ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : เข้าใจหลักการ อดอาหารแบบ IF

การอดอาหารแบบ IF มีหลักวิธีการอย่างไร ควรอดกี่ชั่วโมง อดช่วงเวลาไหน และทำ IF อย่างไรให้ได้ประโยชน์ ไม่ก่อโทษ


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.ดร.พญ.ฉันทชา สิทธิจรูญ ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

IF” มาจากคำว่า Intermittent Fasting หมายถึง การอดอาหารเป็นระยะ แสดงว่ามีช่วงอดอาหาร สลับกับช่วงกินอาหาร


การอดอาหารแบบ IF มี 5-6 วิธีเป็นอย่างน้อย เช่น

กิน 1 วัน อด 1 วัน

กิน 1 วัน อีกวันกินอาหาร 25 เปอร์เซ็นต์


กิน 5 วัน อด 2 วัน

กิน 4 วัน อด 3 วัน

วิธีที่นิยมกันมากคือ 16/8 คือ อด 16 ชั่วโมง กิน 8 ชั่วโมง

การกินอาหารด้วยระยะเวลาจำกัด (การทำ IF) ประโยชน์มีหลายอย่าง เช่น แคลอรีลด (จากการจำกัดเวลา)

IF ทำให้เกิดกระบวนการ Autophagy คือ เซลล์กัดกลืนกินเซลล์ตัวเอง ดีอย่างไร

การทำ IF เมื่ออดอาหารนานขึ้นตั้งแต่ 14 ชั่วโมงเป็นต้นไป จะเกิดการกระตุ้นกระบวนการ Autophagy หรือเซลล์กัดกลืนกินเซลล์ตัวเอง ร่างกายจะจัดการโปรตีนผิดรูป (รวมทั้งเชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส) อะไรที่เสื่อมสภาพจะถูกทำลาย อยู่ในไลโซโซม (lysosome) นำมาสร้างเป็นกรดอะมิโนและสารใหม่ที่ไม่เสื่อมสภาพ เรียกว่า กระบวนการที่ทำให้มีความอ่อนเยาว์ขึ้น

IF ส่งผลต่อปริมาณอินซูลินในร่างกาย อย่างไร ?

เมื่ออดอาหาร น้ำตาลกลูโคสจะเริ่มลดต่ำลง

ฮอร์โมนอินซูลินจะสูง เมื่อระดับน้ำตาลกลูโคสสูงขึ้น และอินซูลินจะต้านการสลายไขมัน

ถ้ากินอาหารที่มีน้ำตาลจะลดน้ำหนักได้ยาก เพราะไขมันไม่ถูกสลาย เนื่องจากอินซูลินมีระดับสูง

พออดอาหารปุ๊บ น้ำตาลกลูโคสเริ่มลดต่ำลง ระดับฮอร์โมนอิซูลินเริ่มลดต่ำลง ก็จะสลายไขมันได้มากขึ้น

ฮอร์โมนสลายไขมัน มี 4 กลุ่ม ได้แก่ กลูคากอล คอร์ติซอล อีพิเนฟริน (อะดรีนาลีน) นอร์อิพิเนฟฟริน โกรทฮอร์โมน

1. กลูคากอน (Glucagon) เป็นฮอร์โมนที่ช่วยทำลายสารชีวโมเลกุล (catabolic hormone) สลายกลูโคส กรดไขมันและโปรตีน ทำให้เพิ่มระดับน้ำตาลในกระแสเลือด มีผลการทำงานตรงกันข้ามกับฮอร์โมนอินซูลิน (insulin)

2. คอร์ติซอล (Cortisol) เป็นฮอร์โมนที่มีความสำคัญต่อระบบเผาผลาญในร่างกาย เนื่องจากคอร์ติซอลจะช่วยกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำตาลในเลือดมากขึ้น ช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนแปลงไขมัน โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตมาเป็นพลังงาน ควบคุมวงจรการนอนและตื่น บรรเทาอาการอักเสบในร่างกาย ปรับสมดุลให้ระดับความดันโลหิต รวมทั้งช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายเพื่อให้สามารถรับมือกับความเครียดและคืนสมดุลให้กับร่างกายในภายหลังได้เป็นอย่างดี

3. อีพิเนฟริน (Epinephrine/Adrenaline) เป็นฮอร์โมนที่ผลิตจากต่อมหมวกไต ทำให้หัวใจเต้นอย่างแข็งแรง และทำให้เลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อมากขึ้นในช่วงที่ร่างกายเกิดความเครียด นอร์อีพิเนฟริน (Norepinephrine/Noradenaline)

4. โกรทฮอร์โมน (Growth hormone / IGF-1) ไม่ได้มีความสำคัญเฉพาะในวัยเด็กที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตเท่านั้นแต่มีความสำคัญในทุกช่วงอายุ เพราะทำหน้าที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตของร่างกาย สร้างกล้ามเนื้อ กระตุ้นการสร้างมวลกระดูก ช่วยย่อยน้ำตาลและไขมัน รวมถึงส่งเสริมการทำงานของระบบต่าง ๆ

ตัวหลัก ๆ ที่มีประโยชน์ก็คือโกรทฮอร์โมน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งการเจริญเติบโต จะช่วยสลายไขมันและช่วยคงมวลกล้ามเนื้อไว้ด้วย ทำให้มวลกล้ามเนื้อไม่ถูกสลาย กล้ามเนื้อก็ยังมีอยู่ ซึ่งตัวโกรทฮอร์โมนจะหลั่งตอนหลับลึกประมาณตี 1-2 (01.00-02.00 น.) แปลว่าถ้าอดอาหารช่วงกลางคืน โกรทฮอร์โมนจะหลั่งเพิ่มขึ้น ช่วยเสริมสร้างซ่อมแซมโปรตีนส่วนที่สึกหรอและคงกล้ามเนื้อไว้

ถ้ากินอาหารกลางคืน พวกอาหารไขมันกับน้ำตาลจะไปยับยั้งการหลั่งโกรทฮอร์โมน ฉะนั้นจึงไม่ต้องดื่มนมอุ่น ๆ ก่อนนอน เพราะนมมีทั้งคาร์โบไฮเดรตและไขมัน

คอร์ติซอล : ฮอร์โมนแห่งความเครียด

ฮอร์โมนที่ชื่อคอร์ติซอลเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียด จะหลั่งออกมาเมื่อเราเครียดมากขึ้น แต่คอร์ติซอลจะสูงตอน 08.00 น.

ปัญหาของคอร์ติซอลก็คือจะมีการสลายไขมันที่แขนและขา สะสมไขมันที่พุง และสลายกล้ามเนื้อด้วย ถ้าเราไม่กินอาหารเช้า อดอาหารเช้า คอร์ติซอลจะสูงต่อเนื่องยาวนาน ก็จะมีการสะสมไขมันที่พุงมากขึ้นและกล้ามเนื้อก็ถูกสลายไปมากขึ้นเรื่อย ๆ

ดังนั้น ใครที่ไม่กินอาหารเช้าเป็นประจำ ก็จะมีปัญหาไขมันสะสมที่พุง แล้วก็สลายกล้ามเนื้อ

กรดไขมันอิสระ กระตุ้นการกัดกลืนกินเซลล์ตัวเอง

หลังจากสลายไขมันแล้ว เราจะได้กลีเซอรอล (glycerol) และกรดไขมันอิสระ (free fatty acid)

กลีเซอรอลจะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาล ถูกนำไปใช้ทั่วร่างกาย

กรดไขมันอิสระ มีมาก ๆ ร่างกายจะเปลี่ยนให้เป็นคีโทนบอดีส์ (ketone bodies)  สมองนำไปใช้เป็นพลังงานได้

ข้อดีของคีโทนบอดีส์ ก็คือถ้ามีมากขึ้นระดับหนึ่ง ก็คืออดอาหารตั้งแต่ 14 ชั่วโมงขึ้นไป ตัวนี้จะไปกระตุ้นกระบวนการกัดกลืนกินเซลล์ตัวเอง หรือ Atophagy นั่นเอง

การทำ IF จะทำสูตรไหนก็ได้ที่เหมาะกับตัวเราและทำได้ในระยะเวลายาวนาน

สำหรับคนไทย เริ่มกินตั้งแต่เช้าไม่ควรเกิน 8.00 น. กินอาหารให้เพียงพอและอิ่ม กินให้มีความสุข แล้วก็หยุดกินให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ บางคนอาจจะเริ่มจาก 6 โมงเย็น (18.00 น.) ค่อย ๆ ขยับมา 5 โมงเย็น (17.00 น.) แล้วก็ 4 โมงเย็น (16.00 น.) สำหรับตัวเองหยุดกินตั้งแต่บ่าย 2 โมง (14.00 น.) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าระยะเวลาอดอาหารมากกว่า 18 ชั่วโมง

ในทางตรงกันข้าม การอดอาหารเช้าและกินช่วงเย็น มีข้อมูลหลักฐานชัดเจนว่าเกิดผลเสีย

สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : เข้าใจหลักการ อดอาหารแบบ IF

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : เทคนิคการอดอาหารแบบ IF ให้ได้ผล

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]