีนจะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ขัดแย้งกันมากขึ้นกับสหรัฐในช่วง 4 ปีข้างหน้า ทั้งในประเด็นการค้า เทคโนโลยี และความมั่นคง นายตง จ้าว นักวิชาการอาวุโสของกองทุนบริจาคคาร์เนกีเพื่อสันติภาพสากลมองว่า จีนคาดว่าการแข่งขันจะคู่คี่สูสี แม้ชัยชนะของทรัมป์ไม่ใช่สิ่งที่จีนต้องการ แต่ก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายอย่างสิ้นเชิง ผู้นำจีนคงจะพยายามรักษาความสัมพันธ์ส่วนตัวฉันมิตรกับทรัมป์ ควบคู่ไปกับการพยายามแผ่ขยายอำนาจและความแข็งแกร่ง สิ่งที่จีนกังวล คือ รัฐบาลทรัมป์จะฟื้นสงครามการค้าขึ้นมาอีกครั้ง รวมทั้งจะเร่งการตัดจีนออกจากห่วงโซ่อุปทานและเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นภัยต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน และจะส่งผลกระทบทางอ้อมต่อเสถียรภาพทางสังคมและการเมืองของจีน ดังนั้นจีนน่าจะเดินหน้าผลักดันการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจให้มากขึ้น และกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศอื่นอย่างรัสเซียมากยิ่งขึ้น ด้านนายไบรอัน หว่อง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งฮ่องกงคาดว่า จีนจะเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์กับประเทศในซีกโลกใต้ ยุโรป และเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะทรัมป์ที่มีแนวโน้มจะได้เป็นผู้นำคนใหม่ของสหรัฐมีนโยบายแยกตัวโดดเดี่ยว ต่อต้านกระแสโลกานุวัตรและพหุภาคี ส่วนนายเซิน ติงลี่ นักวิชาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่นครเซี่ยงไฮ้ชี้ว่า รัฐบาลโจ ไบเดนใช้ไต้หวันกดดันจีนอย่างหนัก ด้วยการส่งทหารไปประจำการและจำหน่ายอาวุธให้ไต้หวัน เป็นนโยบายที่แตกต่างอย่างมากจากรัฐบาลทรัมป์สมัยแรก คาดว่ารัฐบาลทรัมป์สมัยที่ 2 จะไม่สนับสนุนไต้หวันในลักษณะนี้ ทั้งนี้ทรัมป์เคยกล่าวว่า ไต้หวันควรจ่ายให้สหรัฐที่ให้ความคุ้มครองป้องภัย และกล่าวหาไต้หวันว่าแย่งธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ไปจากสหรัฐ.-814.-สำนักข่าวไทย  

“พิชัย” ลุยเซี่ยงไฮ้ถกภาคเอกชนไทย เร่งแก้อุปสรรคการค้า

“พิชัย” ลุยเซี่ยงไฮ้ ถกภาคเอกชนไทยในจีน 16 บริษัท เร่งแก้อุปสรรคการค้า จับคู่นักลงทุนไทย-จีน ย้ำ สถานการณ์การลงทุนในไทยวันนี้ดีต่อเนื่อง

1 31 32 33 34 35 542
...