ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

ศบ.ทก.​เผยไทยเตรียมประท้วง หากกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่

ทำเนียบ 18 ก.ค.-ศบ.ทก.​ ยัน​ไทยไม่เพิกเฉย​ เตรียมประท้วง หากพบกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่​ ผิดอนุสัญญา​ออตตาวา​ ปี​ 2542 ทำ 3 ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน​ เผย​ผลหารือร่วม​ เหตุหญิงกัมพูชาทำวุ่นปราสาทตาเมือนธม​ คัดกรองเข้มนักท่องเที่ยว​ ส่งชุดประสานงานไทย-กัมพูชา ฝ่ายละ 7 คน ดูแลนักท่องเที่ยว ห้ามเรียกกำลังเพิ่ม​ หวังลดการเผชิญหน้า พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ โดยพลเรือตรีสุร​สันต์​ กล่าวชี้แจงกรณี พลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์​รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม​ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และในฐานะผอ.ศบ.ทก​ ได้ลงพื้นที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานีเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิด​ ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนพื้นที่ช่องบก​ จังหวัดอุบลราชธานี โดยทหารทั้ง 3 นาย​ อยู่ในสภาวะขวัญและกำลังใจที่ดีเยี่ยม ปัจจุบันได้ดูแลอย่างใกล้ชิดจากคณะแพทย์ เป็นไปตามมาตรฐาน​ และทันท่วงทีจนอาการทั้ง 3 นายอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย สำหรับพลทหารที่เหยียบกับระเบิดจนทำให้ขาด้านซ้ายขาด กองทัพภาคที่ 2 […]

“สิริพงศ์” ย้อนแสบ “ลุงโทนี่”

กทม. 18 ก.ค.-“สิริพงศ์” ย้อนแสบ ปมภูมิใจไทยถูก “ลุงโทนี่” ถามคนเขมรหรือเปล่า บอกไม่รู้หรอก ผู้นำเขมรมีจริยธรรมหรือไม่ รู้แค่ว่าผู้นำประเทศเราเรียกเขาว่า “Uncle” ท่านอยากได้อะไรก็ให้บอกมา เดี๋ยวจัดการให้! วันนี้ 18 ก.ค.68 เพจพรรคภูมิใจไทย โพสต์ภาพและข้อความ ของนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีพรรคถูกพาดพิง เป็นคนเขมรหรือไม่ ว่า “เราไม่รู้หรอกว่าผู้นำเขมรมีจริยธรรมหรือไม่ เพราะไม่เคยรู้จัก แต่เรารู้แค่ว่า ผู้นำประเทศเรา เรียกเขาว่า “Uncle” ท่านอยากได้อะไรก็ให้บอกมา เดี๋ยวจัดการให้!” ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวพาดพิง พรรคที่เพิ่งออกจากรัฐบาล บนเวทีเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤตโลก” ว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นกับกัมพูชา ตนก็แปลกใจ ไอ้ผู้นำเขมมันไร้จริยธรรมจะตาย แต่เรากลับไปเข้าข้างมัน ผมงงว่าเอ๊ะ! วันนี้คนไทยเราทำไมไม่รักกัน ทั้ง ๆ ที่วันนี้มันเป็นเรื่อง สิ่งที่ไม่น่าเกิด ไม่มีผู้นำที่ไหนในโลกเขาทำกัน แต่ว่าเรากลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคที่เพิ่งหลุดออกไปจากรัฐบาล […]

ทหารไทยยัน “ภูมะเขือ” ไม่ได้ถูกยึดตามข่าว ย้ำสถานการณ์ปกติ

17 ก.ค.- หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ยืนยันคุมพื้นที่ “ภูมะเขือ” จ.ศรีสะเกษ ได้ และไม่ได้ถูกยึดตามที่มีกระแสในโซเชียล ขอประชาชนเชื่อมั่นรักษาอธิปไตย ย้ำสถานการณ์ปกติ พร้อมแจงปมกัมพูชาสร้างกระเช้าขึ้นภูมะเขือ แค่เครื่องชักรอกขนาดเล็ก แต่ทหารยังต้องเดินเท้า จากกระแสข่าวภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ถูกทหารกัมพูชายึด พ.ท.จักรกพ.ท.จักรกฤษณ์ ขุริรัง ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 11 หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ ระบุว่า ในพื้นที่ภูมะเขือ มีทหารวางกำลังตลอดแนว และยังรักษาอธิปไตย และในส่วนของพื้นที่ตรงข้ามสามารถควบคุมได้ ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนกำลังทหารกัมพูชาที่อยู่ในพื้นที่ขอบภูมะเขือนั้น เป็นเพียงจุดตรวจ ส่วนกำลังอยู่ในพื้นที่ด้านล่าง ในขณะที่ความสัมพันธ์ ของเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่นี้มีจุดพัฒนาสัมพันธ์ในพื้นที่ที่กำหนดไว้ ตั้งแต่ระดับฐานปฏิบัติการ ถึงระดับหน่วยขนาดใหญ่ สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ ไม่มีความตึงเครียด โดยแต่ละฝ่ายมีการลาดตระเวนและพบปะกันอย่างต่อเนื่อง ส่วนประชาชน ได้ติดตามข่าวสารผ่านทางโซเชียลมีเดีย แล้วทำให้เกิดความเข้าใจผิดนั้น ขอให้เชื่อมั่น กำลังทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ บริเวณนี้ ว่าจะสามารถรักษาอธิปไตยในพื้นที่ ภูมะเขือได้ต่อเนื่อง พ.ท.จักรกฤษณ์ ยังกล่าวถึง กรณีที่กัมพูชา สร้างกระเช้าและบันไดขึ้นภูมะเขือว่า ในส่วนของกระเช้ามีขนาดเล็ก […]

“ภูมิธรรม” รอตรวจสอบข้อเท็จจริง ระเบิดเก่าหรือใหม่

วัดราชบพิธฯ 17 ก.ค.-“ภูมิธรรม” รองนายกฯ​ ฝ่ายความมั่นคง​ ขอรอตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีทหารพราน 3 นาย เหยียบกับระเบิด เป็นของเก่าหรือใหม่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ฝ่าย​ความมั่นคง​และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานออกลาดตระเวนเหยียบกับระเบิดบนเนิน 481 ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี โดยเบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ​ 3 นาย​ มีข้อเท้าซ้ายขาด 1 นาย อีก 2 นาย แน่นหน้าอกจากแรงระเบิด ได้รับรายงานแล้วหรือไม่ว่าเป็นระเบิดที่วางไว้เดิมหรือวางใหม่​ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานข้อเท็จจริง แต่รู้ว่ามีทหารบาดเจ็บและขณะนี้กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่.-319.-สำนักข่าวไทย

นักท่องเที่ยวคึกคัก “ตาเมือนธม” ปรับลดกำลังฝั่งละ 3 นาย

สุรินทร์ 16 ก.ค. – แม้เพิ่งผ่านเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จนนักท่องเที่ยวต้องวิ่งหลบเข้าบังเกอร์เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ แต่วันนี้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและกัมพูชายังคงเข้าไปเที่ยวคึกคัก ล่าสุดมีการปรับลดกำลังบนตัวปราสาทฝั่งละ 3 นาย ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ คึกคัก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยากมาให้กำลังใจทหารที่ทำหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติอย่างแข็งขัน หลังวานนี้ (15 ก.ค.) เกิดเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม ล่าสุดมีการปรับลดกำลังของแต่ละฝ่ายบนตัวปราสาท ฝั่งละ 3 นาย บรรยากาศปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นักท่องเที่ยวทยอยเข้าพื้นที่ตั้งแต่เช้าก่อนเวลาเปิด ทั้งรถส่วนตัว รถทัวร์ รถตู้โดยสาร โดยรถทัวร์ 2 คัน ผู้โดยสาร 150 คน มาจากเทศบาลตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี นำสิ่งของมาบริจาคบำรุงขวัญทหาร ตำรวจแนวหน้า ขณะที่กลุ่มคนสวมเสื้อสกรีนข้อความ “รักเธอประเทศไทย” เป็นกลุ่มคุณเจน ญาณปรีดส์ ราว 40 คน เดินทางด้วยรถตู้ 4 คัน มาจากกรุงเทพฯ นอกจากมอบสิ่งของบริจาคเพื่อทหารทุกนายแล้ว ยังมอบเงินพิเศษให้ทหาร 2 […]

“ภูมิธรรม” ขออดทนอดกลั้นเหตุกัมพูชายั่วยุ อย่าฟัง “ฮุนเซน”

บน.6 ดอนเมือง 16 ก.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่นรัฐบาลไม่พอใจกัมพูชามากอยู่แล้ว ขอประชาชน-ทหาร อดทนเหตุยั่วยุต่างๆ อย่าฟัง “ฮุนเซน” แค่ “พ่อนายกฯ เขมร” อยากแก้ปัญหา แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายที่ประสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ วานนี้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิด ซึ่งทราบว่ามีการยั่วยุ โดยพยายามสั่งให้เจ้าหน้าที่ไทยระมัดระวังและอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด รวมถึงพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่ก็ต้องคอยระวัง เพราะกัมพูชาจะใช้กลยุทธ์วิธีแบบนี้ในการทำให้เกิดการประทะกัน เกิดความรุนแรง ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในเรื่องระหว่างประเทศได้ กำลังพลของไทยส่วนใหญ่เข้าใจ ยืนยันว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา และไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเราทำให้เกิดความรุนแรง เพื่อจะเอาพื้นที่กลับมา สำหรับปราสาทตาเมือนธม ก็มีมาตรการในการป้องปรามอยู่แล้ว เปิดบางส่วนปิดบางส่วน ก็ต้องดูเป็นพื้นที่ และเป็นอำนาจในการควบคุมดูแลของแม่ทัพภาคที่ 2 เมื่อถามว่ากังวลจะมีเหตุซ้ำรอยหรือไม่ เพราะกัมพูชายั่วยุมา ส่วนฝ่ายไทยก็มีอดีตทหารพรานไปชกหน้าทหารกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ต้องพยายามอย่าปลุกความเกลียดชัง สิ่งที่เราห่วงใยคือการปะทะแล้วจะเลยเถิดไปถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนชาวไทยที่อยู่แนวชายแดน และทหารหาญ เพราะถ้ากระทบขึ้นมาก็ไม่ดี “รัฐบาลไม่พอใจกัมพูชาอย่างมากอยู่แล้ว และในแง่การดำเนินการทางการทูต รัฐมนตรีต่างประเทศก็ได้ดำเนินการแต่ละขั้นตอน […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

“แพทองธาร” ปัดตอบปมกัมพูชาขึ้นทะเบียนวรรณกรรมไทยต่อยูเนสโก

ทำเนียบ 15 ก.ค.- “แพทองธาร” ร่วมประชุม ครม. ไม่ตอบปมกัมพูชาขึ้นทะเบียนวรรณกรรมไทยต่อยูเนสโก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี โดยไม่ตอบคำถามสื่อมวลชน หลังถามถึง กรณีประเทศกัมพูชาได้นำวรรณกรรมไทยหลายรายการ ไปขึ้นทะเบียนต่อองค์การยูเนสโก ในรายการมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ โดยนางสาวแพทองธารเดินขึ้นตึกบัญชาการ 1 เข้าร่วมประชุม ครม.ทันที .-315 -สำนักข่าวไทย

วธ.สั่งสอบกัมพูชานำ 22 วรรณกรรมไทย สอดไส้ขึ้นทะเบียนกับยูเนสโก

15 ก.ค. – ปลัดวัฒนธรรม สั่งตรวจสอบแล้ว หลังมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อ้างมีรายชื่อวรรณกรรมไทยหลายรายการถูกนำไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก โดยประเทศอื่น นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์และสื่อมวลชนบางแห่ง โดยอ้างว่ามีรายชื่อวรรณกรรมไทยหลายรายการถูกนำไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับองค์การยูเนสโก โดยประเทศอื่นๆ นั้น กระทรวงได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว และได้มอบหมายให้อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประสานความร่วมมือกับกรมศิลปากร กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว เนื่องจากกระบวนการพิจารณาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาตรวจสอบ กลั่นกรองข้อมูลอย่างถี่ถ้วนและรอบคอบ กระทรวงวัฒนธรรม ขอยืนยันว่าหากได้รับข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วนแล้วจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบในโอกาสต่อไป เขมรเคลมฉก 22 วรรณกรรมไทยสอดไส้ขึ้นทะเบียนยูเนสโกแล้วก่อนหน้านี้ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “JanJao K. Sisprakaew” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่เขมรนำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย รายชื่อวรรณกรรมเหล่านี้ถูกแต่งขึ้นโดยชาวไทย แต่ถูกเขมรนำไปขึ้นทะเบียนต่อ Unesco ในหัวข้อ “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ Cultural heritage of Cambodia” วรรณกรรมไทยเหล่านี้ถูกเขมรเคลมเป็นของตนเองเพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodiaโดยเขมรอ้างว่ารายชื่อวรรณกรรมเหล่านี้ได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ตั้งแต่ปี พ.ศ. […]

“ฮุน มาเนต” ยื่นเงื่อนไขเปิดด่าน 3 ข้อ

14 ก.ค. – นายกฯ กัมพูชา ยื่นเงื่อนไข 3 ข้อที่ฝ่ายไทยจะต้องปฏิบัติ ถ้าต้องการให้กัมพูชายอมเปิดด่านพรมแดน ขณะที่ “ฮุน เซน” ยังคงเดินหน้ากล่าวหาไทยอย่างต่อเนื่อง นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาพูดในงานครบรอบ 32 ปีการสถาปนากรมทหารราบที่จังหวัดกัมปงชนังในวันนี้ว่ากัมพูชาจะยอมเปิดจุดผ่านแดนทวิภาคีกับไทยอีกครั้งก็ต่อเมื่อบรรลุเงื่อนไข 3 ประการที่ฝ่ายกัมพูชากำหนดขึ้น “ฮุน มาเนต” ย้ำว่าฝ่ายไทยเป็นผู้ดำเนินการปิดด่านแต่เพียงฝ่ายเดียว และว่าเวลานี้กุญแจในการเปิดด่านได้ถูกส่งมอบให้ฝ่ายไทยเรียบร้อยแล้ว รอแค่ฝ่ายไทยเปิดด่านก็พอไม่ต้องเจรจาหรือต่อรองอะไรกันอีก เงื่อนไข 3 ข้อที่ฮุนมาเนตเรียกร้อง คือ 1) ไทยจะต้องประกาศเปิดด่านแต่เพียงฝ่ายเดียวและต้องยืนยันด้วยว่าจะไม่ปิดด่านแต่เพียงฝ่ายเดียวอีก 2) ไทยจะต้องเปิดด่านทุกด่านโดยไม่มีข้อยกเว้น และ 3) จะต้องเปิดด่านตามเวลาที่เคยเปิดก่อนวันที่ 7 มิถุนายน คือตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้าไปจนถึง 4 ทุ่ม ฮุนมาเน็ตบอกว่าเมื่อไทยเปิดด่านแล้ว กัมพูชาจะเปิดตามในอีก 5 ชั่วโมงหลังจากนั้น ฮุน มาเน็ตอ้างว่าฝ่ายไทยขอให้กัมพูชาเปิดด่านมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งเขาบอกว่ากัมพูชาไม่มีเจตนาที่ปิดด่านให้ต้องกระทบกับประชาชนแต่ก็จำเป็นต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดไม่ใช่นิ่งนอนใจหลังจากที่ฝ่ายไทยปิดด่านก่อน และที่ผ่านมาไทยก็เปลี่ยนแปลงเวลาในการเปิดด่านมาตลอดซึ่งกัมพูชาจะไม่ทนกับเรื่องนี้อีกต่อไป ฝ่ายนายฮุนเซนผู้พ่อซึ่งมีตำแหน่งประธานวุฒิสภาเมื่อวานนี้โพสต์เฟซบุ๊กร่ายยาวโจมตีไทยว่าเป็นศูนย์กลางของแก๊งอาชญากรรมออนไลน์ ทั้งแก๊งฉ้อโกงทางโทรศัพท์ การพนันออนไลน์ และการฟอกเงิน […]

กัมพูชาเล็งเดินหน้าใช้กฎหมายบังคับเกณฑ์ทหาร

กัมปงชนัง 14 ก.ค. — นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา เปิดเผยว่ากัมพูชาจะเริ่มบังคับใช้กฎหมายการเกณฑ์ทหารภาคบังคับอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2026 เพื่อเสริมสร้างกำลังทหารของประเทศ หลังจากมีการประกาศกฎหมายดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2006 แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยบังคับใช้อย่างจริงจัง สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า นายฮุน มาเนต กล่าวระหว่างพิธีฉลองวาระครบรอบ 32 ปี การก่อตั้งหน่วยงานตำรวจทหารแห่งชาติกัมพูชา ที่จังหวัดกัมปงชนังทางตอนกลางของกัมพูชาว่า กฎหมายข้างต้นจะช่วยเพิ่มจำนวนทหาร และเสริมความเข้มแข็งให้กับกองทัพของกัมพูชา โดยกฎหมายนี้ระบุว่าชายชาวกัมพูชาทุกคนที่มีอายุระหว่าง 18-30 ปี ต้องสมัครและเข้ารับการฝึกทหารเป็นระยะเวลา 18 เดือน อย่างไรก็ดี ฮุน มาเนต เสริมว่าระยะเวลาการฝึกภาคบังคับนี้อาจขยายเพิ่มจาก 18 เดือนเป็น 24 เดือน.-813.-สำนักข่าวไทย

1 21 22 23 24 25 113
...