ทบ. แจง 4 ขั้นตอนแนวทางปฏิบัติควบคุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย.-ทบ. แจงแนวทางปฏิบัติตามคำสั่งควบคุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา ดำเนินการเป็นขั้นตอนตามสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าจาก กรณีที่กองทัพบกได้ออกคำสั่งให้มีการควบคุมจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อรักษาอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความมั่นคงของชาติ การดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวมิได้เป็นการใช้มาตรการสูงสุดในทันที แต่เป็นแนวทางปฏิบัติแบบขั้นตอน โดยพิจารณาจากระดับความรุนแรงของสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ โดยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอนหลัก ดังนี้ ขั้นที่ 1 จำกัดการผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่งสินค้า แรงงาน และงานจำเป็นอื่น ๆ โดยเพิ่มระดับความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น นักพนัน หรือกลุ่มที่อาจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย ขั้นที่ 2 ปรับลดช่วงเวลาในการเปิด–ปิดจุดผ่านแดน พร้อมทั้งกำหนดวัน–เวลาการเข้า–ออกอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมความเคลื่อนไหวของบุคคลและกิจกรรมในพื้นที่ชายแดน ขั้นที่ 3 ปิดจุดผ่านแดนบางจุด (Selective Closure) โดยพิจารณาจากจุดที่มีความเสี่ยงสูง หรือมีข้อมูลด้านความมั่นคงที่อาจนำไปสู่การรุกล้ำ หรือการก่อเหตุจากฝ่ายตรงข้าม ขั้นที่ 4 ปิดจุดผ่านแดนตลอดแนวชายแดนในกรณีที่เกิดสถานการณ์วิกฤต หรือมีการรุกรานอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมสถานการณ์ในระดับสูงสุด โฆษกกองทัพบกย้ำว่า มาตรการดังกล่าวได้มอบอำนาจให้ กองกำลังบูรพา และ […]

มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา – สุรนารี คุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย. – ทบ.ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน สำหรับรายละเอียดทั้งหมดในคำสั่งดังกล่าวสามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารทางการของกองทัพบกที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ -313-สำนักข่าวไทย

กองทัพบกชวนติดแฮชแท็ก “ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด” ให้กำลังใจทหารไทย

6 มิ.ย. – กองทัพบกโพสต์เชิญชวนคนไทยติดแฮชแท็ก “#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด” ให้กำลังใจทหารไทย ขณะที่วันนี้ (6 มิ.ย.) นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดมากขึ้นทุกที วันนี้ (6 มิ.ย.) มีการนัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ซึ่งทุกกองทัพเตรียมทั้งแผน กำลังพล และอาวุธยุทธโธปกรณ์ พร้อมรักษาอธิปไตยของชาติ เฟซบุ๊กกองทัพบกโพสต์เชิญชวนคนไทยติดแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่พี่น้องทหาร ซึ่งเป็นท่อนหนึ่งของเพลงชาติไทย เป็นท่อนเดียวกับที่นายกฯ พูดหลังประชุม ครม. เมื่อเข้าไปดูในคอนเมนต์ มีหลายคนเข้ามาส่งกำลังใจให้ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ “กองทัพบก” พร้อมสนับสนุนเตรียมเคลื่อนย้ายทุกภารกิจขณะนี้กำลังทหารมีการเตรียมความพร้อม อย่างกองทัพบกโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เราพร้อมสนับสนุนการเคลื่อนย้ายในทุกภารกิจ เพราะเรา คือ หลักประกันความพร้อมรบของหน่วยทหารม้ารถถัง” เมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ฯ ได้ตรวจสภาพความพร้อมของหมวดขนส่งเฉพาะกิจ กองพันซ่อมบำรุงกรม สนับสนุนที่ 12 เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก “ทหารรบพิเศษ” ฝึกเข้มยุทธวิธี พร้อมสนับสนุนภารกิจด้าน พล.ท.ณรงค์ฤทธิ์ คัมภีระ […]

ทบ.ยันเหตุปะทะช่องบก ทหารกัมพูชายิงก่อน

กองทัพบก 5 มิ.ย.-ทบ.โต้กัมพูชา เหตุปะทะช่องบก ทหารกัมพูชายิงก่อน เพราะหน่วยระดับบริหาร-ปฏิบัติ ไร้ความชัดเจน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้กล่าวถึงกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์วันนี้ พบมีบางประเด็นที่พาดพิงถึงทหารฝ่ายไทย โดยอ้างถึงเหตุการณ์ปะทะที่ช่องบกว่า ฝ่ายไทยเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อนนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมา กองทัพบกโดย ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เน้นย้ำหน่วยและกำลังพลให้เคร่งครัดในเรื่องของ กฎการปะทะ ยืนยันว่าการปะทะในครั้งนั้นเป็นไปในลักษณะของการป้องกันตัวระดับบุคคล เนื่องจากขณะนั้น หน่วยได้รับข่าวสารว่ามีทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธได้รุกล้ำเข้ามาวางกำลังในพื้นที่ของประเทศไทย ฝ่ายไทยจัดกำลังขนาดเล็กเข้าไปเพื่อลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ แต่ฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธตอบโต้ จึงเกิดการปะทะกัน ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการชี้แจงไปก่อนหน้านี้แล้ว “ขอยืนยันว่า กรณีเกิดเหตุข้อพิพาทในพื้นที่ ฝ่ายไทยได้พยายามดำเนินการผ่านกลไกการเจรจาระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่ ตามที่ทั้งสองประเทศเคยตกลงกันไว้ แต่กลับเป็นฝ่ายกัมพูชาเองที่ไม่มีท่าทีให้ความร่วมมืออย่างจริงจังในระยะหลัง”พล.ต.วินธัย กล่าว โฆษกกองทัพบก กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน กองทัพบกมีความพร้อมต่อปฏิบัติการทางทหารในระดับสูง เพื่อรองรับกรณีที่จำเป็นต้องใช้มาตรการทางทหารตอบโต้ปัญหาการรุกล้ำอธิปไตย ที่ผ่านมา กองทัพบก และกองกำลังป้องกันชายแดน ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ได้ติดตามและรวบรวมข่าวสารของทางฝั่งกัมพูชา ตั้งแต่หน่วยระดับปฏิบัติ จนถึงหน่วยงานในระดับบริหาร พบว่ามีลักษณะท่าทีในการร่วมกันแก้ปัญหาที่ขาดความชัดเจน อีกทั้งปรากฏสิ่งบอกเหตุว่าฝ่ายกัมพูชา ยังคงดำเนินการเตรียมความพร้อมทางทหารอย่างเข้มข้น ควบคู่กับมาตรการด้านการต่างประเทศมาโดยตลอด ซึ่งถือเป็นความน่ากังวลในแง่มุมทางทหาร ทำให้ตลอดห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการทหารบก […]

โดรนสอดแนม

ทบ. ยันไม่จริง! ปมกัมพูชาอ้างไทยส่งโดรนสอดแนม

กองทัพบก 3 มิ.ย.- โฆษก ทบ. ยัน ไม่จริง หลังกัมพูชาอ้างไทยใช้โดรนสอดแนมรุกล้ำอธิปไตย ลั่น ไม่จำเป็นเพราะดูจากในโซเชียลว่อนไปหมด ขอประชาชนใช้วิจารณญาณในการดูข่าวสารจากทางกัมพูชา เพราะส่วนใหญ่เป็นข่าวไม่จริง พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า สำนักข่าวของกัมพูชารายงาน โดยอ้างรายงานจากชายแดนในบ่ายวันจันทร์ (2 มิ.ย.) ว่าทหารกัมพูชาที่ประจำอยู่แนวหน้าใน จ.พระวิหาร ได้สกัดโดรนที่บินรุกล้ำน่านฟ้าประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ในการลาดตระเวน และจากการประเมินเบื้องต้นชี้ว่าทหารไทยได้ส่งโดรนดังกล่าวเข้ามารวบรวมข่าวกรองเกี่ยวกับการเคลื่อนกำลังพลและอาวุธของกองทัพกัมพูชานั้น ว่า ไม่จริง และการใช้โดรน ปัจจุบันถือเป็นเรื่องปกติ การใช้โดรนในพื้นที่ดังกล่าว ต่างฝ่ายก็ใช้กัน ทั้งไทยและกัมพูชา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน ยังไม่มีการแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน การใช้โดรนจึงไม่สามารถรู้ได้ว่ารุกล้ำเขตแดนของใครหรือไม่ แต่ยืนยันว่า ไทยเราไม่มีการส่งโดรนเข้าไป และโดรนดังกล่าว ก็ไม่ใช่ของไทย พล.ต.วินธัย กล่าวอีกว่า ในการเคลื่อนกำลังพล หรืออาวุธยุทโธปกรณ์ ของกองทัพกัมพูชา มีให้เห็นผ่านทางโซเชียลมีเดียเต็มว่อนไปหมด จึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้โดรน “การดูข่าวสารจากฝั่งกัมพูชา ช่วงนี้ ขอให้ตรวจสอบจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ส่วนใหญ่เป็นข่าวไม่จริง” โฆษกกองทัพบก กล่าว -313 .-สำนักข่าวไทย

ทบ.เตือนกัมพูชาอย่าเบี่ยงประเด็น ปมช่องบกยังไม่เคลียร์

กทม. 3 มิ.ย.- โฆษกกองทัพบก เตือน “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา อย่าเบี่ยงประเด็น ปมช่องบกยังไม่เคลียร์ ขณะที่ “นายกฯ-ภูมิธรรม” เบรกกองทัพปิดด่านชายแดน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีกัมพูชาเตรียมร้องต่อศาลโลก ยังเป็นคนละเรื่องกับปัญหาปัจจุบัน โดยปัจจุบัน คือการทำอย่างไรที่จะอยู่ร่วมกันในพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อน ที่ยังไม่ชี้ชัดว่าควรเป็นพื้นที่ของใคร ในขั้นตอนแรก ทั้ง 2 ฝ่าย จึงถอยห่างจากจุดปะทะ และให้เจบีซีดูเรื่องปักปันเขตแดนหรือกฎหมาย ข้อตกลงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนภาพที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาโพสต์ เพื่ออ้างพื้นที่ว่าเป็นของกัมพูชานั้น พื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ใกล้ศาลาตรีมุข ไม่ใช่พื้นที่เกิดเหตุปะทะ ซึ่งเป็นป่า ไม่เคยมีชาวบ้านหรือทหารกัมพูชามาอยู่ จากหลักฐานภาพถ่ายนั้นชัดเจนว่า เพิ่งมาขุดคูเลตเมื่อไม่นานมานี้ ไม่ใช่ขุดไว้เมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว “นายกฯ-ภูมิธรรม” เบรกกองทัพปิดด่าน ทั้งนี้ เดลินิวส์ เปิดเผยรายงานข่าวว่า รัฐบาลขอให้กองทัพไทย ใช้ความอดทนอดกลั้นต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังพบว่ากัมพูชาเพิ่มกำลังทหารและอาวุธหนักเข้าพื้นที่ช่องบกจำนวนมาก พร้อมหันกระบอกปืนใหญ่เข้าหาฝ่ายไทย โดยกองทัพไทย ได้แจ้งไปยังรัฐบาลว่า จุดที่ทหารกัมพูชารุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ฝ่ายไทย ทำให้เกิดความไม่สบาย จึงขอประกาศปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนว […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ย้ำ ทหารกัมพูชาถอนกำลังจุดปะทะแล้ว จ่อลาดตระเวนร่วมกัน

กองทัพบก 30 พ.ค.-โฆษก ทบ.ย้ำ ทหารกัมพูชาถอนกำลังจุดปะทะแล้ว เตรียมลาดตระเวนร่วมกัน รอปักปันเขตแดน ผ่านกลไก JBC พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี กัมพูชาออกแถลงการณ์ไม่ถอยกำลังทหารออกจากจุดปะทะว่า การที่ฝ่ายกัมพูชาแถลงว่าไม่ถอนกำลัง ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าจุดไหน ก็คงต้องใช้กลไกที่มีอยู่ในกรอบข้อตกลง ดำเนินการต่อไป แต่สำหรับจุดที่ปะทะกันบริเวณคูเลต เมื่อเช้า 28 พ.ค. พบว่าได้มีการถอยห่างกำลังเผชิญหน้าออกไปแล้วทั้งสองฝ่าย ส่วนเรื่องเขตพื้นที่ตามแนวชายแดนนั้น ที่ต่างฝ่าย ต่างฝ่ายอ้างสิทธิด้วยกัน อาจจะทำให้เถียงกันไม่จบ จึงต้องใช้กลไก ฝ่ายเทคนิค คณะทำงานงานปักปันเขตแดน (JBC) พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. จะสนับสนุนให้มีการเร่งดำเนินการ ดังนั้นในระหว่างที่รอผลของคณะทำงาน JBC ฝ่ายไทยก็คงจะใช้การลาดตระเวนดูแลพื้นที่ ด้วยจำนวนกำลังที่เหมาะสม ตามเงื่อนไขข้อตกลง MOU เหมือนในทุกพื้นที่ตามแนวชายแดนที่มีปัญหาในเรื่องการอ้างสิทธิ์ทับซ้อนกัน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติและของพี่น้องชาวไทย โดยยังคงยึดหลักในการไม่รุกรานอธิปไตยของฝ่ายกัมพูชาเป็นสำคัญ.-313.-สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” เผยคุย “สมเด็จฮุนเซน” แล้ว เชื่อเคลียร์กันจบ

เนชั่น 30 พ.ค.-“ทักษิณ” เผยคุย “สมเด็จฮุนเซน” แล้ว ปมขัดแย้งไทย-กัมพูชา เชื่อเคลียร์กันจบ เหตุผู้ใหญ่ 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดี วอนอย่าเติมเชื้อไฟ ขอเปลี่ยนจากยิงกันให้มาเตะตะกร้อแทน ชี้พื้นที่เป็น No man’s land ต้องไม่มีผู้ครอบครอง ลดเหตุกระทบกระทั่ง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชา หลังเกิดเหตุปะทะบริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า คิดว่าน่าจะเคลียร์กันจบแล้ว เพราะผู้ใหญ่ทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีคุยกันรู้เรื่อง และทางทหารก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และเรื่องดังกล่าวเป็นการกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ ของทหารชั้นผู้น้อย ซึ่งมีกติกาที่ว่า เขตแดนที่ไม่ชัดเจน ไม่มีการปักปัน ใครจะอ้างสิทธิ์อย่างไรก็ให้ถอยออกไปก่อน หรือเป็น No man’s land ไม่มีผู้ที่ครอบครองหรือใช้สิทธิ์ ซึ่งก็จะไม่เกิดเหตุกระทบกระทั่งกัน เพราะการปักปันแดนของแต่ละประเทศทั่วโลก บางครั้งต้องใช้เวลานานเป็น 1000 ปี พูดคุยกันไม่จบ และบริเวณดังกล่าวก็ไม่มีอะไรเป็นพื้นที่ป่า ส่วนได้มีการพูดคุยกับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภา และประธานองคมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา แล้วหรือไม่นั้น นายทักษิณระบุว่า ทั้ง 2 […]

ทบ.แถลงการณ์ “กองทัพบกไทย-กัมพูชา” ยึด 4 ข้อแก้ปัญหาชายแดน

กองทัพบก 30 พ.ค.-ทบ.แถลงการณ์ “กองทัพบกไทย-กัมพูชา” ยึด 4 ข้อแก้ปัญหาพิพาทชายแดน ยันทหาร 2 ฝ่ายถอนกำลังจากจุดปะทะช่องบกแล้ว วอนประชาชนรับฟังข้อมูลสื่อหลัก ขอเชื่อมั่นทหารปกป้องอธิปไตยทุกตารางนิ้ว กองทัพบก ออกหนังสือแถลงการณ์ผลการเจรจาระหว่าง ผบ.ทบ.ไทย – ผบ.ทบ.กัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ 1.ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียกำลังพลจากเหตุการณ์ปะทะ และเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญต่อเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของทั้งสองประเทศ ที่ต้องการให้มีการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนการพูดคุยเจรจาด้วยสันติวิธีในการหาข้อตกลงร่วมกัน และขอยืนยันว่าจะไม่มีการรุกรานอธิปไตยหรือการหยิบยกประเด็นข้อขัดแย้งในอธิปไตยของกัมพูชาโดยเด็ดขาด การเจรจาครั้งนี้จะส่งผลดีต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ 2.กรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทยและกัมพูชา มีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ซึ่งเป็นกลไกในระดับรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุม JBC คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอีก 2 สัปดาห์ โดยปัจจุบันกำลังทั้งสองฝ่ายที่เคยปะทะได้ตกลงที่จะเคลื่อนออกจากพื้นที่ ถือเป็นการคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นพ้องในการใช้กลไกคณะกรรมการร่วมมือรักษาความ สงบเรียบร้อยบริเวณชายแดน หรือ Reqional Border Committee (RBC) เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยที่อาจค้างคา และส่งเสริมกลไก JBC ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น […]

ทบ.จ่อออกแถลงการณ์ห้ามทหารกัมพูชาเข้าใช้พื้นที่เนิน 745

กองทัพบก 30 พ.ค.- ทบ. เตรียมออกแถลงการณ์จุดปะทะช่องบก ไม่ให้ทหารกัมพูชาเข้ามาใช้พื้นที่เนิน 745 – ต้นสัตบรรณ ถึงสามแยกลาว เล็งพูดคุยจัดชุดลาดตระเวนร่วม ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ในช่วงเช้าที่ผ่านมา พิธีไถ่ชีวิตกระบือ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระราชินี 3 มิ.ย. โดยในวันนี้ กองทัพบกเตรียมออกแถลงการณ์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อย่างเป็นทางการ ภายหลังวานนี้ (29 พ.ค.) พล.อ.พนา ได้หารือกับ พลเอก เมา โซะพัน ผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา และคณะฝ่ายกัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน กรณีเกิดเหตุปะทะช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี จนได้ข้อสรุป 3 ข้อ 1.กรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทย และกัมพูชา มีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ซึ่งเป็นกลไกในระดับรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุม JBC คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอีก 2 สัปดาห์ 2.ปัจจุบันกำลังทั้งสองฝ่ายที่เคยปะทะได้เคลื่อนออกจากพื้นที่แล้ว […]

1 6 7 8 9 10 38
...