241 “มงคลกิตติ์” ก้มกราบพื้นสภาฯ ประกาศคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชน ขอทำหน้าที่ ส.ส. วันสุดท้าย 17 ก.พ. หลังจบอภิปราย “บิ๊กตู่” ปล่อยทุจริต-สร้างความเสียหายให้ประเทศ
121 ครม.เห็นชอบโครงการพัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุขของไทย วงเงิน 1,514.6172 ล้านบาท เชื่อมโยงระบบการดูแลสุขภาพแบบดิจิทัล ประชาชนเข้าถึงข้อมูลตามสิทธิง่าย พร้อมคุ้มครองตามกฎหมาย
120 ทำเนียบฯ 27 ธ.ค.- ครม.เห็นชอบแผนกำกับกิจการพลังงาน 5 ปี ( 66 – 70) วงเงิน 5,286 ล้านบาท หวังขับเคลื่อนกิจการพลังงานไทย
95 กระทรวงการคลัง 27 ธ.ค.-ครม.เห็นชอบ สินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย เฟส 2 วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท หนุนธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อรองรับ BCG Model คิดดอกเบี้ย ร้อยละ 0.01 ต่อปี ช่วง 3 ปีแรก
91 กัวลาลัมเปอร์ 25 พ.ย.- นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของมาเลเซียเผยวันนี้ว่า จะให้ความสนใจเป็นอันดับแรกต่อการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพสูง นายอันวาร์ วัย 75 ปีได้รับแต่งตั้งจากสมเด็จพระราชาธิบดีเมื่อวันพฤหัสบดีให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากผลการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ไม่มีกลุ่มการเมืองใดครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร เขาแถลงข่าวหลังจากรายงานตัวที่สำนักนายกรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ภารกิจหลักคือการแก้ปัญหาค่าครองชีพสูง และจะมีคณะรัฐมนตรีที่มีขนาดเล็กกว่าคณะรัฐมนตรีที่ผ่าน ๆ มา นายอันวาร์ยังไม่ได้ประกาศแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี แต่เคยเผยว่าจะมีรองนายกรัฐมนตรี 2 คน คนหนึ่งมาจากกลุ่มพันธมิตรบาริซัน นาซิโอนัล ที่เป็นอดีตรัฐบาล และอีกคนหนึ่งมาจากกลุ่มการเมืองขนาดเล็กบนเกาะบอร์เนียว เขาเผยว่า ได้รับเสียงสนับสนุนมากกว่า 2 ใน 3 ในสภาที่มีทั้งหมด 222 ที่นั่ง เนื่องจากได้เสียงเพิ่มจากกลุ่มการเมืองอีกกลุ่มหนึ่งบนเกาะบอร์เนียว นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2551 ที่รัฐบาลมาเลเซียครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร และจะเปิดทางให้รัฐบาลอันวาร์สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของมาเลเซียเผยว่า จะเรียกประชุมสภาในวันที่ 19 ธันวาคมเพื่อเปิดการลงมติไม่ไว้วางใจ พิสูจน์การครองเสียงข้างมากในสภาของเขา ด้านนายมูห์ยิดดิน ยัสซิน อดีตนายกรัฐมนตรียอมรับการแต่งตั้งนายอันวาร์แล้วในวันนี้ หลังจากเมื่อวานนี้ท้าทายให้นายอันวาร์พิสูจน์ว่าครองเสียงข้างมากในสภา และว่ากลุ่มพันธมิตรเปอริกาตัน นาซิโอนัลของเขาจะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน.-สำนักข่าวไทย
36 “พล.อ.ประยุทธ์” บอก ยังไม่ได้ทำอะไรเลย หลังถูกถามเรื่องทูลเกล้าตำแหน่ง มท.2 ไม่ตอบเสร็จทันเอเปคหรือไม่
177 ครม.หนุนไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-สิงคโปร์ 12 ต.ค.นี้ ขยายโอกาสลงทุนในเขต EEC ผลักดันส่งออกสินค้าเกษตรไทย
44 ครม. ไฟเขียวติดตั้งระบบติดตามเรือประมง ย้ำไม่สร้างภาระเพิ่มให้เจ้าของเรือ ยึดหลักกฎหมายสากล
26 การปรับคณะรัฐมนตรีล่าสุดของนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นดูเหมือนจะช่วยทำให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งในญี่ปุ่นผ่อนคลายความกังวลได้เพียงเล็กน้อย หลังจากที่ไม่พอใจกรณีที่พรรครัฐบาลมีความสัมพันธ๋กับโบสถ์แห่งความสามัคคี ยูนิฟิเคชันเชิร์ช (Unification Church) หรือลัทธิมุน
80 โตเกียว 10 ส.ค.- นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นปรับคณะรัฐมนตรีในวันนี้ หลังจากคะแนนนิยมร่วง และถูกสังคมตรวจสอบเรื่องนักการเมืองมีความสัมพันธ์กับกลุ่มทางศาสนาที่ชายคนหนึ่งอ้างว่าเป็นเหตุผลให้ลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงแห่งญี่ปุ่นหรือเอ็นเอชเค (NHK) เผยแพร่ผลสำรวจความนิยมรัฐบาลคิชิดะเมื่อวันจันทร์ว่า ลดลง 13 จุดในช่วง 3 สัปดาห์เหลือร้อยละ 46 ขณะที่หนังสือพิมพ์โยมิอูริเผยผลสำรวจความนิยมรัฐบาลว่า ลดลง 8 จุดจากเดือนกรกฎาคมเหลือร้อยละ 57 นายกรัฐมนตรีคิชิดะได้ปรับรัฐมนตรีออกหลายคน และให้อยู่ในตำแหน่งเดิมหลายคน หนึ่งในรัฐมนตรีที่ถูกปรับออกคือ นายโนบูโอะ คิชิ วัย 63 ปี รัฐมนตรีกลาโหมที่ดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2563 และเป็นน้องชายของอดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะ ถูกแทนที่โดยนายยาซุกาสุ ฮามาดะ วัย 66 ปี อดีตรัฐมนตรีกลาโหมปี 2551-2552 นายคิชิมีปัญหาเรื่องสุขภาพและประกาศเมื่อไม่นานมานี้ว่าจะทบทวนอย่างจริงจังเรื่องความสัมพันธ์กับโบสถ์แห่งความสามัคคีที่ก่อตั้งโดยสาธุคุณมุน ซอน-มยอง หลังจากยอมรับว่าสาวกโบสถ์หลายคนมาทำงานเป็นอาสาสมัครหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งนี้นับตั้งแต่นายอาเบะถูกชายคนหนึ่งลอบยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม เพราะเชื่อว่าเขาพัวพันกับโบสถ์แห่งความสามัคคีที่ว่าทำให้มารดาบริจาคจนล้มละลาย สื่อญี่ปุ่นได้เปิดเผยว่า สมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่นจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของนายอาเบะได้รับความช่วยเหลือจากสาวกของกลุ่มนี้ ขณะที่โบสถ์ฯ ยืนยันว่า สาวกทำไปโดยสมัครใจ ไม่เกี่ยวข้องกับโบสถ์ฯ นอกจากนี้สังคมญี่ปุ่นยังมีความคิดเห็นแตกเป็น […]
40 นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นกล่าววันนี้ว่า เขาจะปรับคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า เพื่อรับมือกับประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงเรื่องการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภาวะเงินเฟ้อ กิจการไต้หวันและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
193 นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี-ข้าราชการ ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 171 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2565
