ก.เกษตรฯ ปฏิบัติการเชิงรุกป้องกันและบรรเทาภัยแล้ง
เกษตรวางแผนปฏบัติการเชิงรุก ทำแผนที่ความต้องการน้ำทั่วประเทศ เตือน 22 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา งดทำนาปรังรอบ 2
เกษตรวางแผนปฏบัติการเชิงรุก ทำแผนที่ความต้องการน้ำทั่วประเทศ เตือน 22 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา งดทำนาปรังรอบ 2
กฤษฎาสั่งการด่วนให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ และอธิบดีกรมชลประทานจัดสรรเครื่องจักร-เครื่องมือเตรียมรับสถานการณ์และบรรเทาภัยแล้งให้ครอบคลุมทุกพื้นที่เสี่ยง
เข้าสู่เดือนมีนาคม สิ่งที่ต้องจับตามองใกล้ชิด คือ นอกจากอากาศร้อนแล้ว เรื่องของภัยแล้งที่จะตามมา โดยเฉพาะปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำชับกรมชลประทานร่วมมือกับ กทม. อย่างเต็มที่ในการบรรเทาฝุ่นละอองขนาดเล็ก
กรมชลประทาน ระบุ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ไม่ได้เอื้อกลุ่มทุน
กรมชลประทานระดมเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเร่งระบายน้ำตัวเมืองนครศรีธรรมราชและอำเภอรอบนอก หลังพายุเคลื่อนผ่าน
ก.เกษตรฯ ระดมกำลังทุกหน่วยงานในสังกัดเร่งสำรวจความเสียหายจากพิษ “ปาบึก” ด้านกรมชลฯ ระวังอ่างเก็บน้ำต่อเนื่องคาดระบายพื้นที่ท่วมขังภายใน 1 สัปดาห์
กรมชลฯ ตั้งศูนย์อำนวยการและบัญชาการบรรเทาผลกระทบจากพายุปาบึก เฝ้าระวังระดับสูงสุด ติดตามตลอด 24 ชั่วโมง
กรมชลฯ คาดน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางภาคใต้ เร่งพร่องน้ำให้มีพื้นที่รองรับฝนจากปาบึก
กรมชลประทาน พร้อมรับสถานการณ์พายุ “ปาบึก” ที่คาดการณ์ว่าจะขึ้นฝั่งที่ จ.นครศรีธรรมราช ในช่วงค่ำวันพรุ่งนี้ (4 ม.ค.)
กรมชลฯ มั่นใจแผ่นดินไหว อ.ศรีสวัสดิ์ จ. กาญจนบุรี ไม่กระทบเขื่อนขนาดกลางและใหญ่ ยืนยันมีการตรวจสอบสม่ำเสมอ
กรุงเทพฯ 18 ธ.ค. – กรมชลฯยันประตูน้ำคลองท่าดี อ.เมืองนครศรีธรรมราช ใช้ส่งน้ำเพื่อการเกษตร หลังชาวนครศรีฯโวย ไม่เปิดประตูช่วยน้ำท่วมเมือง ระบุเร่งขุดคลองใหม่3 สาย ขยายคลองเดิม 2 สาย ใช้ผันน้ำเลี่ยงเมืองเสร็จปี 2563 เพิ่มประสิทธิภาพคลองรับน้ำจากเขาหลวงลงทะเล ป้องอุทกภัยเขตเมืองได้แน่ นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยกรณีชาวเมืองนครศรีธรรมราช ตั้งข้อสงสัยน้ำท่วมเมืองนครฯแต่กรมชลประทาน ไม่เปิดประตูระบายน้ำในคลองท่าดี มีสภาพเต็มไปด้วยวัชพืช ว่า ประตูระบายน้ำดังกล่าว เป็นท่อระบายน้ำกลางคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้ายของฝายคลองท่าดี ซึ่งคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้ายนี้มีความยาวประมาณ 14.55 กิโลเมตร ลักษณะของคลองเป็นคลองส่งน้ำ บริเวณปากคลองจะกว้าง แต่ปลายคลองจะแคบ และมีอาคารอัดน้ำกลางคลองเป็นช่วงๆ เพื่อยกน้ำให้สูงถึงระดับปากท่อส่งน้ำเข้าไปยังพื้นที่การเกษตร โดยต้นคลองมีศักยภาพรับน้ำได้ประมาณ 9.325 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ในขณะที่ปลายคลองรับน้ำได้เพียง 1.714 ลูกบาศก์เมตร/วินาที บริเวณต้นคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย จะรับน้ำจากฝายคลองท่าดี ที่ตำบลกำแพงเซา อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ส่วนปลายคลองจะอยู่ที่ตำบลนาทราย อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ใกล้กับสวนสมเด็จพระศรีนครินทรา(ทุ่งท่าลาด) เนื่องจากคลองเส้นนี้ก่อสร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อใช้เป็นคลองส่งน้ำให้กับพื้นที่เกษตรกรรม ไม่ใช่คลองระบายน้ำ การเปิดน้ำเข้าไปในคลองไม่สามารถช่วยระบายน้ำได้มาก ประกอบกับมีอาคารอัดน้ำอยู่กลางคลองเป็นช่วงๆ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการระบายน้ำ […]