ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : โรคฮีตสโตรกในสัตว์เลี้ยง

บนสื่อสังคมออนไลน์มีคำเตือนและข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการในสัตว์เลี้ยงที่เรียกว่า “ฮีตสโตรก” ข้อเท็จจริง รายละเอียด และคำแนะนำเรื่องนี้เป็นอย่างไร


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ศาสตราจารย์ น.สพ.ดร.สถาพร จิตตปาลพงศ์ คณบดีคณะเทคนิคการสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ฮีตสโตรก (Heat Stroke) หมายถึง การที่อุณหภูมิของสัตว์เลี้ยงไปมีผลหยุดหรือทำลายกระบวนการต่าง ๆ ภายในร่างกายของตัวสัตว์ (ในคนก็เกิดได้)


การที่สัตว์ได้รับความร้อนสะสมมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น วันที่อากาศร้อนมาก สัตว์เลี้ยง และ/หรือ สุนัข ถูกผูกหรือขังกรงไว้บริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงหลายชั่วโมง ตัวเจ้าของมีภารกิจหลายอย่างต้องทำและก็ลืมไปเลยว่าสัตว์เลี้ยงอยู่บริเวณที่แสงแดดส่องถึงและมีความร้อนสะสมด้วย ผ่านไปสักระยะเวลาหนึ่งสัตว์เลี้ยงจะเริ่มมีอาการมากขึ้น ๆ เรื่อย ๆ จนกระทั่งทนไม่ได้

อาการฮีตสโตรกในสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างไร ?

อาการเริ่มต้นของฮีตสโตรกในสัตว์เลี้ยงที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนก็คือ หายใจแรงขึ้น (เรียกว่าหอบก็ได้) หายใจลำบาก อุณหภูมิร่างกายขึ้นสูง หัวใจเต้นเร็ว กระหายน้ำมาก บางตัวถ้าดูแลไม่ทันก็หมดสติ อาจจะชัก โคม่า และเสียชีวิตได้


สำหรับสุนัขสังเกตดูได้เลย จะพบว่าลิ้นแดง แต่เหงือกซีด ตัวที่เป็นฮีตสโตรกน้ำลายจะเหนียว เพราะขาดน้ำ อาการต่าง ๆ เหล่านี้จะไม่พบเลยในชีวิตสัตว์เลี้ยงปกติ

เจ้าของ และ/หรือ ผู้ดูแล เห็นอาการฮีตสโตรกของสัตว์เลี้ยง จะต้องทำอะไรทันที ?

ข้อ 1. เปลี่ยนสภาพสิ่งแวดล้อมทันที ด้วยการเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงไปบริเวณที่มีอากาศเย็น มีร่มเงา หรืออยู่ในอาคารที่ไม่โดนแสงแดดโดยตรง

ข้อ 2. เช็ดตัวสัตว์เลี้ยงด้วยน้ำเย็น (กรณีนี้หมายถึงสุนัข) ห้ามนำสัตว์เลี้ยงไปจุ่มในน้ำเย็น แต่จะต้องค่อย ๆ เช็ดตัวให้อุณหภูมิค่อย ๆ ลดลง ใช้แอลกอฮอล์หรือผ้าเย็นเช็ดอุ้งเท้า เพราะอุ้งเท้าเป็นตัวระบายความร้อนของสุนัข หรือใช้น้ำฉีดตามตัวให้ผ่านผิวหนัง ผ่านขน เหมือนกับสร้างความเย็นโดยรอบตัวก็จะช่วยได้ แล้วให้น้ำกินทีละน้อย ๆ (อาจจะเป็นน้ำเย็นก็ได้) ช่วยลดอุณหภูมิได้เร็วขึ้น และดูว่าการตอบสนองเป็นอย่างไร

ทั้งข้อ 1 และ ข้อ 2 เป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและช่วยลดความร้อนในตัวไม่ให้ฮีตสโตรกเป็นมากขึ้น

ระหว่างที่ดูแลสุนัข ต้องเริ่มโทรศัพท์ติดต่อสัตวแพทย์ เพื่อให้รู้ว่าสักครู่จะมีสุนัขที่มีอาการฮีตสโตรกไปที่คลินิก

สุดท้ายจริง ๆ ก็ต้องไปจบที่คลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ เพราะว่าหลังจากที่ฟื้นตัวจากอาการฮีตสโตรก ผู้เลี้ยงสุนัขก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าความเสียหายลุกลามไปมากน้อยแค่ไหน

กรณีสัตว์เลี้ยง (สุนัข) หมดสติ ?

ถ้าพบว่าสุนัขหมดสติต้องรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที เพราะแก้ไม่ได้ ขณะที่สุนัขไม่รู้สึกตัว ต่อให้ผู้เลี้ยงหรือเจ้าของทำอะไรก็ตาม อาจจะไม่สามารถช่วยชีวิตได้ แต่ถ้าสุนัขยังมีสติ ลุกเดินได้ รู้สึกตัว ก็ค่อย ๆ ปฐมพยาบาลทันที

สุนัขพันธุ์ไทยทนอากาศร้อนได้ดีกว่าสุนัขพันธุ์ต่างประเทศ จริงหรือ ?

ที่บอกว่าสุนัขพันธุ์ไทยทนอากาศร้อนได้ดีกว่า คำว่า “ทนได้ดีกว่า” ไม่ได้หมายความว่า “จะทนอยู่ได้นานกว่า”

สุนัขสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่เกิดในเมืองไทยมีการปรับตัวแล้ว เพียงแต่มีข้อจำกัดบางอย่างทางด้านสรีระเท่านั้นเองที่อาจจะทำให้เกิดการสะสมของความร้อนได้มากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ เช่น บางสายพันธุ์มีขนดกหนา

สำหรับเรื่องทนความร้อนบอกไม่ได้จริง ๆ ว่าสุนัขแต่ละตัวทนความร้อนได้มากน้อยแค่ไหน อุณหภูมิที่ทนได้กี่องศาเซลเซียส ระยะเวลานานแค่ไหน เพราะไม่มีตัวเลขตายตัว เช่น ตัวนี้ทนได้นานครึ่งชั่วโมง หรือ 1 ชั่วโมง หรือ 2 ชั่วโมง

อย่าลืมว่าสุนัขแต่ละตัวมีความแตกต่างกัน จะคาดการณ์อะไรว่าพันธุ์นี้ขนสั้นน่าจะทนความร้อนอยู่ได้นานกว่า ไม่จริงเสมอไป เพราะมีหลายปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้อง

“สุนัข” ไม่ว่าสายพันธุ์ไหน ขนสั้น ขนยาว ตัวเล็ก ตัวใหญ่ เป็นฮีตสโตรกได้เหมือนกัน พบว่าพันธุ์ขนยาว ขนหนา ไวต่อการเกิดฮีตสโตรกมาก เจ้าของจะต้องเตรียมแผนต่าง ๆ ล่วงหน้าไว้ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ช่วยเหลือทันเวลาและปลอดภัย

เนื่องจากเจ้าของหรือผู้ดูแลสุนัขจะไม่มีทางรู้เลยว่าเมื่อไหร่สุนัขจะเกิดฮีตสโตรก ความร้อนแค่ไหน นานแค่ไหน ซึ่งพูดไม่ได้เลยว่าผูกสุนัขไว้แค่ครึ่งชั่วโมง หรือ 1 ชั่วโมง และมีบางคนที่นำสุนัขใส่รถไป แล้วจอดรถทิ้งไว้นาน 2-3 ชั่วโมง เพียงแค่เปิดกระจกไว้นิดเดียว แต่ในรถยนต์มีความร้อนสะสมมาก สุนัขแต่ละตัว แต่ละสายพันธุ์ มีความทนทานแตกต่างกัน

อากาศร้อน ควรเตรียมให้พร้อม

เจ้าของสุนัขและผู้ดูแลควรเตรียมสถานที่ให้พร้อมสำหรับการป้องกันและบรรเทาอากาศร้อน ได้แก่ ร่มเงาที่สุนัขสามารถจะอาศัยอยู่ได้จนไม่เกิดความร้อนสะสม มีน้ำกินเพียงพอตลอดทั้งวัน วางน้ำตั้งเตรียมเผื่อไว้ให้มากกว่าปกติ เพราะว่าวันไหนที่ออกไปทำงาน จะไม่มีโอกาสรู้ได้เลยว่าสุนัขเป็นอยู่อย่างไร และอยู่รอดปลอดภัยมากน้อยแค่ไหนด้วย

ฉะนั้น การหาวิธีป้องกันให้สุนัขอยู่รอดปลอดภัยได้ดีที่สุดเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะเวลาที่สุนัขเป็นฮีตสโตรก ขั้นตอนสุดท้าย อาการโคม่าและเสียชีวิตได้ จึงไม่ควรมองข้ามความปลอดภัย ก่อนจะสูญเสียสัตว์เลี้ยงโดยไม่จำเป็น

สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : โรคฮีตสโตรกในสัตว์เลี้ยง

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]