พัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุขของไทย


ทำเนียบรัฐบาล 24 ม.ค.- ครม.เห็นชอบโครงการพัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุขของไทย วงเงิน 1,514.6172 ล้านบาท เชื่อมโยงระบบการดูแลสุขภาพแบบดิจิทัล ประชาชนเข้าถึงข้อมูลตามสิทธิง่าย พร้อมคุ้มครองตามกฎหมาย


น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดำเนินโครงการพัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุขของไทย ตามที่เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2565 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง การพัฒนาคลาวด์ข้อมูลสุขภาพ สธ. เพื่อวางแผนร่วมกันและดำเนินการพัฒนาระบบบริการและระบบบริหารจัดการสุขภาพ เชื่อมโยงระบบการดูแลสุขภาพแบบดิจิทัลเพื่ออนาคต (Digitally connected health care system of the future) ให้ข้อมูลสุขภาพสามารถเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ไร้รอยต่อ และได้รับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของตนเองได้ หน่วยบริการสามารถจัดบริการให้เกิดการรักษาทุกที่ทุกเวลาแบบไร้รอยต่อ และได้ร่วมกันเสนอโครงการฯ เพื่อขับเคลื่อนตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า โครงการพัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุขของไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดเตรียม/พัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุขของไทย (National Health Information Platform) สำหรับบริหารจัดการการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพทั่วประเทศ และเพื่อเช่าใช้ระบบคลาวด์พื้นฐานเป็นแพลตฟอร์มกลางภายใต้การดูแลของภาครัฐ รองรับการบูรณาการข้อมูล และการเก็บข้อมูลในรูปแบบ Private Cloud มีโครงสร้างพื้นฐานที่จะเป็นในการให้บริการด้านสุขภาพของประชาชน ซึ่งในกรอบวงเงิน 1,514.6172 ล้านบาท สำหรับระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี (พ.ศ. 2566-2568) ซึ่งจะประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลัก คือ 1. การพัฒนาระบบบริหารจัดการการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพทั่วประเทศ ครอบคลุมการจัดหาระบบซอฟต์แวร์ (Application Software) การจ้างพัฒนาระบบและการฝึกอบรมบุคลากร วงเงิน 1,129.3157 ล้านบาท และ 2. การจัดหาบริการระบบคลาวด์กลาง (Cloud Server) ครอบคลุมการเช่าคลาวด์กลางด้านสาธารณสุข จำนวน 4,311 VM การเช่าพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่ม และการบริหารจัดการ Log และ Managed Security Service วงเงิน 385.3014 ล้านบาท ซึ่งจะมีแหล่งเงินงบประมาณจากงบประมาณปี 2566 งบกลางฯ จำนวน 553.8203 ล้านบาท และจำนวน 960.7969 ล้านบาท เป็นงบผูกพันข้ามปีงบประมาณ 2567-2568



สำหรับกรอบแนวคิดของระบบงาน คือ พัฒนาแพลตฟอร์มกลางเพื่อเชื่อมโยงการให้บริการสุขภาพ ทั้งในระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ โดยมีระบบงานที่สำคัญประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่

  1. ระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพสำหรับเขตสุขภาพ (MOPH Data Exchange Gateway) เพื่อรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลหรือหน่วยบริการภาครัฐในสังกัดอื่นๆ ที่สมัครเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพ และเก็บข้อมูลทางสถิติงานบริการจัดการสุขภาพ สร้างรายงาน เพื่อใช้งาน การวางแผน พัฒนา จัดการทางกลยุทธ์ต่างๆ และสามารถเชื่อมโยงข้อมูลบริหารจัดการจากส่วนงานต่างๆ
  2. ระบบการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลกลาง (Central Data Exchange Service) เป็นตัวแทน (Proxy/Broker) ในการเชื่อมโยง แลกเปลี่ยนข้อมูล ข้ามหน่วยงานต่างๆ
  3. พัฒนาแพลตฟอร์มสารสนเทศกลาง เพื่อให้บริการผู้ป่วยนอก สำหรับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อการบันทึกข้อมูลสุขภาพ เชื่อมโยงข้อมูลในการรับ-ส่งต่อ และการส่งรายงานด้านสาธารณสุข ทั้งนี้ แพลตฟอร์มสารสนเทศกลางจะเปิดโอกาสให้เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพจากระบบสารสนเทศจากระดับปฐมภูมิ และระบบต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว

“รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพการบริการในหน่วยบริการสุขภาพทุกระดับ ทั้งในระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ ผ่านระบบดิจิทัลอย่างเป็นสากล เพื่อประโยชน์ของประชาชนผู้ใช้บริการทุกคนในทุกพื้นที่ของประเทศ ซึ่งโครงการนี้จะทำให้โรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระดับทุติยภูมิและตติยภูมิ รวม 901 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จำนวน 9,000 แห่ง เข้าใช้คลาวด์กลางด้านสาธารณสุข และทำให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อย่างน้อย 4,500 แห่ง เข้าใช้ระบบสารสนเทศเพื่อให้บริการผู้ป่วยนอกได้ ในกรณีฉุกเฉินแพทย์ผู้รักษาสามารถดูข้อมูลคนไข้เพื่อให้การรักษาชีวิตของคนไข้ได้อย่างรวดเร็ว และยังรองรับการให้บริการทางการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) นอกจากนี้ยังทำให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของตนเองได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นตามสิทธิของเจ้าของข้อมูลด้วย” น.ส.ทิพานัน กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“ฟิล์ม-ดีเจแมน” ไกล่เกลี่ยได้ ยอมถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาท

ศาลอาญา 2 ก.ค. – “ฟิล์ม รัฐภูมิ” จับมือปรับความเข้าใจ “ดีเจแมน” ในศาล ไกล่เกลี่ยกันได้-ยอมถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาท แต่คดีแจ้งความที่กองปราบฯ ยังเดินหน้าต่อ วันนี้ (2 ก.ค.68) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ภายหลังการไกล่เกลี่ยกันระหว่างนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม นักร้อง-นักแสดงชื่อดัง ที่เป็นโจทก์ฟ้อง นายพัฒนพล กุญชร หรือ ดีเจแมน เป็นจำเลยในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ในกรณีกล่าวหาว่า นายรัฐภูมิ เรียกเงิน 14 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือคดี Forex-3D เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยทั้ง 2 ฝ่าย ใช้เวลาในการเจรจากันนานเกือบ 3 ชั่วโมง นายฟิล์ม เปิดเผยหลังการเจรจากันว่า อย่างที่เคยพูดไว้ว่า ถ้าทุกอย่างคุยกันได้ ตนก็พร้อมให้อภัยทุกเรื่อง เพราะที่ฟ้องไม่ได้มีเจตนาอะไร ก็อยากยืนยันในความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง เพราะผมไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด แล้วก็ไม่เคยไปตบทรัพย์ หรือไม่เคยไปทำอะไรที่ไม่ดี ซึ่งในห้องพิจารณาคดีที่ได้มีการคุยกัน […]

รวบเพิ่มอีก 1 แก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงิน 3.4 ล้าน

นนทบุรี 2 ก.ค. – สืบนครบาลบุกรวบเพิ่มอีก 1 คน แก๊ง “เสือปุ่น” ร่วมปล้นเงิน 3.4 ล้านบาท ระหว่างเข้าจับกุมพยายามปีนหลังคาหลบหนี สุดท้ายไม่รอด ตกลงมาบาดเจ็บ เร่งล่าอีก 4 รายที่ยังหลบหนี ภาพขณะตำรวจสืบนครบาล บุกรวบนายนนทวัฒน์ หรือสอง ที่บ้านพักย่านนนทบุรี หลังร่วมแก๊งนายวรวัฒน์ หรือ “เสือปุ่น” คนดังสายคุกในโซเชียล ปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท ในลานจอดรถห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว โดยนายสอง พยายามหลบหนีด้วยการปีนหลังคาบ้านและตกลงมาถูกเศษกระจกบาดขาได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายสอง ส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าก่อน จากนั้นนำตัวมาสอบปากคำที่ สน.พหลโยธิน โดยมีรายงานข่าวว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะเข้ามาสอบปากคำนายสองด้วยตนเอง สำหรับคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คน ถูกจับกุมเมื่อวานนี้ (1 ก.ค.) 2 คน คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว ทำหน้าที่เป็นเอเย่นต์หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี ผ่านเฟซบุ๊ก และ น.ส.นานา ซึ่งอ้างว่าถูกนายหนาวชักชวนมาก่อเหตุ ล่าสุดคือนายสอง ทำให้ยังเหลือผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังหลบหนี […]

“พล.อ.ณัฐพล​” ยัน​ไม่มีสุญญากาศ​ แม้ไร้​ รมว.กลาโหม

กลาโหม 2 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยัน​ไม่มีสุญญากาศ ​แม้ไร้​ รมว.กลาโหม​ เผย​ชายแดนกัมพูชา​มีแนวโน้มดีขึ้น​ หลัง “เตีย​ เซ็ยฮา​” ยอมคุย​เปิดเวที​ GBC​ แต่อยู่ระหว่างต่อรอง​ ย้ำ​คำนึงถึงศักดิ์​ศรีของ​ 2 ประเทศ​ ขอบคุณนายกฯ เชื่อมั่น​ พร้อมระบุ​ กต.​เตรียมรับมือปม “ฮุน มา​เนต” นำ​ 3 ปราสาท​ -​ 1 พื้นที่สู่ศาลโลก พลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึง ภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย- กัมพูชา ว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังทรงอยู่ แต่เราได้ใช้กลไกในทุกระดับของกองทัพ ในการประสานงานกับกัมพูชา และพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการพูดคุยแบบทวิภาคี​ สิ่งที่กระทรวงกลาโหมคาดหวัง คือกลไก​ GBC​ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน ในขณะเดียวกันระดับรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ก็มีการพูดคุย​ ซึ่งมีสัญญาณที่ดีขึ้นเล็กน้อย คือทางกัมพูชาเริ่มคุยด้วยจากก่อนหน้านี้ที่ไม่คุยเลย แต่ยอมรับว่ายังมีการต่อรองกันอยู่ ซึ่งฝ่ายไทยยึดถือศักดิ์ศรีของ 2 ประเทศ […]

“สุริยะ” ปัดตอบตื่นเต้นหรือไม่ รักษาราชการแทนนายกฯ วันแรก

ทำเนียบ 2 ก.ค.- “สุริยะ” ยิ้มรับสื่อฯ ทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรี ปีที่ 93 ปัดตอบตื่นเต้นหรือไม่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้าโดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม ปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชนว่าตื่นเต้นหรือไม่ ในการทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีเป็นวันแรก จากนั้นนายสุริยะ เป็นประธานในพิธีเนื่องในโอกาสวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรี ปีที่ 93 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ถือเป็นภารกิจแรกหลังทำหน้าที่รักษาราชการนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย