กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค.- “แพทองธาร” ตอบสื่อนอก ขอประชาคมโลก พิจารณาการกระทำของกัมพูชา เป็นสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่ ในเมื่อไทยแสดงออกอย่างชัดเจน ถึงความตั้งใจรักษาสันติภาพ และเปิดการเจรจาในทุกระดับ แต่กลับไม่ได้รับการตอบสนองอย่างจริงใจ
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ตอบคำถามสื่อ CNN เป็นภาษาอังกฤษ ที่ถามว่า หลังการประชุม UNSC ทั่วโลกติดตาม สถานการณ์ไทยกัมพูชา จะอธิบายกับโลกอย่างไร โดยย้ำว่า ประเทศไทยได้อดกลั้นต่อการยั่วยุต่าง ๆ จากฝ่ายกัมพูชา อย่างต่อเนื่อง ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะรักษาสันติภาพ และไม่ต้องการความรุนแรงหรือเหตุการณ์ใด ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ตาม ความพยายามของฝ่ายไทยในการจัดการเจรจาอย่างจริงใจ ไม่ได้รับความจริงใจกลับมาเท่าที่ควร
นายกรัฐมนตรีระบุว่าเราได้พยายามผลักดันให้เกิดกลไกทวิภาคี และเวทีการหารืออย่างสันติหลายครั้ง แต่เราก็ยังไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร แม้จะมีการประชุมร่วมกันมาแล้วในอดีต แต่สถานการณ์ก็ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ฝ่ายไทยยังคงพยายามโน้มน้าวให้กัมพูชาเข้าร่วมในการหาทางออกอย่างสันติ และเราก็ยังไม่แน่ใจว่าฝ่ายกัมพูชา มีวาระซ่อนเร้นอื่นใดเพิ่มเติม จากสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ อย่างไรก็ดี ประชาคมโลกย่อมสามารถเห็นได้ จากรายงานข่าวต่าง ๆ ว่าประเทศไทยได้พยายามอย่างเต็มที่ ในการรักษาความสงบ อย่างสุดความสามารถ จนกระทั่งในช่วงเช้าของวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้เปิดฉากโจมตีก่อน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น
นางสาวแพทองธาร กล่าวว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องใช้ทุกวิถีทางในการยุติความรุนแรง และตอบโต้กลับ เราไม่มีเจตนาใดในการเริ่มต้นการสู้รบ แต่เมื่อชีวิตของประชาชนตกอยู่ในอันตราย หน้าที่ของเราคือการปกป้องพวกเขา
ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในหลักการของความจริงใจ และความมุ่งมั่นในการปกป้องประชาชน และอธิปไตยของชาติ และที่ผ่านมาเราได้รับการชื่นชมจาก UN ในการบริหารจัดการศูนย์ประสานงานเกี่ยวกับสถานการณ์การจัดการคอลเซ็นเตอร์ ที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ ซึ่งองค์การสหประชาชาติเอง ก็แสดงความประสงค์ที่จะร่วมมือกับประเทศไทยในประเด็นดังกล่าว
นางสาวแพทองธาร ระบุว่าหากกัมพูชาไม่ได้รับผลกระทบใด จากความจริงเหล่านี้ ก็ย่อมไม่มีเหตุผลอันใดที่จะดำเนินการในลักษณะเช่นนี้ ประเทศไทย จึงขอเชิญประชาคมโลก พิจารณาว่า การกระทำของฝ่ายกัมพูชานั้น เป็นสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่ ในเมื่อฝ่ายไทยแสดงออกอย่างชัดเจน ถึงความตั้งใจที่จะรักษาสันติภาพ และเปิดการเจรจาในทุกระดับ ที่เป็นไปได้ แต่กลับไม่ได้รับการตอบสนองอย่างจริงใจ.-319 -สำนักข่าวไทย