วอชิงตัน 2 พ.ค.- กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ปรับเพิ่มการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชีย อันเป็นผลจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน แต่เตือนว่ามีความเสี่ยงจากเงินเฟ้อสูงและตลาดโลกผันผวนเพราะปัญหาภาคการธนาคารในโลกตะวันตก
ไอเอ็มเอฟออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคในวันนี้ว่า การที่จีนเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งจะมีผลสำคัญต่อเอเชียในแง่ของผลกระทบที่เกิดจากการบริโภคและความต้องการภาคบริการมากกว่าที่จะเกิดจากการลงทุน เอเชียและแปซิฟิกจะเป็นภูมิภาคที่มีพลวัตรมากที่สุดของโลกในปี 2566 โดยเกิดจากการขับเคลื่อนของจีนและอินเดียเป็นหลัก และจะยังคงมีการบริโภคในประเทศเป็นตัวขับเคลื่อนใหญ่ที่สุดต่อไป เช่นเดียวกับภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก
ไอเอ็มเอฟคาดว่า เศรษฐกิจเอเชียจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.8 ในปี 2565 เป็นร้อยละ 4.6 ในปี 2566 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70 ของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 จากที่ประมาณการในรายงานเดือนตุลาคม 2565 เฉพาะจีนและอินเดียจะขยายตัวร้อยละ 5.2 และ 5.9 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียในปี 2567 ลงร้อยละ 0.2 เหลือร้อยละ 4.4 และเตือนว่าเอเชียเสี่ยงได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อยาวนานกว่าที่คาด ความต้องการของโลกชะลอตัว และผลกระทบจากปัญหาภาคการธนาคารในสหรัฐและยุโรป
ไอเอ็มเอฟเตือนว่า แม้เอเชียมีเงินทุนและสภาพคล่องสูงมากพอที่จะรองรับผลกระทบจากตลาดภายนอก แต่ภาคธุรกิจและครัวเรือนที่มีหนี้สินสูงกำลังเสี่ยงมากขึ้นกับดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว ไอเอ็มเอฟยังขอให้ธนาคารกลางในเอเชีย ยกเว้นจีนและญี่ปุ่น คงนโยบายเข้มงวดทางการเงินต่อไปเพื่อดึงอัตราเงินเฟ้อให้ลดลง เพราะอัตราเงินเฟ้ออาจทรงตัวในระดับสูงต่อไปส่วนหนึ่งเพราะมีความต้องการบริโภคในประเทศอย่างคึกคัก.-สำนักข่าวไทย