รัฐสภา 15 ก.พ.-“มงคลกิตติ์” ก้มกราบพื้นสภาฯ ประกาศคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชน ขอทำหน้าที่ ส.ส. วันสุดท้าย 17 ก.พ. หลังจบอภิปราย “บิ๊กตู่” ปล่อยทุจริต-สร้างความเสียหายให้ประเทศ
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ อภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี(ครม.) ชุดนี้ ไร้ปัญญาในการบริหารเศรษฐกิจ หาเงินไม่เป็น เก่งสร้างหนี้สินให้ประเทศ สร้างหนี้สินให้ประชาชนปล่อยลูกสมุนทุจริตทุกรูปแบบ สร้างความเสียหายให้กับประเทศ ทำให้เศรษฐกิจพัง ประชาชนเป็นหนี้ ไร้ซึ่งอนาคต ปล่อยให้มียาเสพติดทุกประเภทเต็มเมือง พัวพันการทุจริต e-bidding ภาครัฐ และเงินส่วยพนันออนไลน์ เพื่อเอาเงินเหล่านี้ไปใช้ในการเลือกตั้ง รวมถึงการขายแผ่นดินบรรพบุรุษหรือที่เรียกว่าคนขายชาติ
นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า กรณีการรับส่วยพนันออนไลน์ พล.อ.ประยุทธ์ มีการแต่งตั้ง พล.ต.ต. ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองเลขาธิการ ป.ป.ง. เป็นเลขาธิการ ป.ป.ง. และแต่งตั้งให้เป็นกรรมการ ป.ป.ง. สายผู้ทรงคุณวุฒิ แต่ปล่อยให้มีการเปิดเว็บการพนันออนไลน์ทั่วบ้านทั่วเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จะปฏิเสธว่าไม่รู้จัก ก็คงไม่ได้ แต่จะร่วมมือกันหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เชื่อว่าประชาชนสามารถตัดสินได้ และขอถามว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าไม่เคยทุจริตแม้แต่วันเดียว ต้องขอถามว่าประชาชนเชื่อหรือไม่ และขอถามว่าประชาชนทั้งประเทศเชื่อพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ว่า ไม่เคยทุจริต และไม่เคยปล่อย ลูกน้องและคนใกล้ชิดทุจริตทุกรูปแบบ ซึ่งการทุจริตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือการทุจริตอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ถือเป็นการทุจริตที่ได้มา ซึ่งอำนาจในการปลดของประเทศ คือใช้อำนาจปืนและรถถัง
ทำให้ นางบุญญาพร นาตะธนภัทร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ลุกขึ้นประท้วง ว่า นายมงคลกิตติ์ อภิปราย เป็นการใส่ร้ายป้ายสี พล.อ.ประยุทธ์ มาโดยตลอดและขอถามว่ามีคำตัดสิน หรือไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ เคยทุจริตขอให้ถอนคำว่าทุจริตเดี๋ยวนี้
ขณะที่ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม กล่าวว่า ขอให้ผู้อภิปรายไม่ย้อนกลับไปสมัยที่พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจ เพราะมันนอกเหนือการทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบัน
จากนั้น นายมงคลกิตติ์ อภิปรายต่อว่า ในปัจจุบันยังมีการดีไซน์ หรือออกแบบ การทุจริตเข้าสู่อำนาจมีการดูด ส.ส. ซื้อ ส.ส. ปล้น ส.ส. พรรคอื่น ที่เห็นแก่เงินและขายวิญญาณ ขอถามพล.อ.ประยุทธ์ ว่าในจิตวิญญาณของท่านมีความสุจริตหลงเหลือหรือไม่ แต่ขอให้ประชาชนเป็นคนตัดสินที่คูหาเลือกตั้ง
ทั้งนี้ในช่วงท้ายนายมงคลกิตติ์ ประกาศว่าจะทำหน้าที่เป็นวันสุดท้ายในสภาผู้แทนราษฎรที่ตนภูมิใจ และคืนอำนาจอธิปไตยที่ประชาชนมอบให้ตนในระยะเวลา 4 ปี ที่ตนได้ทำหน้าที่ฝ่ายรัฐบาล 11 เดือน และได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านและฝ่ายค้านอิสระ 3 ปี ตนมีความภาคภูมิใจมาก สามารถพูดได้อย่างภาคภูมิใจ ว่า ตนเป็นผู้แทนที่มาจากประชาชน 100% ด้วยความสุจริตไม่ได้ซื้อเสียงมาแม้แต่คะแนนเดียว ถึงแม้คะแนนไม่มาก แม้จะเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่สมบูรณ์แบบตามระบบประชาธิปไตยก็ตาม ที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปทั่วประเทศรับฟังข้อร้องเรียนและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน แม้ตนจะยังบกพร่องอยู่บ้าง พร้อมยอมรับ ว่า ตนเองก็ไม่ใช่ ส.ส. ที่สุจริตร้อยเปอร์เซ็นต์
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ในวันที่ 17 ก.พ. นี้ ตนจะคืนอำนาจอธิปไตยให้กับประชาชนเพื่อพิจารณาใหม่อีกครั้ง ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่าผู้แทนแบบตนและพรรคไทยศรีวิไลย์ที่มีตนเป็นหัวหน้าพรรค ยังมีประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติหรือไม่ ก่อนจะก้มกราบที่พื้นสภาฯกลางห้องประชุม และจบการอภิปราย
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบเพิ่มเติม และได้รับคำยืนยันว่า นายมงคลกิตติ์ จะยื่นใบลาออก จากการเป็น ส.ส. ต่อ ประธานสภาฯในวันที่ 17 ก.พ. เวลา 09.09 น.-สำนักข่าวไทย