ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : โรค Mpox (ฝีดาษลิง) จาก “แอฟริกา” ถึง “อาเซียน”

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ Mpox (ฝีดาษลิง) เป็น “ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ” หลังจากโรคแพร่กระจายไปตามประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 450 คน โรค Mpox น่ากลัวจริงหรือ ? และทำไมองค์การอนามัยโลกถึงต้องประกาศภาวะฉุกเฉินรอบที่ 2 ?


รู้จัก “โรคฝีดาษลิง : monkeypox”

โรคฝีดาษลิง เกิดจากเชื้อไวรัส monkeypox ถูกค้นพบครั้งแรกในโลกเมื่อปี พ.ศ. 2501 จากลิงที่ป่วย


ปี พ.ศ. 2513 พบการติดเชื้อในคนเป็นครั้งแรกที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก จากนั้นแพร่ระบาดในประเทศแถบแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตก

คนที่ติดเชื้อไวรัส monkeypox มีอาการคล้ายกับไข้ทรพิษ (โรคฝีดาษ : Smallpox) แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า ศ.นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จึงตั้งชื่อภาษาไทยว่า “โรคฝีดาษลิง”

จาก “ฝีดาษลิง” ถึง โรค “Mpox”


เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 องค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) ประกาศเปลี่ยนชื่อโรค Monkeypox (ฝีดาษลิง) เป็นโรค Mpox เริ่มใช้ชื่อโรคใหม่ปี 2566

โดย WHO อ้างถึงความวิตกกังวลว่าการเรียกชื่อโรค monkeypox ที่พบในสัตว์หลายสิบปีที่ผ่านมา อาจทำให้ถูกตีความว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ หรือการเหยียดเชื้อชาติ

ปัจจุบันทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อโรค Mpox มากกว่า 100 ประเทศ

Mpox : ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ

การประกาศให้โรค Mpox (เอ็มพ็อกซ์) เป็น “ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ” ขององค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกด้วย

เพราะว่าเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2565 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้โรค monkeypox  (ปัจจุบัน Mpox) เป็น “ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ” แต่การประกาศก็สิ้นสุดลงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2566

“ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ” (Public Health Emergency of International Concern หรือ PHEIC) คือระดับการเตือนภัยสูงสุดขององค์การอนามัยโลก เพื่อให้มีการเร่งวิจัย จัดระดมเงินทุน วางมาตรการด้านสาธารณสุข และประสานความร่วมมือระดับโลกเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรค Mpox

เนื่องจากการระบาดของโรค Mpox ระลอกนี้เกิดจากไวรัสสายพันธุ์ย่อย Ib (Clade Ib) ที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว โดยไวรัสแพร่กระจายไปยังประเทศเพื่อนบ้านผ่านการติดต่อระหว่างบุคคล ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า Mpox สายพันธุ์ Ib สามารถแพร่กระจายได้ไม่เพียงแค่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่ยังผ่านทางการติดต่อในครอบครัวด้วย โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวและเด็ก

อาการแสดงของโรค Mpox

อาการแสดงของผู้ป่วยโรค Mpox มักพบได้หลังการได้รับเชื้อแล้ว ใช้เวลาฟักตัว 5-21 วัน จึงจะแสดงอาการแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้

ระยะที่ 1 (วันที่ 0-5) จะมีไข้ ปวดศีรษะ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ ไม่มีแรง ผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่มีไข้ ซึ่งอาจมีการแพร่เชื้อผ่านระยะนี้ได้เล็กน้อย

ระยะที่ 2 ออกผื่น (1-3 วันหลังมีไข้) เป็นช่วงที่สามารถแพร่เชื้อได้มาก โดยผื่นจะเริ่มจากบริเวณใบหน้า จากนั้นจึงกระจายไปตามแขนขา ฝ่ามือฝ่าเท้า บางรายอาจมีผื่นบริเวณเยื่อบุช่องปาก อวัยวะเพศ และเยื่อบุตาได้ โดยลักษณะของผื่นจะเริ่มจากผื่นแดงราบ เปลี่ยนเป็นผื่นแดงนูน ตุ่มน้ำ และตุ่มหนอง ตามลำดับ จากนั้นจะตกสะเก็ดและหลุดลอกออก ซึ่งผู้ป่วยจะยังสามารถแพร่เชื้อได้จนกว่าสะเก็ดจะหลุดลอกออกหมด ระยะนี้ใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์

ลักษณะสำคัญที่ช่วยในการวินิจฉัยโรค Mpox

  1. ผื่นจะมีขอบเขตชัดเจน ลักษณะฝังลึก (deep-seated) อาจมีรอยบุ๋มตรงกลาง
  2. ผื่นจะมีขนาดเท่า ๆ กัน และอยู่ในระยะเดียวกันทั่วร่างกาย ผื่นบางส่วนอาจรวมกันเป็นปื้นใหญ่
  3. มีประวัติไข้นำมาก่อนการเกิดผื่น
  4. มักพบต่อมน้ำเหลืองโตร่วมด้วย อาจเป็นเฉพาะที่หรือหลายตำแหน่งก็ได้
  5. ผื่นส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณแขน ขา และใบหน้า มากกว่าลำตัว
  6. มีผื่นบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า
  7. ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บบริเวณที่เป็นผื่น ตุ่มน้ำ หรือตุ่มหนอง
  8. อาจพบแผลบริเวณที่เป็นจุดที่ได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย
  9. ผู้ติดเชื้อบางส่วนมาแสดงด้วยแผลบริเวณปาก อวัยวะเพศ หรือรอบทวารหนัก โดยไม่มีไข้นำมาก่อนได้

ดังนั้น ถ้าผู้ป่วยมีประวัติทางระบาดวิทยาเข้าได้ ก็นับว่าเป็นผู้ป่วยสงสัย และแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการวินิจฉัยด้วย

โรค Mpox : การติดเชื้อจากสัตว์สู่คน

โรค Mpox สามารถพบในสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์ฟันแทะ (เช่น หนู กระรอก กระต่าย) ดังนั้นสัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งคนก็อาจติดเชื้อและเป็นพาหะของโรคนี้ได้ 

การติดเชื้อจากสัตว์สู่คน สามารถเกิดได้จากการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรืออาจอาจติดเชื้อจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัด หรือการกินเนื้อสัตว์ปรุงไม่สุกที่มีเชื้อ Mpox

โรค Mpox : การติดเชื้อจากคนสู่คน

การติดเชื้อโรค Mpox จากคนสู่คนแพร่ระบาดไปทั่วโลกด้วยการเคลื่อนย้ายประชากรของผู้ป่วยที่มีเชื้อโรค Mpox จากประเทศหนึ่งไปอีกหลายประเทศต่างภูมิภาค และสามารถติดเชื้อโรคได้ ดังนี้

  1. การสัมผัสโดยตรงกับรอยโรค ตุ่มหนอง หรือสารน้ำในตุ่มหนองที่แตกออกมา
  2. ติดต่อผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของทางเดินหายใจ เช่น การไอ จาม 
  3. การกอดจูบ การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อ 
  4. การสัมผัสสิ่งของ เช่น เสื้อผ้า หรือของใช้ที่มีสารคัดหลั่งปนเปื้อน
  5. ติดต่อจากแม่สู่ลูกในครรภ์ 

โรค Mpox สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ตั้งแต่เริ่มมีอาการ หรือเริ่มมีตุ่มขึ้น ไปจนระยะที่ตุ่มตกสะเก็ด และเมื่อแผลหายดีแล้วก็จะหมดระยะการแพร่เชื้อ

การป้องกันโรค Mpox

ปัจจุบัน ยังไม่มีการรักษาที่จำเพาะสำหรับโรค Mpox แต่สามารถป้องกันการติดเชื้อ

องค์การอนามัยโลกระบุว่า วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษในคน สามารถป้องกันโรค Mpox ได้ อย่างน้อย 85% และผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการได้รับวัคซีนโรคฝีดาษในคนหลังจากสัมผัสเชื้อแล้ว จะสามารถลดความรุนแรงและอาจป้องกันการติดเชื้อได้

สำหรับผู้ติดเชื้อที่มีอาการหนัก ให้การรักษาโดยให้วัคซีนฝีดาษร่วมกับให้ยาต้านไวรัสชื่อ brincidofovir หรือ cidofovir

ป้องกันการแพร่เชื้อจากผู้ป่วย โดยให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้ออยู่ห้องแยก สวมหน้ากากอนามัย และใส่เสื้อคลุมปกปิดผื่นทั้งหมด จนกระทั่งผื่นหายดี ตกสะเก็ดและหมดระยะการแพร่เชื้อแล้ว

ประเทศไทย ประชากรไทยที่เกิดก่อนปี พ.ศ. 2523 จะได้รับการปลูกฝี ซึ่งถือว่าได้รับวัคซีนฝีดาษในคนเรียบร้อยแล้ว แต่ประชาชนที่เกิดหลังปี 2523 ไม่มีการปลูกฝีสำหรับป้องกันโรคฝีดาษ ดังนั้นต้องใช้วิธีป้องกันโรคเท่านั้น ได้แก่

  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์พาหะ ได้แก่ สัตว์ฟันแทะ (เช่น หนู กระรอก) และสัตว์ตระกูลไพรเมต (เช่น ลิง) หากมีการสัมผัสสัตว์ให้รีบล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาด 
  2. ปฏิบัติตามมาตรการ universal prevention (UP) โดยการหมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิดไม่ใช้ร่วมกับผู้อื่น หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา จมูก ปาก และกินอาหารปรุงสุก 
  3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่ง บาดแผล เลือด น้ำเหลืองของสัตว์ หรือกินเนื้อสัตว์ติดเชื้อที่ปรุงไม่สุก และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย ละอองฝอย หรือน้ำเหลืองจากผู้ที่สงสัยป่วยหรือมีประวัติเสี่ยง
  4. หลังเดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาดของโรค Mpox ให้สังเกตอาการ หากพบมีความผิดปกติ เช่น มีไข้ มีตุ่มผื่นที่ใบหน้า แขน และขา ให้รีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง

ประเทศไทยกับโรค Mpox ณ วันนี้

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้ยกระดับมาตรการเฝ้าระวังคัดกรองโรค ทั้งที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และโรงพยาบาลทุกแห่ง พร้อมประสานแจ้งให้คนไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศที่ระบาด สังเกตและแจ้งอาการต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หากสงสัยว่าป่วยภายหลังกลับมาถึงแล้วให้รีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคและรักษาทันที

ประเทศไทยมีประสบการณ์รับมือกับโรค Mpox ที่เป็นโรคติดต่ออุบัติใหม่ในช่วงปี พ.ศ. 2565-2566 ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ และมีระบบเฝ้าระวังคัดกรองและป้องกันควบคุมโรคที่เป็นมาตรฐานและได้รับการยอมรับในระดับโลก

นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีพบผู้ป่วยต้องสงสัยโรค Mpox (ฝีดาษลิง) สายพันธุ์ Clade 1 คนแรกในประเทศไทย (วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2567) วันนี้ไม่ใช่การยืนยันว่าพบผู้ป่วยโรค Mpox สายพันธุ์ Clade 1B แต่เป็นผู้ป่วยต้องสงสัยโรค Mpox เท่านั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ผลยืนยัน 100% แต่ค่อนข้างเชื่อได้ว่าอาจจะเป็นโรค Mpox

ผู้ป่วยคนดังกล่าวเป็นชาวยุโรป เพศชาย อายุ 66 ปี เดินทางมาจากประเทศในแถบแอฟริกาที่พบการระบาดของโรค Mpox สายพันธุ์ Clade 1B โดยมีการต่อเครื่องในประเทศแถบตะวันออกกลาง ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลาประมาณ 18.00 น.

จากนั้นวันที่ 15 ส.ค. ผู้ป่วยเริ่มมีอาการไข้ มีตุ่มขึ้นเล็กน้อยจึงเดินทางไปโรงพยาบาล เมื่อโรงพยาบาลซักประวัติได้มีการตรวจโรค Mpox สายพันธุ์ Clade 2 ปรากฏผลลบ ส่วนการตรวจสายพันธุ์ Clade 1B ปรากฏว่าผลไม่ชัดเจน โดยมีการตรวจยืนยันอีกว่าใช่โรค Mpox หรือไม่ด้วยการใช้ยีนซึ่งพบว่าเป็นโรค Mpox อย่างแน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่ใช่สายพันธุ์ Clade 2 ส่วนสายพันธุ์ Clade 1B ก็ยังไม่ชัดเจน จึงต้องมีการไล่ยีนตรวจซ้ำอีกครั้งว่าใช่สายพันธุ์ Clade 1B หรือไม่

นพ.ธงชัย กล่าวอีกว่า แม้ผลตรวจจะยังไม่ชัดเจน 100% แต่การควบคุมป้องกันโรคต้องให้ข้อมูลกับประชาชน เพื่อสร้างความเข้าใจและลดความตื่นตระหนก ขณะที่กรมควบคุมโรคมีระบบติดตามผู้สัมผัสหรือผู้ที่นั่งใกล้กับผู้ป่วยคนดังกล่าวบนเครื่องบิน เพื่อติดตามสอบสวนโรค ขณะนี้มีรายชื่อทั้งหมดแล้ว 43 คน โดยมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งต้องเฝ้าระวังติดตามอาการไปอีก 21 วัน

ผู้ป่วยไม่มีอาการรุนแรง คาดว่าวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2567 จะสามารถยืนยันผลการตรวจได้ 100% หากผลการตรวจยืนยันว่าเป็นสายพันธุ์ 1B ก็จะถือว่าเป็นผู้ป่วยรายแรกที่พบในประเทศไทยสำหรับสายพันธุ์ 1B

โรค Mpox มีหลายสายพันธุ์เหมือนไข้หวัดใหญ่ ขึ้นอยู่กับว่าสายพันธุ์ใดระบาด โดยในปี พ.ศ. 2565 มีการระบาดของสายพันธุ์ Clade 2 ซึ่งในประเทศไทยก็พบการระบาดของสายพันธุ์นี้ตั้งแต่ปี 2565 ถึงปัจจุบันประมาณ 800 คน

ส่วนในปี 2567 ตั้งแต่ต้นปีก็พบโรค Mpox สายพันธุ์ Clade 2 ประมาณ 140 คน แต่เนื่องจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้โรค Mpox สายพันธุ์ Clade 1B เป็นสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวัง ก็อาจจะมีผลกระทบได้ ซึ่งถือเป็นการตอบสนองของประเทศไทยหลังจากที่องค์การอนามัยโลกได้ประกาศไว้

สำหรับโรค Mpox สายพันธุ์ที่มีการระบาดในทั่วโลกขณะนี้แบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ คือ

สายพันธุ์ Clade 1 สายพันธุ์แอฟริกากลาง ที่มีความรุนแรง อาจถึงขั้นเสียชีวิต พบการระบาดในแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันออกเป็นหลัก มีอัตราการป่วยตายสูง โดยพบกลุ่มเสี่ยงเป็นเด็กและผู้สูงอายุ

สายพันธุ์ Clade 2 สายพันธุ์แอฟริกาตะวันตก มีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์แอฟริกากลางมาก ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่กำลังระบาดอยู่ในไทยและหลายประเทศทั่วโลก

การมี “อนามัยส่วนบุคคล” และ “พฤติกรรมสุขภาพ” สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค Mpox ได้

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, องค์การอนามัยโลก

สามารถติดตามรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ LIVE : วิธีรับมือ! ฝีดาษวานร mPox สายพันธุ์ Clade

พูดคุยกับ พ.ญ.ลานทิพย์ เหราบัตย์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี

https://www.facebook.com/SureAndShare/videos/1217586765940489

https://www.facebook.com/SureAndShare/videos/1267351770917183
ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]