ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

กองทัพบก ขอความร่วมมืองดแพร่ภาพข้อมูลปฏิบัติการทหาร

กทม. 24 ก.ค.-กองทัพบก ขอความร่วมมือสื่อมวลชนและประชาชน งดเผยแพร่ภาพหรือข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติการทางทหาร เพื่อความมั่นคงของชาติ กองทัพบกขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนทุกท่าน งดการบันทึกภาพนิ่ง คลิปวิดีโอ หรือการเผยแพร่ข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายกำลังพล ยุทโธปกรณ์ หรือยานพาหนะทางทหารขนาดใหญ่ รวมถึงการระบุสถานที่หรือเส้นทางการเคลื่อนย้าย ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม ผ่านช่องทางสื่อสาธารณะหรือสื่อออนไลน์ ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลด้านความมั่นคงถูกนำไปใช้โดยกลุ่มผู้ไม่หวังดี อันอาจนำไปสู่การบิดเบือนข้อเท็จจริง หรือสร้างความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของภารกิจทางทหาร กองทัพบกตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินภารกิจด้วยความเรียบร้อย ปลอดภัย และมีเอกภาพ จึงขอความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วน ในการหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจกระทบต่อการปฏิบัติภารกิจของกำลังพลในพื้นที่ และเพื่อให้กองทัพสามารถทำหน้าที่ในการพิทักษ์อธิปไตย และดูแลความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ปฏิบัติการได้อย่างเต็มศักยภาพ กองทัพบกขอขอบคุณในความเข้าใจ ร่วมมือ และกำลังใจที่ประชาชนมีให้แก่กำลังพลเสมอมา และขอยืนยันว่ากองทัพจะปฏิบัติภารกิจในการปกป้องประเทศชาติด้วยความเสียสละและมุ่งมั่นเพื่อสร้างความสงบสุขให้แก่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

ผบ.ทบ. ถกหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ย้ำยืนหยัดทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

กองทัพบก 22 ก.ค.- ผบ.ทบ. ประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก มอบ มทภ.2 รายงานสถานการณ์ไทย – กัมพูชา ให้ที่ประชุมได้รับทราบ พร้อมย้ำกำลังพลน้อมนำแนวทางพระราชทาน ยืนหยัดทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อประชาชนและประเทศชาติ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงผลการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ครั้งที่ 10/2568 โดยมี พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานการประชุม ซึ่งวาระก่อนการประชุม ผู้บัญชาการทหารบกได้มอบเงินช่วยเหลือบุตรที่มีความต้องการพิเศษของกำลังพล, มอบเงินทุนการศึกษาแก่บุตรกำลังพล ที่สอบเข้าศึกษาได้หรือกำลังศึกษาในโรงเรียนกีฬา สังกัดมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ, มอบเงินรางวัลพร้อมโล่เกียรติยศ ให้แก่ทีมกีฬาของกองทัพบกที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขันกีฬาสโมสร รวมทั้งได้มอบใบประกาศให้กับหน่วยที่มีผลการประเมินการฝึกและตรวจสอบการฝึกกองร้อยเครื่องยิงหนักดีเด่น โดยผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวชื่นชมและแสดงความยินดีให้กับผู้ที่ได้รับรางวัลทุกนายที่ถือว่าได้สร้างชื่อเสียง ทั้งด้านการกีฬา และแสดงถึงความพร้อมด้านการเตรียมกำลังของกองทัพ ซึ่งในส่วนการมอบเงินช่วยเหลือและทุนการศึกษา ถือเป็นสิ่งที่เสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้กำลังพล ที่ผู้บัญชาการทหารบกได้ให้ความสำคัญ โดยขอให้ผู้บังคับหน่วยดำเนินการด้านสิทธิและสวัสดิการของกำลังพลอย่างใกล้ชิด เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและทันเวลา จากนั้นในที่ประชุม กรมฝ่ายเสนาธิการทหารบกได้รายงานผลการปฏิบัติงานที่สำคัญของหน่วยในห้วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะการสกัดกั้นและปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายของกองกำลังป้องกันชายแดน กองทัพบก ซึ่งฝ่ายยุทธการ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้รายงานผลการจับกุมขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ยึดของกลาง ยาบ้า จำนวน 77,086,851 เม็ด […]

พบอีก 2 ทุ่นระเบิดสภาพใหม่ ในพื้นที่ช่องบก

กองทัพบก 21 ก.ค.-ทบ. เผยพบทุ่นระเบิดสภาพใหม่เพิ่มเติม จำนวน 2 ทุ่น ในพื้นที่ช่องบก ใกล้กับจุดเกิดเหตุเดิม ชี้ชัดขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ด้านกรมข่าวทหารบก เตรียมเชิญผู้ช่วยทูตทหารมารับทราบข้อเท็จจริง พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี จนได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 16 ก.ค.68 ล่าสุดวานนี้ (20 ก.ค.68) กองกำลังสุรนารี และหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยผลจากการตรวจพื้นที่พบการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN2 ในสภาพใหม่พร้อมทำงาน จำนวน 2 ทุ่น ห่างจากหลุมระเบิดเดิม 30 เซนติเมตร โดยปัจจุบันเจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) ได้ทำการรื้อถอนทุ่นระเบิดที่ตรวจพบใหม่ออกแล้วทั้ง 2 ทุ่น การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน และแสดงถึงเจตนาในการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารไทย ทั้งเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล […]

ทบ.ยันทุ่นระเบิดไม่ใช่ของไทย ชี้กัมพูชาบิดเบือนข้อเท็จจริง

20 ก.ค.- โฆษก ทบ. ชี้แจงกรณีฝ่ายกัมพูชากล่าวหาว่าทหารไทยเป็นผู้ฝังทุ่นระเบิด ยืนยันทุ่นระเบิดที่พบไม่ใช่ของไทย ข้อมูลจากฝ่ายกัมพูชาเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง วันนี้ (20 ก.ค. 68) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสาธารณชน จากกรณีที่นาย แฮง รัตนา ผู้อำนวยการสำนักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (CMAA) ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวหาว่าทหารไทยเป็นผู้ฝังกับระเบิดใหม่บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมอ้างว่ามีภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่บ่งชี้พฤติกรรมดังกล่าว โดยมีข้อเท็จจริง ดังนี้ 1. ทุ่นระเบิดที่ตรวจพบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณช่องบกและพื้นที่อื่น ๆ เป็นระเบิดชนิด PMN-2 ซึ่งเป็นระเบิดสังหารบุคคล ผลิตจากประเทศรัสเซีย โดยกองทัพบกไทยไม่มีระเบิดชนิดนี้อยู่ในครอบครอง ไม่เคยมีอยู่ในสารบบ การจัดหาเข้ามาใช้ในหน่วยทหารของกองทัพไทย และไม่เคยมีการนำมาใช้ในการปฏิบัติงานในทุกพื้นที่แนวชายแดนแต่อย่างใด 2. ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยสื่อ Fresh News ของกัมพูชา ซึ่งถูกนำเสนอว่าเป็นหลักฐานการวางระเบิดของทหารไทยนั้น ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นภาพจากภารกิจของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม (T-MAC) ในช่วงการฝึกเก็บกู้ หรือช่วงเวลาพักของกำลังพล ไม่ใช่การวางกับระเบิดแต่อย่างใด การนำเสนอข้อมูลในลักษณะดังกล่าวถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และสร้างความเสียหายต่อประเทศไทยอย่างร้ายแรง 3. การที่นายแฮง รัตนา กล่าวว่าทุ่นระเบิดอยู่ในเขตไทย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

ทบ.ยังไม่พบข้อมูล “หญิงกัมพูชาต้นเรื่อง” เป็นทหาร

16 ก.ค.- ทบ. ชี้ เป็นเพียงข้อสังเกตุ กัมพูชาสร้างสถานการณ์ปราสาทตาเมือนธม หวังเช็กกำลังฝ่ายไทย แจง การประเมินกำลังแต่ละฝ่ายเรื่องด้านการทหาร ยังไม่พบข้อมูลผู้หญิงต้นเรื่องเป็นทหาร 16 ก.ค.2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พันเอก ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุว่า ตามที่เกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่งระหว่างนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชากับเจ้าหน้าที่ทหารไทย บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 14.00 น. นั้น กองทัพบกได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อนักท่องเที่ยวหญิงชาวกัมพูชารายหนึ่งแสดงความไม่พอใจ พร้อมกล่าวตำหนิด้วยเสียงดังต่อเจ้าหน้าที่ทหารไทย ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่นับจำนวนนักท่องเที่ยวบริเวณใกล้ทางเข้าปราสาทฝั่งกัมพูชา โดยกล่าวหาว่าทหารไทยได้รุกล้ำอธิปไตยของกัมพูชา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ชี้แจงว่า ปราสาทตาเมือนธมตั้งอยู่ในเขตแดนอธิปไตยของประเทศไทย ฝ่ายไทยไม่ได้มีการรุกล้ำอธิปไตยของกัมพูชาตามที่ถูกกล่าวหา ขณะเดียวกัน เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงทราบเหตุ จึงได้เข้ามาร่วมไกล่เกลี่ยและช่วยระงับเหตุที่เกิดขึ้น โดยในระหว่างการคลี่คลายสถานการณ์ ฝ่ายไทยจึงได้เชิญประชาชนออกจากบริเวณปราสาทในช่วงเวลานั้นชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลุกลาม และเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวโดยรอบ ทั้งนี้ ภายหลังการเจรจา ทั้งสองฝ่ายได้มีความเข้าใจร่วมกัน และสถานการณ์ได้ยุติลงด้วยดี โดยเจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายได้แยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ กองทัพบกขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ได้เดินทางมาเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธม ซึ่งนอกจากจะเป็นการร่วมอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชาติแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมกันนี้ […]

ทบ.แจงเหตุกระทบกระทั่ง “ตาเมือนธม” เกิดจากความเข้าใจผิด

กองทัพบก 16 ก.ค.- ทบ.ชี้แจงกรณีการกระทบกระทั่งบริเวณปราสาทตาเมือนธม พบเหตุจากความเข้าใจผิดของนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา พร้อมขอบคุณประชาชนไทยในเข้าเที่ยวชมปราสาทอย่างต่อเนื่อง พันเอก ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่เกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่งระหว่างนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชากับเจ้าหน้าที่ทหารไทย บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 14.00 น. นั้น กองทัพบกได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อนักท่องเที่ยวหญิงชาวกัมพูชารายหนึ่งแสดงความไม่พอใจ พร้อมกล่าวตำหนิด้วยเสียงดังต่อเจ้าหน้าที่ทหารไทย ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่นับจำนวนนักท่องเที่ยวบริเวณใกล้ทางเข้าปราสาทฝั่งกัมพูชา โดยกล่าวหาว่าทหารไทยได้รุกล้ำอธิปไตยของกัมพูชา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ชี้แจงว่า ปราสาทตาเมือนธมตั้งอยู่ในเขตแดนอธิปไตยของประเทศไทย ฝ่ายไทยไม่ได้มีการรุกล้ำอธิปไตยของกัมพูชาตามที่ถูกกล่าวหา ขณะเดียวกัน เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงทราบเหตุ จึงได้เข้ามาร่วมไกล่เกลี่ยและช่วยระงับเหตุที่เกิดขึ้น โดยในระหว่างการคลี่คลายสถานการณ์ ฝ่ายไทยจึงได้เชิญประชาชนออกจากบริเวณปราสาทในช่วงเวลานั้นชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลุกลาม และเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวโดยรอบ ทั้งนี้ ภายหลังการเจรจา ทั้งสองฝ่ายได้มีความเข้าใจร่วมกัน และสถานการณ์ได้ยุติลงด้วยดี โดยเจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายได้แยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ กองทัพบกขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ได้เดินทางมาเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธม ซึ่งนอกจากจะเป็นการร่วมอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชาติแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมกันนี้ กองทัพบกขอขอบคุณในทุกกำลังใจและการสนับสนุนที่มอบให้แก่เจ้าหน้าที่ทหารมาโดยตลอด อันเป็นพลังสำคัญในการปฏิบัติภารกิจดูแลความสงบเรียบร้อยและปกป้องอธิปไตยของชาติบริเวณแนวชายแดนอย่างมั่นคง-313 .-สำนักข่าวไทย

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย

ทบ. เร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคเหนือ

กองทัพบก 14 ก.ค.-ทบ. เร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคเหนือ พร้อมจัดกำลังทหารช่างเข้าปรับพื้นที่ ป้องกันน้ำหลากในระยะยาว พ.ต.หญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล ผู้ช่วยโฆษก กองทัพบก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักสะสม ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดอุทกภัยและน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ จ.น่าน, จ.แพร่ และ จ.อุตรดิตถ์ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้มีความห่วงใยประชาชน โดยสั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่ ประกอบด้วย กองพันทหารม้าที่ 12 กองพลทหารม้าที่ 1, กองพันทหารม้าที่ 7 กรมทหารม้าที่ 2, กองพันทหารม้าที่ 15 กรมทหารม้าที่ 2, มณฑลทหารบกที่ 35, มณฑลทหารบกที่ 38, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 32 และโรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก จัดกำลังพล พร้อมยุทโธปกรณ์ของหน่วย เข้าช่วยเหลือประชาชนด้วยการเคลื่อนย้ายสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย, อำนวยความสะดวกด้านการสัญจร, มอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมจัดชุดเสนารักษ์ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพ มอบยาเวชภัณฑ์ […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 5 36
...