6 มิ.ย. – กองทัพบกโพสต์เชิญชวนคนไทยติดแฮชแท็ก “#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด” ให้กำลังใจทหารไทย ขณะที่วันนี้ (6 มิ.ย.) นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดมากขึ้นทุกที วันนี้ (6 มิ.ย.) มีการนัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ซึ่งทุกกองทัพเตรียมทั้งแผน กำลังพล และอาวุธยุทธโธปกรณ์ พร้อมรักษาอธิปไตยของชาติ
เฟซบุ๊กกองทัพบกโพสต์เชิญชวนคนไทยติดแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่พี่น้องทหาร ซึ่งเป็นท่อนหนึ่งของเพลงชาติไทย เป็นท่อนเดียวกับที่นายกฯ พูดหลังประชุม ครม. เมื่อเข้าไปดูในคอนเมนต์ มีหลายคนเข้ามาส่งกำลังใจให้ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ
“กองทัพบก” พร้อมสนับสนุนเตรียมเคลื่อนย้ายทุกภารกิจ
ขณะนี้กำลังทหารมีการเตรียมความพร้อม อย่างกองทัพบกโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เราพร้อมสนับสนุนการเคลื่อนย้ายในทุกภารกิจ เพราะเรา คือ หลักประกันความพร้อมรบของหน่วยทหารม้ารถถัง”
เมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ฯ ได้ตรวจสภาพความพร้อมของหมวดขนส่งเฉพาะกิจ กองพันซ่อมบำรุงกรม สนับสนุนที่ 12 เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก
“ทหารรบพิเศษ” ฝึกเข้มยุทธวิธี พร้อมสนับสนุนภารกิจ
ด้าน พล.ท.ณรงค์ฤทธิ์ คัมภีระ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ สั่งการให้กองพลรบพิเศษที่ 1 เตรียมความพร้อมเพื่อสนับสนุนภารกิจกองทัพบก ในการใช้กำลังที่กำลังมีสถานการณ์ความขัดแย้งในปัจจุบัน มีการฝึกทบทวนและตรวจสอบการใช้อาวุธปืนหลักและรอง เน้นย้ำและสั่งการให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ พร้อมรับภัยคุกคามทุกรูปแบบ ยึดมั่นในอุดมการณ์ เกียรติ ศักดิ์ศรีของทหารอาชีพ ให้สมกับเป็นทหารรบพิเศษ และมีความพร้อมของยุทโธปกรณ์ ทำให้มั่นใจได้ว่าสามารถปฏิบัติภารกิจได้เมื่อได้รับคำสั่ง
อินทรีไม่เคยหลับ! กองบิน 21 อุบลฯ ตรวจความพร้อมรบเต็มพิกัด
กองบิน 21 ตรวจความพร้อมรบและซักซ้อมแผนป้องกันฐานบินเต็มรูปแบบ ภายใต้การบัญชาการอย่างใกล้ชิดของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ผลการปฏิบัติเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง กำลังพลทุกนาย อาวุธยุทโธปกรณ์ทุกชิ้น เครื่องบินรบทุกหมู่บิน พร้อมปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยและดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ พร้อมบอกว่าขอให้พี่น้องประชาชนอุ่นใจและมั่นใจในศักยภาพของกองทัพอากาศ
ทร.พร้อมทั้งเรือ-อาวุธสงคราม “กล้าหาญ เสียสละ ไม่กลัวตาย”
ส่วนกองทัพเรือ พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการหน่วยรบหลักของกองทัพเรือ มีเรือ อากาศยาน และหน่วยซีล ขีดความสามารถของกองทัพเรือ มีความพร้อมทั้งเรือ อาวุธสงคราม ที่จะเป็นเครื่องมือให้กับรัฐบาล และในฐานะที่ตนเป็นผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เราฝึกให้กำลังพลมีความกล้าหาญ มีความเสียสละ ไม่กลัวตาย รู้จักหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อประเทศชาติและประชาชน เป็นทหารต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา
ผบ.ตร.ย้ำแสดงจุดยืนปกป้องอธิปไตยของชาติ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญสูงสุดในการพิทักษ์ปกป้องรักษาชาติ และคุ้มครองอธิปไตยของดินแดนไทย ได้สั่งการให้ตำรวจตระเวนชายแดนเตรียมความพร้อมกำลังและอาวุธยุทโธปกรณ์ พร้อมในการปฏิบัติและสนับสนุนอย่างเต็มที่ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะสนับสนุนอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยไม่ให้ผู้ใดล่วงล้ำอธิปไตยของชาติไทยอย่างเด็ดขาด
ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ เตรียมแผนรับมือกัมพูชา
ขณะที่วันนี้ (6 มิ.ย.) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ เวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว
สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชนขอยกเลิกการมาทำข่าว เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ
ส่วนการประชุมของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุมเช่นเดิม คาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ
ทบ.โต้กัมพูชา เหตุปะทะช่องบก ทหารกัมพูชา ยิงก่อน
ขณะที่การเดินหน้าประชุม JBC ระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชา วันที่ 14 มิ.ย.นี้นั้น รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ว่าจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมที่กรุงพนมเปญ แต่จะไม่บรรจุเรื่องพื้นที่ 4 จุดที่เตรียมยื่นเรื่องต่อศาลโลก คือ สามเหลี่ยมมรกต, ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาเมือนโต๊ด, ปราสาทตาควาย เข้าหารือในที่ประชุม และอ้างถึงการยิงปะทะที่ช่องบอกว่าเกิดจากฝ่ายใดเริ่มยิงก่อน จนทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย
พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง การปะทะในครั้งนั้น เป็นไปในลักษณะของการป้องกันตัวระดับบุคคล เนื่องจากขณะนั้นหน่วยได้รับข่าวสารว่ามีทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธรุกล้ำเข้ามาวางกำลังในพื้นที่ของประเทศไทย ฝ่ายไทยจัดกำลังขนาดเล็กเข้าไปเพื่อลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ แต่ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธตอบโต้ จึงเกิดการปะทะกัน ฝ่ายไทยพยายามดำเนินการผ่านกลไกการเจรจาตามที่เคยตกลงกันไว้ แต่กลับเป็นฝ่ายกัมพูชาเองที่ไม่มีท่าทีให้ความร่วมมืออย่างจริงจังในระยะหลัง
ปัจจุบันกองทัพบกมีความพร้อมต่อปฏิบัติการทางทหารในระดับสูง เพื่อรองรับกรณีที่จำเป็นต้องใช้มาตรการทางทหารตอบโต้ปัญหาการรุกล้ำอธิปไตย ที่ผ่านมากองทัพบก และกองกำลังป้องกันชายแดน ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ได้ติดตามและรวบรวมข่าวสารของทางฝั่งกัมพูชา ตั้งแต่หน่วยระดับปฏิบัติจนถึงหน่วยงานในระดับบริหาร พบว่ามีลักษณะท่าทีที่ขาดความชัดเจน อีกทั้งปรากฏสิ่งบอกเหตุว่าฝ่ายกัมพูชายังคงดำเนินการเตรียมความพร้อมทางทหารอย่างเข้มข้น ควบคู่กับมาตรการด้านการต่างประเทศมาโดยตลอด ซึ่งถือเป็นความน่ากังวลในแง่มุมทางทหาร ยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่ของกองกำลังในพื้นที่ชายแดน ดำเนินการด้วยความรอบคอบ สุขุม และตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจในสถานการณ์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียกับทุกฝ่าย ขณะเดียวกันพร้อมปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเต็มขีดความสามารถ หากสถานการณ์จำเป็น
“ภูมิธรรม” ยืนยันประชุม JBC เหมือนเดิม เมินกัมพูชาร้องศาลโลก
ส่วนประเด็นแถลงการณ์ของกัมพูชา จะไม่เอา 4 จุดมาคุยใน JBC นั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย ชี้แจงว่า เวลาอ่านต้องอ่านให้ครบถ้วน ใน JBC ไม่มีประเด็นที่จะคุยเรื่อง 4 พื้นที่นี้อยู่แล้ว และตนพูดชัดเจนแล้วว่าไม่เอาเรื่องอื่นเข้ามาพูดคุย จะคุยเฉพาะจุดที่เป็นคู่ปัญหาขัดแย้ง
ส่วนเรื่องศาลโลก มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ถือว่าเราไม่ได้ยอมรับอำนาจศาลโลก แต่การนำเรื่องนี้ไปขึ้นศาลโลกก็เป็นเรื่องของกัมพูชา และในการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ จะประเมินว่ามาตรการที่ทำอยู่พอเพียงหรือไม่ หรือต้องยกระดับอย่างไร ขนาดไหน และจากการลงพื้นที่ช่องบก นายภูมิธรรม ยอมรับว่ากัมพูชารุกล้ำเข้ามา 200 เมตร ในจุด no man’s land ที่ยังไม่มีข้อสรุปว่าเป็นจุดของใคร ดังนั้น อยากให้กลับมาอยู่จุดเดิม
“ภูมิธรรม” หารือรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา แก้ไขปัญหาร่วมกัน
ขณะที่วานนี้ (5 มิ.ย.) นายภูมิธรรม และคณะ หารือกับ พลเอก เตีย เสฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา พลเอก เอต สารัช รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดและเสนาธิการร่วม พลเอก เมา โซพาน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา และคณะ ที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยทั้งสองประเทศเห็นพ้องที่จะดำเนินการตามกลไกความร่วมมือที่มีอยู่ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เป็นรูปธรรม
นายกฯ ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก
ขณะที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน และประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับศาลโลก และย้ำว่าประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป และยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคี เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ.-สำนักข่าวไทย