คาดคนในครอบครัวรู้เห็น คดียิง 2 ผัวเมียดับคาห้องนอน
ตำรวจ สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง เร่งคลี่คลายปม 2 ผัวเมียถูกยิงเสียชีวิต เชิญพยานแวดล้อมและคนในครอบครัวสอบปากคำเพิ่ม พบให้การมีพิรุธ เชื่อคนในครอบครัวมีส่วนรู้เห็น
ตำรวจ สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง เร่งคลี่คลายปม 2 ผัวเมียถูกยิงเสียชีวิต เชิญพยานแวดล้อมและคนในครอบครัวสอบปากคำเพิ่ม พบให้การมีพิรุธ เชื่อคนในครอบครัวมีส่วนรู้เห็น
สลด! เด็ก 4 ขวบ จมสระน้ำพูลวิลล่า ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เสียชีวิต ขณะพ่อแม่กำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่บริเวณหลังบ้าน
ครอบครัวรับศพ “ด.ต.อเนก” ถูกพ่อค้ายาบ้ายิงเสียชีวิตขณะเข้าจับกุม จากโรงพยาบาลไปประกอบพิธีทางศาสนา และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ 15 พ.ค.นี้
ครอบครัวเหมารถตู้เดินทางจาก จ.สตูล ไปงานรับปริญญาญาติที่กรุงเทพฯ ถูกเก๋งตัดหน้ากะทันหันพุ่งชนอย่างแรง บริเวณแยกถนนตรัง-ปะเหลียน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง บาดเจ็บนับสิบราย
ย่างกุ้ง 17 เม.ย.- ครอบครัวของผู้ต้องขังจำนวนมากรวมตัวกันหน้าเรือนจำอินเส่งใกล้นครย่างกุ้งของเมียนมา หลังจากรัฐบาลทหารเมียนมาประกาศว่า จะนิรโทษกรรมผู้ต้องขังประมาณ 1,600 คน ในวันนี้ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของเมียนมา ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นรายงานโดยไม่เปิดเผยชื่อว่า หลายครอบครัวที่ดูกระวนกระวายถือป้ายเขียนชื่อผู้ต้องขังที่เป็นสมาชิกในครอบครัว โดยมีตำรวจนอกเครื่องแบบยืนสังเกตการณ์อยู่ใกล้ ๆ สตรีคนหนึ่งที่บุตรชายวัย 22 ปี ถูกจับกุมขณะประท้วงเมื่อ 8 เดือนก่อนเผยว่า มารอหน้าเรือนจำเนื่องจากบุตรชายส่งจดหมายมาบอกว่าอาจได้รับนิรโทษกรรมในเดือนนี้ ส่วนสตรีอีกคนที่บุตรชายซึ่งเป็นตำรวจถูกจับกุมในเดือนมิถุนายนปีก่อนโทษฐานเข้าร่วมการดื้อแพ่งประท้วงรัฐบาลเผยว่า มารอหน้าเรือนจำทุกครั้งที่มีการนิรโทษกรรม หวังว่าบุตรชายจะได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ พล.ท.อ่อง ลิน เว เลขาธิการสภาบริหารแห่งรัฐของเมียนมาลงนามแถลงการณ์ที่ประกาศว่า ผู้ต้องขัง 1,619 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติ 42 คน จะได้รับการปล่อยตัวด้วยการนิรโทษกรรม เป็นส่วนหนึ่งของฉลองวันขึ้นปีใหม่ของเมียนมา เพื่อนำมาซึ่งความสุขให้แก่ประชาชนและแก้ปัญหาด้านมนุษยธรรม รอยเตอร์ระบุว่า จำนวนผู้ต้องขังที่จะได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับที่แล้วที่ปล่อยมากถึง 23,000 คน และยังไม่ชัดเจนว่าจะมีสมาชิกรัฐบาลพลเรือนที่ถูกกองทัพรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 หรือไม่ ด้านสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองเผยว่า ตั้งแต่รัฐประหารรัฐบาลทหารเมียนมาได้จับกุมคนไปแล้ว 13,282 คน และสังหารผู้ต่อต้าน 1,756 คน.-สำนักข่าวไทย
ชาวเชียงใหม่ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงทยอยตรวจหาเชื้อโควิดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน พบจากจำนวนผู้มาตรวจเกือบครึ่งหนึ่งผลเป็นบวก และพบเป็นการติดเชื้อในครอบครัวมากขึ้นในหลายพื้นที่
วอชิงตัน 10 ก.พ.- แอนเจลีนา โจลี นักแสดงหญิงฮอลลีวูดเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาสหรัฐเร่งผ่านร่างกฎหมายจัดการกับการใช้ความรุนแรงในครอบครัวโดยทันที โจลี วัย 46 ปี น้ำตาคลอขณะแถลงข่าวที่อาคารรัฐสภา เรียกร้องให้สมาชิกสภาให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับการบังคับใช้กฎหมายการใช้ความรุนแรงต่อสตรี (Violence Against Women Act หรือ VAWA) อีกครั้ง เพื่อช่วยให้เหยื่อความรุนแรงในครอบครัวได้รับความช่วยเหลือทางการแพทย์และทางกฎหมาย และช่วยให้เด็กที่เผชิญกับการใช้ความรุนแรงในบ้านได้รับความช่วยเหลือ เธอกล่าวว่า ความจริงที่น่าเจ็บปวดคือ การใช้ความรุนแรงในครอบครัวถูกทำให้เป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้วในสหรัฐ กฎหมายดังกล่าวลงนามบังคับใช้ครั้งแรกในปี 2537 มีประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ขณะนั้นเป็นสมาชิกวุฒิสภาเป็นผู้ร่างเนื้อหาหลัก หลังจากนั้นมีการแก้ไขกฎหมายหลายครั้ง โดยผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกสภาทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันทุกครั้ง แต่กฎหมายฉบับแก้ไขในปี 2562 ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรกลับไปค้างในวุฒิสภา ที่ขณะนั้นพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ทำให้ไม่มีการลงมติในขั้นสุดท้าย อย่างไรก็ดี กฎหมายฉบับที่มีการนำเสนอเมื่อวันพุธได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาทั้งสองพรรค ด้านประธานาธิบดีไบเดน ขอบคุณกลุ่มสมาชิกสภาที่ผลักดันให้มีการบังคับใช้กฎหมายนี้อีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย
ครอบครัวยืนยันศพสาวนิรนามลอยแม่น้ำเจ้าพระยา น่าจะเป็น น.ส.มณีรัตน์ อายุ 28 ปี จากตำหนิรอยสัก
ครอบครัวและบุคคลใกล้ชิดจำนวนมากหลั่งไหลร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ “หมอกระต่าย” ด้วยความอาลัยรักเป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่ ส.ต.ต.นรวิชญ์ หรือพระนรวิชญ์ ผู้ต้องหา เดินทางร่วมส่งวิญญาณ “หมอกระต่าย” ด้วยเช่นกัน
วอชิงตัน 26 ม.ค.- กระทรวงต่างประเทศสหรัฐกำลังพิจารณาเรื่องให้นักการทูตและครอบครัวเดินทางออกจากจีนตามความต้องการ เนื่องจากไม่สามารถห้ามทางการจีนใช้มาตรการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่เคร่งครัดจนเป็นการล่วงล้ำการดำเนินชีวิต แหล่งข่าวเผยว่า สถานทูตสหรัฐในกรุงปักกิ่งได้ส่งคำขอมายังรัฐบาลสหรัฐเมื่อวันจันทร์ให้อนุมัติอย่างเป็นทางการ เนื่องจากจีนได้เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการระบาดก่อนที่กรุงปักกิ่งจะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่สถานทูตบางคนผิดหวังที่รัฐบาลสหรัฐไม่เต็มใจหรือไม่สามารถทำให้พวกเขาได้รับการยกเว้นจากมาตรการกักโรคที่เคร่งครัดของจีน เช่น บังคับให้เข้ารับการรักษาตามคลินิกโควิด แยกพวกเขาจากบุตรหลาน ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงเมื่อวันอังคารว่า สถานะการบริหารงานที่สถานทูตและสถานกงสุลในจีนยังคงเหมือนเดิม การเปลี่ยนแปลงใด ๆ จะเกิดขึ้นต่อเมื่อเป็นไปเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และความมั่นคงของนักการทูตและครอบครัวเท่านั้น ผลการสำรวจภายในสถานทูตสหรัฐประจำกรุงปักกิ่งพบว่า เจ้าหน้าที่และครอบครัวมากถึง 1 ใน 4 ต้องการเดินทางออกจากจีนโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ช่วงที่จีนเกิดการระบาดใหม่ ๆ สหรัฐได้อพยพนักการทูตและครอบครัวออกจากจีนประมาณ 1,300 คน.-สำนักข่าวไทย
วอชิงตัน 24 ม.ค. – สหรัฐสั่งให้ครอบครัวของเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐประจำยูเครนเดินทางออกจากยูเครน และแจ้งเตือนพลเมืองไม่ให้เดินทางไปยูเครนกับรัสเซีย ในขณะที่ยูเครนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น หลังมีรายงานว่ารัสเซียกำลังวางแผนใช้ปฏิบัติการทหารต่อยูเครน กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า ทางการได้สั่งให้ครอบครัวของเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐประจำยูเครนเดินทางออกนอกประเทศ อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ที่ไม่มีภารกิจจำเป็นของสถานทูตสหรัฐประจำยูเครนทำเรื่องเดินทางกลับสหรัฐได้ และประกาศแจ้งเตือนให้พลเมืองสหรัฐที่อาศัยอยู่ในยูเครนพิจารณาการเดินทางออกนอกประเทศ เนื่องจากได้รับรายงานว่ารัสเซียกำลังวางแผนใช้กำลังทหารต่อยูเครน อย่างไรก็ดี รัสเซียได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง และรัสเซียไม่ได้วางแผนบุกยูเครน แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้แจ้งเตือนพลเมืองไม่ให้เดินทางไปยูเครนกับรัสเซีย เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและอาจทำให้เกิดภัยคุกคามต่อพลเมืองสหรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเผยว่า สถานทูตสหรัฐประจำยูเครนยังคงเปิดทำการตามปกติ แต่ได้เน้นย้ำถึงประกาศเตือนจากทำเนียบขาวสหรัฐว่า การบุกรุกของรัสเซียอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และรัฐบาลสหรัฐไม่สามารถที่จะอพยพพลเมืองออกจากยูเครนได้ในสถานการณ์เช่นนี้. -สำนักข่าวไทย
เครือข่ายผู้หญิงจัดเวที ส่งสัญญาณเตือน วันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล พบสถิติ 3 ใน 4 ถูกกระทำซ้ำ น้ำเมาตัวกระตุ้นหลัก ช่วงโควิดรุนแรงเพิ่มขึ้น ชวนผู้หญิงอย่าทน ต้องหยุดความรุนแรงตั้งแต่ครั้งแรก