บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์เรื่องโรงพยาบาลธรรมชาติ “มะเร็งเต้านม ให้กินบรอกโคลี หรือผักคะน้าวันละ 5 ขีด มะเร็งปอด ทางเดินหายใจ ให้กินผลไม้ เช่น เสาวรส ฝรั่ง ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะละกอ มะม่วง” จริงหรือ ?
🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.ดร.ทพญ.ดุลยพร ตราชูธรรม ประธานหลักสูตรพิษวิทยาและโภชนาการเพื่ออาหารปลอดภัย สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
ข้อมูลบางส่วนมีความถูกต้อง แต่ว่าข้อมูลบางส่วนอาจจะทำให้เข้าใจผิด ใครไปปฏิบัติตามอาจจะไม่ได้ผล หรืออาจจะก่อผลเสียตามมาด้วย
“มะเร็งเต้านม” ให้กินบรอกโคลี หรือผักคะน้า ?
ผักคะน้า กับ บรอกโคลี จัดว่าเป็นผักตระกูลกะหล่ำ หรือเรียกว่า Cruciferous vegetables
ผักตระกูลกะหล่ำ ถือเป็นผักที่มีหลักฐานงานวิจัยมากที่สุด ในแง่ของการลดความเสี่ยงต่อมะเร็งชนิดต่าง ๆ รวมถึงมะเร็งเต้านมด้วย
ที่แนะนำให้กินวันละ 5 ขีด น่าจะมากไปหน่อย เพราะวันละ 5 ขีด เท่ากับ 500 กรัม หรือเท่ากับ 5 ทัพพี
จริง ๆ แล้วจำนวน 5 ทัพพี เป็นปริมาณที่แนะนำสำหรับ 1 สัปดาห์
จากหลักฐานพบว่ามีงานวิจัยหลาย ๆ ชิ้นรองรับ ปริมาณที่แนะนำสำหรับการลดความเสี่ยงต่อมะเร็งจะอยู่ที่การกินผักตระกูลกะหล่ำรวมกันสัปดาห์ละ 5 ส่วน
ผัก 1 ส่วน ก็เท่ากับปริมาณ 1 ทัพพี หมายความว่า 1 สัปดาห์กินผักให้ได้สัปดาห์ละ 5 ทัพพี หรือเฉลี่ยวันละ 1 ทัพพีนั่นเอง
การกินผักวันละประมาณ 1–3 ทัพพีก็เพียงพอแล้ว และควรจะเผื่อท้องไว้กินอย่างอื่นด้วย จำพวกผลไม้ตามฤดูกาลอะไรก็ได้ที่ชื่นชอบ ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากกว่า
มีงานวิจัยเรื่องผักและผู้ป่วยมะเร็ง ?
งานวิจัยกับคนที่เป็นมะเร็งเต้านมมีมานานแล้ว ด้วยการกินผักตระกูลกะหล่ำเป็นประจำให้ได้อย่างน้อย 70 กรัมต่อวัน จะช่วยลดอาการข้างเคียงจากการรักษามะเร็ง ได้แก่ อาการวัยหมดประจำเดือน (menopause) ต่าง ๆ เหงื่อออกตอนกลางคืน ร้อนวูบวาบ (hot flush) หรืออาการที่บริเวณมดลูกของผู้ป่วยมะเร็งเต้านม
นอกจากนั้น การกินผักใบเขียวให้ได้ 1 ส่วนต่อวัน (1 ทัพพี) ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมได้ประมาณ 20%
การกินผักเป็นสิ่งดี แต่ต้องไม่กินมากเกินไป เพราะมีรายงานว่าการกินผักตระกูลกะหล่ำ (ที่เป็นผักสด) มากจนเกินไป อาจจะเพิ่มความเสี่ยงกับมะเร็งไทรอยด์
เมื่อกินผักอะไรก็ตามปริมาณมาก ควรต้องดื่มน้ำเพิ่มมากขึ้นด้วย เนื่องจากผักมีเส้นใยอาหารสูง ถ้ากินเส้นใยอาหารมาก แต่ดื่มน้ำไม่เพียงพอ ผลดีจะกลายเป็นผลร้าย ก็คือจะเสี่ยงเรื่องท้องผูก
นอกจากนี้ วิธีการปรุงอาหารด้วยผักก็มีความสำคัญเช่นกัน ผักสุกลดความเสี่ยงต่อสารพิษกำจัดศัตรูพืชที่ตกค้าง รวมถึงความเสี่ยงจากสารต้านฮอร์โมนไทรอยด์ด้วย
ที่บอกว่า มะเร็งปอด ทางเดินหายใจ ให้กินเสาวรส ฝรั่ง ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะละกอ มะม่วง เพราะวิตามินซีช่วยสมานหลอดเลือดในปอดได้ดี ?
จากการทบทวนหลักฐานต่าง ๆ สำหรับกรณีคนที่ยังไม่เป็นมะเร็ง พบว่าการกินผลไม้รสเปรี้ยวชนิดต่าง ๆ เช่น ฝรั่ง ส้ม มะขามป้อม มะนาว เสาวรส เป็นประจำให้ได้วันละ 60 กรัม ช่วยลดความเสี่ยงต่อมะเร็งปอดได้นิดหน่อย เพียง 9% เท่านั้น
สำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอดกับผลไม้รสเปรี้ยว มีการทำวิจัยพบว่า ถ้ากินวิตามินซีเสริมจะช่วยอะไรกับผู้ป่วยมะเร็งปอดได้หรือไม่ ด้วยการให้กินวิตามินซีต่อเนื่อง 5 ปี แล้วดูผลจากผู้ป่วยจำนวนมาก (หลักหมื่นคน)ผลที่ได้ปรากฏว่าไม่ได้ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตในผู้ป่วย
นอกจากนั้น มีการศึกษาที่พยายามใช้การรักษาด้วยเคมีบำบัด ร่วมกับการรับวิตามินซีปริมาณสูงร่วมด้วย ก็พบว่าไม่มีความแตกต่างในเรื่องผลการรักษาหรือว่าอัตราการรอดชีวิต
ฉะนั้น ถ้าเป็นคนที่ยังไม่ได้เป็นมะเร็ง การกินผลไม้รสเปรี้ยว (วันละ 60 กรัม) ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปอดได้ แต่สำหรับคนที่เป็นมะเร็งปอดแล้ว ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าการกินผลไม้รสเปรี้ยวเป็นประจำ หรือกินวิตามินซีปริมาณสูงเป็นประจำ จะมีส่วนช่วยอะไรกับผู้ป่วยมะเร็งปอดหรือเปล่า
การเข้าใจข้อเท็จจริง ช่วยให้ตัดสินใจเลือกสิ่งที่พึงปฏิบัติได้
สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์
เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล
ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ : มะเร็งเต้านมให้กินผักคะน้า มะเร็งปอดให้กินเสาวรส จริงหรือ ?
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter