วร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : 4 ปรสิตใกล้ตัวคนไทย ที่มีภัยต่อสมอง

ปรสิตหลายชนิดเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วอาจส่งผลร้าย มีบางชนิดอาจจะส่งผลถึงสมองของเรา มาทำความรู้จัก 4 ปรสิตใกล้ตัวคนไทย ที่มีภัยต่อสมอง


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.ดร.ทวี สายวิชัย ภาควิชาปรสิตวิทยาและกีฏวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

“ปรสิต” สิ่งมีชีวิตที่เข้าสู่ร่างกายของเราแล้วอาจส่งผลร้าย และบางชนิดอาจจะมีภัยถึงสมองได้


ตัวที่ 1. “อะมีบา” ?

อะมีบา (Amoeba) หรือเชื้ออะมีบา เป็นสัตว์เซลล์เดียวประเภทโปรโตซัว (protozoa) ชนิดหนึ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า มีขนาดใหญ่กว่าแบคทีเรียไม่มากนัก

ปกติแล้ว “อะมีบา” เข้าสู่ร่างกายคนจากการกินอาหาร ดื่มน้ำ ที่มีการปนเปื้อนของอะมีบาระยะติดต่ออยู่ โดยส่วนใหญ่ปนออกมากับอุจจาระ และอุจจาระไปปนเปื้อนกับผัก ผลไม้ น้ำ เมื่อคนเรากินเข้าไป อะมีบาตัวนี้จะมีผลกับลำไส้ ไปทำลายเซลล์ลำไส้ เมื่อเซลล์ลำไส้ทำงานไม่ได้ก็จะเกิดอาการท้องร่วง และอาการอาจจะรุนแรงกว่าท้องร่วงได้


ถ้าอาการรุนแรง ปรสิตชนิดนี้จะกินเซลล์ลำไส้ลึกลงไปถึงหลอดเลือดฝอยที่มาเลี้ยงลำไส้ เข้าสู่กระแสเลือด จากนั้นส่วนใหญ่จะไปที่ปอดและสมอง เมื่อปรสิตไปที่ไหนก็จะกินเซลล์ตัวนั้น ไปที่สมองก็จะเกิดเป็นฝีที่สมอง

อะมีบาบางชนิดก่อให้เกิดโรคในคนได้ เป็นอะมีบาที่อาศัยเป็นอิสระในธรรมชาติตามแหล่งน้ำ ดิน โคลนเลน มีด้วยกัน 2 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์เนจีเรีย ฟาวเลอรี (Naegleria fowleri) และสายพันธุ์อะคันทามีบา (Acanthamoeba)

สายพันธุ์เนจีเรีย ฟาวเลอรี ถูกพบเป็นครั้งในปี พ.ศ. 2526 และยังพบในประเทศเขตร้อนหรือเขตอบอุ่นเกือบทั่วโลก ส่วนในประเทศไทยพบได้จากการสำรวจแหล่งน้ำในหลายจังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา สุรินทร์ อุบลราชธานี และศรีสะเกษ นอกจากนี้ยังมีเพิ่มเติมจากปทุมธานีและสมุทรปราการ ซึ่งพบได้ตามแหล่งน้ำขังในเขตอุตสาหกรรมทั่วไปด้วย 

อะมีบาสายพันธุ์ดังกล่าว สามารถเจริญเติบโตได้ดีที่อุณหภูมิสูงถึง 45 องศาเซลเซียส พวกมันสามารถพบได้ตามแหล่งน้ำโดยทั่วไป ยกเว้นน้ำกร่อยหรือน้ำทะเล 

ในส่วนของสายพันธุ์อะคันทามีบา ถูกพบครั้งแรก พ.ศ. 2501 สามารถพบได้เกือบทั่วโลก ส่วนในประเทศไทยมีการสำรวจพบจากแหล่งน้ำธรรมชาติ จังหวัดนครราชสีมา สามารถพบได้ตามแหล่งน้ำ ดิน และโคลนเลนเช่นเดียวกับสายพันธุ์เนจีเรีย ฟาวเลอรี แต่ที่ต่างกันคือ สามารถพบได้ในน้ำกร่อยและน้ำทะเลด้วย โดยจะเจริญเติบโตได้ดีที่สุดที่อุณหภูมิ 25–35 องศาเซลเซียส 

ตัวที่ 2. ท็อกโซพลาสมา กอนดิอาย

 ท็อกโซพลาสมา กอนดิอาย (Toxoplasma gondii) ตัวนี้เป็น “โปรโตซัว” ปกติก็ก่อโรคบิด เป็นพยาธิที่อยู่ระหว่างหนูกับแมว ระยะติดต่อก็จะปนออกมากับอุจจาระแมว เสร็จแล้วหนูมากินอาหารที่มีการปนเปื้อนกับอุจจาระแมว หนูก็จะได้รับเชื้อโปรโตซัวไป

การเข้าสู่ร่างกายคนของปรสิตชนิดนี้ เกิดจากที่บางครั้งหมู วัว ไก่ กินอาหารที่มีการปนเปื้อนของอุจจาระแมว ก็จะได้รับพยาธิชนิดนี้เข้าไป แล้วคนกินเนื้อสัตว์เหล่านี้ที่ไม่สุก ก็จะมีพยาธิตัวนี้ติดเข้าไปได้

บางคนอาจจะเลี้ยงแมว ตอนเก็บอุจจาระแมวอาจจะมีการปนเปื้อนตามเล็บมือ เวลาไปกินอาหารเราก็ได้รับพยาธิตัวนี้ พยาธิตัวนี้ก็จะไชทะลุลำไส้ เข้าสู่กระแสเลือด แล้วก็ไปตามอวัยวะต่าง ๆ รวมทั้งสมองด้วย

ปรสิตชนิดนี้ยังเป็นภัยต่อเด็กที่อยู่ในท้องแม่ด้วย โดยติดต่อผ่าน ‘รก’ ได้ เชื้อก็จะผ่าน ‘รก’ มาหาลูกที่อยู่ในท้อง เวลาคลอดออกมาเป็นทารก บางครั้งก็จะมีการเสียชีวิตตอนแรกคลอด หรือถ้าไม่เสียชีวิตตอนแรกคลอด อาการทางสมองก็จะค่อย ๆ พัฒนารุนแรงขึ้น คุณแม่สามารถตรวจได้ เมื่อทราบว่าคุณแม่ติดปรสิต ก็สามารถที่จะปรึกษาคุณหมอได้เป็นระยะ ๆ

ตัวที่ 3. ปรสิตอีกตัวหนึ่งที่ควรระวังคือ พยาธิตืดหมู ?

พยาธิตัวตืด (Taenia spp.) ที่ควรระวังก็คือ พยาธิตัวตืดวัว (Taenia saginata) และพยาธิตัวตืดหมู (Taenia solium) มีทั้งระยะตัวอ่อนกับระยะตัวเต็มวัย

พยาธิระยะตัวเต็มวัย อยู่ในคนก็สามารถที่จะออกไข่ อยู่ในปล้อง พอปล้องหลุดก็ปล้องแตก ไข่ก็จะปนออกมากับอุจจาระคน

พยาธิระยะตัวอ่อน จะอยู่ในเนื้อหมู คนกินเนื้อหมูดิบก็จะได้รับเข้าไป ซึ่งเมื่อพยาธิตืดหมูเข้าสู่ร่างกายแล้วอาจจะไปสู่สมองได้

บางครั้งการจัดการของอุจจาระไม่ค่อยดี เช่น อาจจะมีการปนเปื้อนของอุจจาระคนกับอาหารที่กิน หรือแม้กระทั่งดื่มน้ำที่มีการปนเปื้อนของไข่พยาธิตืดหมู เวลากินเข้าไปตัวอ่อนที่อยู่ในไข่ก็จะออกมาจากไข่ แล้วไชทะลุลำไส้ จากนั้นเข้าสู่กระแสเลือด แล้วพัฒนาไปเป็นตัวอ่อนตามกล้ามเนื้อต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งรวมถึงสมองด้วย

ตัวที่ 4. ปรสิตอีกตัวที่ใกล้ตัวคนไทย คือ พยาธิปอดหนู ?

พยาธิปอดหนู (Angiostrongylus Cantonensis) หรือพยาธิหอยโข่ง

“พยาธิปอดหนู เป็นพยาธิตัวกลมที่เป็นสาเหตุของโรคสมองและเยื่อหุ้มสมองอักเสบในคน ซึ่งพบมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีประวัติการกินเนื้อหอยโข่ง หอยเชอรี่ หรือเนื้อสัตว์จำพวกกุ้ง ปู กบ และตะกวด ปรุงแบบดิบ ๆ หรือดิบ ๆ สุก ๆ เช่น นำมาทำก้อย ยำ ลาบ พล่า หรือการกินพืช ผักสด หรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนด้วยตัวอ่อนระยะติดต่อของพยาธิหอยโข่ง   

พยาธิหอยโข่งนั้นโดยธรรมชาติเป็นพยาธิของหนู เช่น หนูนา หนูท่อ หนูป่า พยาธิตัวเต็มวัยเพศผู้และเพศเมียจะอาศัยอยู่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู เมื่อหนูถ่ายอุจจาระจะมีพยาธิตัวอ่อนปะปนมา เมื่อหอย (ทั้งหอยบก หอยน้ำจืด และตัวทาก) กินตัวอ่อนของพยาธิหรือตัวอ่อนของพยาธิไชเข้าตัวหอยจะเจริญเติบโตเป็นตัวอ่อนระยะติดต่อขดตัวอยู่ในกล้ามเนื้อหรืออวัยวะของหอย และเมื่อคนนำหอยมากินโดยไม่ทำให้สุกก่อน ตัวอ่อนระยะติดต่อของพยาธิจะเข้าสู่ร่างกาย ไปตามกระแสเลือด แล้วเคลื่อนที่เข้าสู่สมอง

เมื่อ “พยาธิเข้าไปในสมองแล้ว” จะเจริญเติบโตและเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการอักเสบของสมองและเยื่อหุ้มสมอง ผู้ป่วยจะมีจำนวนเม็ดเลือดขาวชนิดอีโอสิโนฟิล (eosinophil) ขึ้นสูงในน้ำไขสันหลัง ผู้ป่วยบางรายอาจหมดสติได้ บ่อยครั้งที่พยาธิเคลื่อนที่เข้าไปอยู่ในลูกตา ทำให้เยื่อบุภายในตาฉีกขาดและมีเลือดออก อาจจะทำให้ตาบอดได้ การกินเนื้อสัตว์ชนิดอื่นที่ปรุงไม่สุก อาทิ กุ้งฝอย ปู กบ ตะกวด ซึ่งกินหอยที่มีพยาธิ ก็มีโอกาสได้รับพยาธิเข้าสู่ร่างกายได้เช่นกัน

คนที่ติดโรคพยาธิหอยโข่งมี “สัญญาณอันตราย” ตั้งแต่ไม่แสดงอาการ มีอาการเพียงเล็กน้อย หรือมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนพยาธิที่กินเข้าไป รวมทั้งภาวะภูมิคุ้มกันและสุขภาพอนามัยของผู้ได้รับพยาธิ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง คอแข็งและหลังแข็ง บางรายอาจพบอาการอัมพาตบางส่วนของแขน ขา หรือใบหน้าได้

เนื่องจากพยาธิชนิดนี้ไม่สามารถเจริญเติบโตเป็นตัวแก่ในร่างกายคนได้ สุดท้ายพยาธิก็จะตายในตัวของคนเรา แต่ว่าก่อนตายเวลาพยาธิไชไปที่สมอง จะทำให้ปวดศีรษะรุนแรงมาก เมื่อพยาธิออกจากสมองจะเลื้อยไปอวัยวะอื่น ๆ ของร่างกายและสุดท้ายก็ตาย

ป้องกันปรสิตชนิดต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย ?

การป้องกันที่ดีที่สุด หลีกเลี่ยงการกินเนื้อปลาและเนื้อสัตว์ทุกชนิดแบบสุก ๆ ดิบ ๆ กินอาหารที่ไม่มีการปนเปื้อน หรือล้างผักและผลไม้ให้สะอาด

โรคที่เกิดจากการกินอาหารเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ ถึงแม้จะเป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อยเหมือนโรคติดเชื้อชนิดอื่น แต่ก็เป็นโรคที่บั่นทอนสุขภาพ และทำให้เกิดโรครุนแรงและเสียชีวิตได้ 

เปลี่ยนพฤติกรรมการกินป้องกันโรคได้ นั่นคือกินอาหารที่ปรุงสุกด้วยความร้อนสูงเท่านั้น ซึ่งรวมถึงการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล เพราะเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงที่เชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ จะเข้าสู่ร่างกาย

สัมภาษณ์โดย ณัฐวัฒน์ จิตรมั่น

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : 4 ปรสิตใกล้ตัวคนไทย ที่มีภัยต่อสมอง

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

ร่างตัวประกันไทยรายสุดท้ายที่เสียชีวิตในกาซา ถึงไทยแล้ว

11 มิ.ย. – ร่างแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตในฉนวนกาซา ถึงไทยแล้ว ด้านกระทรวงแรงงาน เผยเร่งช่วยเหลือครอบครัวและทายาท ร่างของนายณัฐพงษ์ ปินตา แรงงานไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตในฉนวนกาซา ที่ถูกส่งกลับมาด้วยสายการบินอิสราเอลแอร์ไลน์ ออกเดินทางจากกรุงเทลอาวีฟ ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เรียบร้อยแล้ว เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (11 มิ.ย.) โดยมี นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงผู้แทนเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย มารอรับ และร่วมวางพวงหรีดหน้าหีบศพเพื่อแสดงความอาลัย โดยนายณัฐพงษ์ เป็นตัวประกันแรงงานไทยรายสุดท้ายที่ค้นพบร่างและสามารถส่งกลับไทยได้ สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาที่ทายาทจะได้รับ คือ 1.ในส่วนของสถาบันประกันภัยอิสราเอล กรณีแรงงานเสียชีวิต ครอบครัวหรือทายาทจะได้รับเงินชดเชย ได้แก่ ค่าทำศพ ประมาณ 79,000 บาท, ค่าใช้จ่ายในการฝังศพเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 47,000 บาท (1,300 USD), เงินช่วยเหลือการเป็นม่าย (หากมีภรรยา) ประมาณ 57,000 บาท, เงินชดเชยรายเดือนและรายปีอื่นๆ […]

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย