โตเกียว 12 ส.ค. – การปรับคณะรัฐมนตรีล่าสุดของนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ดูเหมือนจะช่วยทำให้ประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งในญี่ปุ่นผ่อนคลายความกังวลได้เพียงเล็กน้อย หลังจากที่ไม่พอใจกรณีที่พรรครัฐบาลมีความสัมพันธ์กับโบสถ์แห่งความสามัคคี ยูนิฟิเคชันเชิร์ช (Unification Church) หรือลัทธิมุน
รัฐบาลของนายคิชิดะ เผชิญกับกระแสความนิยมที่ลดลงต่ำที่สุดนับตั้งแต่เขารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคม และเมื่อวันพุธเขาตัดสินใจปรับคณะรัฐมนตรี เปลี่ยนตัวสมาชิกในคณะรัฐมนตรีบางคนที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มโบสถ์แห่งความสามัคคี ออกจากคณะรัฐมนตรี แต่ผลการสำรวจความเห็นของหนังสือพิมพ์โยมิอูริ ที่มีแนวอนุรักษ์นิยม พบว่าร้อยละ 55 ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าการแก้ปัญหาเรื่องนี้ของนายคิชิดะ ยังไม่เพียงพอ
คะแนนนิยมของรัฐบาลลดลงไปอยู่ที่ร้อยละ 51 ลดลงไป 6 จุด จากการสำรวจครั้งก่อนเมื่อวันที่ 5-7 สิงหาคมที่ผ่านมา ส่วนหนังสือพิมพ์นิกเคอิ เปิดเผยผลการสำรวจความเห็นประชาชนที่พบว่า ร้อยละ 86 ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าการกระทำของนายคิชิดะ ไม่ทำให้ประชาชนคลายความกังวลเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องระหว่างพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือแอลดีพี ที่เป็นพรรครัฐบาลกับกลุ่มดังกล่าว แต่คะแนนนิยมในรัฐบาลยังคงที่ที่ร้อยละ 57 นายฮิโรคาซู มัตซูโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตอบคำถามเกี่ยวกับผลการสำรวจความเห็นดังกล่าวว่ารัฐบาลจะรับฟังความคิดเห็นประชาชนอย่างรอบคอบและจะตอบสนองต่อความเห็นเหล่านี้
ความสัมพันธ์ของนักการเมืองกับโบสถ์แห่งความสามัคคีกลายเป็นปัจจัยกระทบกับรัฐบาลญี่ปุ่นในช่วงนี้นับตั้งแต่ผู้ต้องหาในการลอบสังหารนายชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น อ้างว่า ตัวเขาและแม่ต้องล้มละลายเนื่องจากโบสถ์แห่งความสามัคคีและกล่าวโทษว่า นายอาเบะเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มนี้ โบสถ์แห่งความสามัคคีก่อตั้งในเกาหลีใต้ในช่วงทศวรรษหลังปี 1950 และมีชื่อเสียงจากการจัดงานสมรสหมู่.-สำนักข่าวไทย