จีน

รัฐบาลจีนประกาศวันนี้ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอด 2 วัน ของผู้นำจีนกับผู้นำประเทศในภูมิภาคเอเชียกลางในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวเพื่อเพิ่มอิทธิพลในภูมิภาค

องค์การอนามัยโลก หรือ ดับเบิลยูเอชโอ กล่าววันศุกร์ว่า การแพร่ระบาของเชื้อโรคโควิด-19 ไม่ได้เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขของโลกอีกต่อไปแล้ว แต่เตือนว่า ภัยคุกคามจากโรคนี้ยังคงมีอยู่ต่อไป

วอชิงตัน 2 พ.ค.- กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ปรับเพิ่มการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชีย อันเป็นผลจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน แต่เตือนว่ามีความเสี่ยงจากเงินเฟ้อสูงและตลาดโลกผันผวนเพราะปัญหาภาคการธนาคารในโลกตะวันตก ไอเอ็มเอฟออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคในวันนี้ว่า การที่จีนเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งจะมีผลสำคัญต่อเอเชียในแง่ของผลกระทบที่เกิดจากการบริโภคและความต้องการภาคบริการมากกว่าที่จะเกิดจากการลงทุน เอเชียและแปซิฟิกจะเป็นภูมิภาคที่มีพลวัตรมากที่สุดของโลกในปี 2566 โดยเกิดจากการขับเคลื่อนของจีนและอินเดียเป็นหลัก และจะยังคงมีการบริโภคในประเทศเป็นตัวขับเคลื่อนใหญ่ที่สุดต่อไป เช่นเดียวกับภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก ไอเอ็มเอฟคาดว่า เศรษฐกิจเอเชียจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.8 ในปี 2565 เป็นร้อยละ 4.6 ในปี 2566 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70 ของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 จากที่ประมาณการในรายงานเดือนตุลาคม 2565 เฉพาะจีนและอินเดียจะขยายตัวร้อยละ 5.2 และ 5.9 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียในปี 2567 ลงร้อยละ 0.2 เหลือร้อยละ 4.4 และเตือนว่าเอเชียเสี่ยงได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อยาวนานกว่าที่คาด ความต้องการของโลกชะลอตัว และผลกระทบจากปัญหาภาคการธนาคารในสหรัฐและยุโรป ไอเอ็มเอฟเตือนว่า แม้เอเชียมีเงินทุนและสภาพคล่องสูงมากพอที่จะรองรับผลกระทบจากตลาดภายนอก แต่ภาคธุรกิจและครัวเรือนที่มีหนี้สินสูงกำลังเสี่ยงมากขึ้นกับดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว ไอเอ็มเอฟยังขอให้ธนาคารกลางในเอเชีย ยกเว้นจีนและญี่ปุ่น คงนโยบายเข้มงวดทางการเงินต่อไปเพื่อดึงอัตราเงินเฟ้อให้ลดลง เพราะอัตราเงินเฟ้ออาจทรงตัวในระดับสูงต่อไปส่วนหนึ่งเพราะมีความต้องการบริโภคในประเทศอย่างคึกคัก.-สำนักข่าวไทย

มาเก๊า 1 พ.ค.- ชาวจีนแผ่นดินใหญ่หลายแสนคนเดินทางไปมาเก๊า แหล่งกาสิโนใหญ่ที่สุดในโลก ในช่วงวันแรงงาน จีนและเขตบริหารพิเศษมาเก๊ายกเลิกมาตรการจำกัดโรคโควิด-19 ระหว่างกันในเดือนมกราคม เปิดทางให้คนในจีนแผ่นดินใหญ่สามารถเดินทางไปมาเก๊าได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี สื่อท้องถิ่นมาเก๊ารายงานอ้างสถิติของทางการว่า วันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีคนเดินทางเข้ามาเก๊าวันละไม่ต่ำกว่า 100,000 คน เทียบกับก่อนหน้านี้ที่มีคนเข้ามาวันละ 60,000 คน สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่างเซนาโดสแควร์และซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล เนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาถ่ายรูปและชิมอาหารท้องถิ่น บริษัทข้อมูลการเดินทางฟอร์เวิร์ดคีย์สเผยว่า มาเก๊าเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดของชาวจีนที่เดินทางภายในเอเชียตั้งแต่วันที่ 17 เมษายนถึง 7 พฤษภาคม ยอดจองเดินทางไปมาเก๊าเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากช่วงก่อนเกิดโรคโควิด-19 ในปี 2562 สวนทางกับยอดจองเดินทางไปฮ่องกงที่ลดลงร้อยละ 32 ทางการมาเก๊าได้ประชาสัมพันธ์เรื่องมรดกทางวัฒนธรรม อาหารและความบันเทิงให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วงปีที่ผ่านมา หวังสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจ จากปัจจุบันที่มีรายได้มากกว่าร้อยละ 80 จากกาสิโนและได้ออกมาตรการจำกัดฉบับใหม่กับผู้ให้บริการกาสิโน 6 แห่ง นักวิเคราะห์คาดว่า อัตราการจองห้องพักโรงแรมในมาเก๊าจะแตะร้อยละ 90 และบางแห่งน่าจะมีลูกค้าจองเต็มในช่วงวันแรงงาน.-สำนักข่าวไทย

มะนิลา 1 พ.ค.- ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส ของฟิลิปปินส์ ซึ่งจะพบกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ที่กรุงวอชิงตันในวันนี้ตามเวลาสหรัฐเผยว่า รัฐบาลของเขาจะไม่ยอมให้ฟิลิปปินส์กลายเป็นสถานที่ระดมพลทางทหาร ประธานาธิบดีมาร์กอสกล่าวกับสื่อเมื่อวันอาทิตย์ก่อนขึ้นเครื่องบินไปกรุงวอชิงตันว่า ฟิลิปปินส์จะไม่ส่งเสริมการกระทำยั่วยุใด ๆ ของประเทศอื่นที่จะมีความเกี่ยวข้องกับฟิลิปปินส์ และจะไม่ยอมให้ฟิลิปปินส์ถูกใช้เป็นสถานที่ระดมพลสำหรับปฏิบัติการทางทหารทุกประเภท เขากล่าวถึงเหตุการณ์ที่เรือจีนเกือบชนเรือหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 23 เมษายนว่า เป็นเหตุการณ์ที่อาจสร้างความสูญเสียให้ทั้ง 2 ฝ่าย และเป็นสิ่งที่ฟิลิปปินส์ต้องการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้น ขอให้จีนปฏิบัติตามที่เขาเห็นพ้องกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนที่กรุงปักกิ่งเมื่อต้นปีนี้เรื่องตั้งกลไกสื่อสารโดยตรงในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการอ้างสิทธิ์ทับซ้อนในทะเลจีนใต้ ฟิลิปปินส์ได้ตั้งทีมงานในเรื่องนี้แล้ว แต่จีนยังไม่ได้ตั้ง ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงเมื่อวันเสาร์เรียกร้องให้จีนงดเว้นการกระทำยั่วยุและไม่ปลอดภัย โดยระบุว่ากองทัพสหรัฐจะตอบโต้หากกองทัพฟิลิปปินส์ถูกโจมตี ตามที่ทั้ง 2 ประเทศมีสนธิสัญญากลาโหมร่วมปี 2494 ฟิลิปปินส์อนุญาตให้กองทัพสหรัฐเข้าถึงฐานทัพฟิลิปปินส์ได้อีก 4 แห่งเมื่อต้นเดือนเมษายน จากเดิมที่เข้าถึงได้ 5 แห่ง เพื่อหาทางต้านทานจีนที่แสดงท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้น ฐานทัพที่ให้เข้าถึงเพิ่มมีทั้งที่อยู่ใกล้หมู่เกาะสแปรตลีย์ และที่อยู่ตรงข้ามกับไต้หวัน.-สำนักข่าวไทย