ชัวร์ก่อนแชร์ : Statin ยาลดคอเลสเตอรอล ก่ออันตราย จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์บทความที่อ้างผลงานแพทย์คนหนึ่งที่ประเทศอังกฤษ เกี่ยวกับ “ความจริง” ของคอเลสเตอรอล รวมทั้งบอกว่าไม่ต้องกังวลหากคอเลสเตอรอลสูง ขณะที่ยา Statin ที่หมอจ่ายให้ผู้ป่วยกินเพื่อลดคอเลสเตอรอล อันตรายและไม่จำเป็น


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล อาจารย์พิเศษ ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ประธานคณะทำงานสร้างความเข้มแข็งประชาชนด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (สยส.)

บทความที่ว่านี้อ้างอิงจากแพทย์คนหนึ่ง พยายามจะสื่อสารตรงกันข้ามกับที่แพทย์ส่วนใหญ่ปฏิบัติอยู่ เช่น บอกว่า “ไขมันสูง ไม่เชิงเป็นอะไรหรอก…” หรือ “ถ้ามัวไปกินยา อาจจะเกิดผลเสียด้วยนะ..”


ตรงนี้ต้องขอแก้ไข การที่แพทย์ได้ตัดสินใจให้ประชาชนคนหนึ่งใช้ยาลดไขมัน (ยาลดไขมันมีหลายชนิด เรียกว่ายากลุ่ม “สแตติน” ประชาชนอาจจะรู้จักในชื่อว่า “ซิมวาสแตติน” “อะทอร์วาสแตติน” เป็นต้น) ซึ่งเป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ หมายความว่า ผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศพร้อมใจกันเห็นว่ายานี้เป็นยาจำเป็น

ยา “สแตติน” อันตราย ?

ข้อความที่แชร์บอกว่า “ใช้แล้วจะมีอันตราย ก. ข. ค. ง.” ซึ่งเป็นเรื่องปกติของยาทั้งหลาย เช่น


ผู้ป่วยเบาหวาน ใช้ยาเบาหวาน ก็มีผลข้างเคียงจากยาเบาหวาน

ผู้ป่วยความดันเลือดสูง ใช้ยาลดความดันเลือดสูง ก็มีผลข้างเคียงจากยาลดความดันเลือดสูง

การใช้ยาสแตติน ผลข้างเคียงจากยาที่พบได้คือ ปวด ๆ เมื่อย ๆ ตามกล้ามเนื้อ ถ้ามีการลดขนาดยาลง บางคนอาการก็หายไป นอกจากบางคนเท่านั้น (มีคนกินยาสแตตินประมาณ 1-2 แสนคน พบมีอาการรุนแรง 1 คน) ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้จริง ๆ แพทย์ก็ตามดูให้อยู่แล้ว ก็พอรู้ว่าถึงจุดที่จะต้องหยุดยาหรือไม่

คอเลสเตอรอล ไม่อันตราย ?

มีงานวิจัยบอกว่าคอเลสเตอรอลสูงไม่เห็นจะเป็นโรคหัวใจเลย ตรงนี้ไม่ถูกต้อง ถ้าหากไปเชื่อก็จะส่งผลให้บุคคลที่จำเป็นต้องใช้ยาสแตตินหยุดการใช้ยา ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงได้ โรคที่เป็นอาจจะกำเริบขึ้นมาอีก

ไขมันสูง “ช่างมัน” ทิ้งไว้…” ?

“ไขมันสูง” ไม่ใช่เรื่อง “ช่างมัน” อย่างนี้ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะคนที่เคยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งจะต้องได้รับยาในกลุ่มสแตตินไปกิน เพื่อลดไขมันให้อยู่ระดับที่เหมาะสม

ผู้ที่เขียนบทความเหล่านี้ อาจจะมีความเชื่อว่า “ไขมันสูง” ไม่ได้เป็นผลเสีย การอ่านงานวิจัย 1-3 ชิ้น (ตรงกับสิ่งที่คิด) จึงนำมาบอก แต่ถ้าไปดูงานวิจัยอีกเป็นร้อยเป็นพันเรื่อง ที่แพทย์ทั้งโลกใช้กันอยู่ ซึ่งจะเป็นผลไม่ใช่อย่างที่เขาพูดหรอก ไขมันในเลือดสูงมีผลเสียอย่างแน่นอนต่อผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง

ไม่ตัดสินใจ “หยุดยา” โดยไม่ปรึกษาแพทย์ ?

บุคคลที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจแล้ว และ/หรือ เป็นโรคหลอดเลือดสมองแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ยาสแตตินตลอดไป ถึงแม้ว่าวัดไขมันในเลือดแล้วก็ไม่ได้สูงแต่อย่างใด

เนื่องจากยากลุ่มสแตตินนี้นอกจากมีฤทธิ์ลดไขมันไม่ดี (Low-density Lipoprotein : LDL) เพิ่มไขมันดี (High Density Lipoprotein : HDL)

นอกจากนี้ ยากลุ่มสแตตินยังมีฤทธิ์อีกหลายประการ ที่สำคัญข้อหนึ่งก็คือ ลดการอักเสบของหลอดเลือด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการตีบอุดตันของหลอดเลือด แต่ถ้ายังไม่ถึงขั้นต้องกินยา ก็มีอีกหลายแนวทางเช่นกัน

เมื่อแพทย์พิจารณาแล้วว่า ประโยชน์ที่ได้จากยามีมาก และอันตรายจากยามีน้อย นี่แหละจุดที่แพทย์เริ่มใช้ยา ที่เรียกว่า “ใช้ยาอย่างสมเหตุผล” คือพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วว่าสมควรจะใช้ยา

ในทางตรงกันข้าม ถ้ามีไขมันสูงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ก็ไม่มี อายุก็ไม่มาก คำนวณดูแล้ว ความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจใน 10 ปีข้างหน้า อาจจะมีเพียง 1-3% อย่างนี้ การมีไขมันสูงเพียงอย่างเดียว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยา

สงสัยระดับความเสี่ยงของตนเอง มีเว็บไซต์ช่วยคำนวณ ?

ในประเทศไทย มีเว็บไซต์ Thai CV Risk พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยมหิดล ประชาชนสามารถใส่ข้อมูลลงไปได้เอง ใส่เสร็จ ระบบจะคำนวณออกมาเลยว่ามีความเสี่ยงกี่เปอร์เซ็นต์ ใน 10 ปี แต่มีองค์ประกอบอื่น ๆ ใช้พิจารณาร่วมด้วยที่ไม่ได้อยู่ในโปรแกรม แพทย์ก็จะนำมารวมกัน https://med.mahidol.ac.th/cardio_vasc…

บทความเกี่ยวกับคอเลสเตอรอล เป็นอย่างไร ?

ไม่ควรแชร์ต่ออย่างยิ่ง จะทำให้ประชาชนที่จำเป็นต้องใช้ยานี้หยุดการใช้ยา ถ้าใครได้รับการแชร์ข้อมูลนี้ แล้วกำลังใช้ยาอยู่ด้วย อย่าหยุดยาเอง ควรไปปรึกษาแพทย์ที่รักษาก่อน

สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติม รายการ ชัวร์ก่อนแชร์ : Statin ยาลดคอเลสเตอรอล ก่ออันตราย จริงหรือ ?

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]